“เส้นใยจากผักตบชวา” นวัตกรรมสิ่งทอรักษ์โลก เพื่อชุมชมยั่งยืน
by ThaiQuote, 27 พฤศจิกายน 2564
ผักตบชวา กลายเป็นวัชพืชที่สร้างปัญหาให้กับประเทศ ซึ่งต้องสูญเสียงบประมาณในการกำจัดไม่น้อยในแต่ละปี ด้วยเหตุดังกล่าว ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) จึงได้วิจัยการนำมาใช้ประโยชน์เพื่อผลิตเป็นเส้นด้ายและผ้าจากผักตบชวาขึ้นในปี 2563 โดยได้รับงบสนับสนุน สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
ดร.ศุภนิชา ศรีวรเดชไพศาล นักวิจัยจาก มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า การพัฒนา “นวัตกรรมเส้นใยจากผักตบชวา” เริ่มต้นจากการทำให้ผักตบชวามีเส้นใยละเอียด โดยทำให้เส้นใยมีความสะอาด
จากผักตบชวาสด 100 กก. เลือกต้นมีความยาวตั้งแต่ 40-50 ซม.ขึ้นไป เพื่อให้ได้เส้นใยที่เหมาะสมกับการผลิต จะได้เป็นเส้นใยแห้ง (ตากแห้งแล้ว) ประมาณ 5 กก. เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือทิ้ง
เส้นใยผักตบชวาแห้งกิโลกรัมละ 400 บาท นำผ้าที่ได้ไปใช้สร้างเอกลักษณ์ (เสื้อผ้าสำเร็จรูป) ต้นทุน 1,400 บาท นำไปจำหน่ายราคาตัวละ 2,400 บาท มีรายได้เพิ่มขึ้น 1,000 บาท/ชุด
นอกจากนี้ยังมีการ ผลิตกระเป๋า หมวก หน้ากากอนามัย และรองเท้า (เครื่องประกอบการแต่งกาย) เก้าอี้ (เคหะสิ่งทอ) เป็นต้น
โดยใช้เส้นใยจากผักตบชวา 40% : ฝ้าย 60% หรือ ผักตบชวา 20% : ฝ้าย 80% ในการผสมเพื่อให้ได้เส้นใยจากธรรมชาติ ที่มีความแตกต่างทางผิวสัมผัสไม่มากนัก โดยในส่วนที่มีผักตบชวา 40% นั้นให้ความรู้สึกถึงความเป็นผักตบชวาอยู่ กับแบบ 20% ที่มีผิวมันนุ่มขึ้น
จากนั้นทีมวิจัยได้มีการต่อยอดองค์ความรู้ลงไปสู่ชุมชน เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีชุมชนต่างๆ รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อไปประยุกต์ใช้แล้ว อาทิ ชุมชนผลิตเสื้อผ้า ชุมชนผลิตพวกเก้าอี้ (เคหะสิ่งทอ) ผลิตพรมจากผักตบชวา
โดยการผลิตพรมจะมีทีมนักวิจัย คอยช่วยดูแล เรื่องของเทคนิคการผลิตที่ไม่เกิดปัญหาเชื้อรา ส่วนผ้าทอที่ใช้ผลิตเป็นเสื้อผ้าทั่วไปการผลิตจะทำในเชิงอุตสาหกรรมโดยมี บริษัทก้องเกียรติเท็กซ์ไทล์ เข้ามาช่วยในเรื่องของการผลิตผ้า ผลิตเส้นด้ายขึ้นมา และต่อยอดในเรื่องของการทำสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อให้ชาวบ้านนำรูปแบบไปใช้ นำผ้าไปใช้ แล้วเขาเกิดรายได้ขึ้นมา
ขณะเดียวกัน ทีมวิจัยยังได้นำองค์ความรู้เรื่องการผลิตเส้นด้าย ลงไปสอนให้กับพัฒนาชุมชนใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบันสามารถผลิตเส้นด้ายได้เอง ตั้งแต่กระบวนการเส้นใย-เส้นด้าย จนเกิดการสร้างแบรนด์เป็นแบรนด์ผักตบของอยุธยาได้อีกด้วย
รวมทั้งการจำหน่ายในต่างประเทศที่มี บริษัท ก้องเกียรติเท็กซ์ไทล์ จำกัด นำเส้นด้ายจากการพัฒนาส่งออกไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และสมาคมของใช้ของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน โดยคุณวิลาสินี ชูรัตน์ นำผ้าไปใช้ในสมาคมฯ OTOP บ้านหัตถศิลป์ และนิกรเครื่องหนัง นำผ้าไปใช้สร้างจุดเด่นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง สร้างโอกาสทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น
สำหรับชุมชนที่สนใจต้องการขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี โทร.062-351-6396