เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ เล็งใช้เทคโนโลยีอนุรักษ์พลังงาน ชวนลูกบ้านร่วมลดโลกร้อน สนับสนุนเป้าหมาย SDGs

by ThaiQuote, 24 มกราคม 2565

บมจ. เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศปี 2565 การก่อสร้างเน้นเทคโนโลยีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เริ่มจากแผนติดตั้งแผงวงจรพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการ เค.ซี.สุวินทวงศ์ 2 โซนอาคารพาณิชย์

นายสันติ ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์และลดผลกระทบต่อธรรมชาติ และให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะเปิดตลาดโครงการที่มีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย

“เทรนด์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือโครงการบ้านที่อยู่อาศัยในปีนี้ จะเน้นเรื่องความยั่งยืน สุขภาพ และการจัดพื้นที่ ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานที่หลากหลายเนื่องจากวิถีชีวิตแบบนิวนอร์มอลที่เป็นผลมาจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้คนทำงานที่บ้านและ ทำกิจกรรมที่บ้านหลากหลายมากขึ้น ผู้บริโภคจึงต้องการบ้านที่มีพื้นที่ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้รองรับกิจกรรมหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์แบบนิวนอร์มอล นอกจากนี้องค์กรและคนทั่วโลกต่างก็ตื่นตัวกับเรื่องเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือ SDGs (Sustainable Development Goals) เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก การดำเนินธุรกิจของเรารวมถึงการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ จึงคำนึงถึง 3 เรื่องนี้เป็นหลักเช่นกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่เราเริ่มดำเนินการมาก่อนแล้ว และจะเข้มข้นมากขึ้นในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป” นายสันติกล่าว

เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้พิจารณานำเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้ามาใช้ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว โดยในปี 2565 บริษัทฯ จะเริ่มติดตั้งแผงวงจรพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการ เค.ซี.สุวินวงศ์ 2 โซนอาคารพาณิชย์ โดยโครงการนี้เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ Contemporary ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่มีวิสัยทัศน์ ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม

การออกแบบโครงการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นแนวทางที่ เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญมาตลอด เช่น โครงสร้างบ้านที่มีระบบระบายอากาศที่ดี การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงที่คงทนและช่วยลดความร้อนภายในบ้าน การออกแบบบ้านโดยดูทิศทางลมและแสง เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากลมและแสงตามธรรมชาติซึ่งนอกจากจะอยู่สบาย บรรยากาศในบ้านจะดูอบอุ่น สบาย ไม่ร้อน แล้วยังประหยัดไฟอีกด้วย รวมทั้งได้เริ่มนำเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในโครงการต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน ได้แก่ระบบไฟส่องสว่างที่เป็น LED ดาวน์ไลท์ ซึ่งประหยัดพลังงานสูง มีอายุการใช้งานยาวนาน และระบบสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำเป็นพิเศษ เป็นต้น

“เรื่องของความยั่งยืน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นความรับผิดชอบและต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน การที่เราเน้นการออกแบบโครงการที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมไปโดยอัตโนมัติ และทำให้สังคมได้ตระหนักถึงบทบาทของตนในการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้เชื่อว่าจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในบ้านของเราจะจุดประกายที่ยิ่งใหญ่และเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ในอนาคต” นายสันติกล่าวเสริม.