รัฐต้องการเด็กเกิดเพิ่ม แต่เด็กไทยมีปัญหาทุกชนชั้น ทุกมิติ

by วันทนา อรรถสถาวร , 26 กุมภาพันธ์ 2565

จากนโยบายการคุ้มกำเนิดที่มีประสิทธิภาพกว่า 30 ปี ส่งผลให้อัตราการเกิดของเด็กรุ่นใหม่ลดลงมาก จนในอีก 10 ปีข้างหน้า ไทยเป็นสังคมผู้สูงวัย รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้เด็กเกิดใหม่มากๆ...แต่ปัญหาเด็กยังมีอยู่ทุกชนชั้น

 

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย เนื่องจากในรอบกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยลงไปอย่างมาก ทำให้โครงสร้างทางประชากรศาสตร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะขาดคนวัยหนุ่มสาวเข้าสู่ตลาดแรงงานน้อย ไม่สามารถสร้างผลผลิตมวลรวมของชาติเพื่อมาเลี้ยงดูชนชั้นสูงวัย

เมื่อไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีโครงการที่จะส่งเสริมการเกิดให้มากขึ้น แต่การเลี้ยงดูเด็กเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และมีมิติต่าง ๆ มากมาย ทาง Thaiquote ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณกอบกาญจน์ ตระกูลวารี ผู้อำนวยการสหทัยมูลนิธิที่คลุกคลีอยู่กับปัญหาของเด็กไทยมากว่า 40 ปี มาเล่าเรื่องราวปัญหาของเด็กไทยในมิติต่าง ๆ เพื่อให้ตระหนักและเตรียมพร้อม หากเราต้องการส่งเสริมให้เด็กเกิดขึ้นมาก ๆ ในสังคมไทย

ปัจจุบันนี้เด็กมีปัญหาอะไรบ้าง

ทุกอย่างในสังคมล้วนเป็นปัญหาของเด็ก เริ่มตั้งแต่พ่อแม่ ครอบครัว ปัญหาของสังคมทุกอย่างล้วนมีผลกระทบต่อเด็ก ไม่ว่าจะเศรษฐกิจตกต่ำ เกิดสงคราม ความขัดแย้ง ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมล้วนมีผลกระทบต่อเด็กหมด เช่น เวลาเกิดสงคราม ก็จะเกิดปัญหาเด็กกำพร้า เด็กพิการ ถูกนำไปฆ่า หรือส่งเข้าสู่สนามของการสู้รบ เป็นต้น

ในกรณีที่หลายปีมานี้วิกฤตโควิด พ่อแม่หลายคนก็ติดโควิด ทำมาหากินไม่ได้ก็มีผลกระทบกับเด็ก ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างของสังคมล้วนมีผลกระทบกับเด็ก ความเครียดของพ่อแม่ เศรษฐกิจด้านความเหลื่อมล้ำที่สูง ทำให้พ่อแม่ต้องดิ้นรนมาก ทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมจะทำให้มีเด็กรับโอกาสล้นจากพ่อแม่ที่รวย กับเด็กที่ยากจน ครอบครัวที่ยากจน เด็กก็จะเข้าถึงอาชีพรายได้ที่มั่นคงน้อย คนจนชั่วโมงการทำงานจะยาวมาก เพราะค่าตอบแทนต่ำ ทำให้เขาไม่มีเวลาเลี้ยงดูเด็ก แค่นี้ก็มีผลกระทบต่อเด็กได้อย่างมากมายแล้ว

 

 

สำหรับปัญหาของเด็กไทยมีอะไรบ้าง

เด็กไทยมีปัญหาทุกอย่าง แม้แต่เด็กที่รวย หรือเด็กชนชั้นกลางทั่วไปก็มีปัญหา พ่อแม่ไม่ได้เข้าใจการเปลี่ยนไปของสังคม ทำให้ไม่สามารถจัดสรรการเลี้ยงดูที่เหมาะกับเขา ถ้าเป็นเด็กยากจนปัญหาก็ยิ่งมากเข้าไปใหญ่ การเข้าไม่ถึงของอาหารที่เหมาะสม การศึกษาที่มีคุณภาพ จริง ๆ ปัญหาเรื่องเด็กในเมืองไทยมีทุกจุด เช่น เรื่องของการศึกษาก็ไม่ทันกับสังคมที่เปลี่ยนแปลง เด็กทั่วไปก็ไม่สามารถที่จะเรียนในหลักสูตรที่มีคุณภาพและทำให้เด็กเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม ขาดทักษะเรื่องการคิดวิเคราะห์ เพราะการสอนของเราเน้นเรื่องการท่องจำ เรียนตามระบบ

ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา วิกฤตของโควิดก็ได้ส่งผลกระทบกับเด็กทุกคนอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ถดถอยกว่าการเรียนทางออฟไลน์ การเรียนในระบบออนไลน์ ทำให้เด็กขาดทักษะทางสังคม คุณภาพของการศึกษาลดลง เด็กส่วนหนึ่งหลุดออกจากระบบการศึกษา

ปัญหาที่เกี่ยวกับแม่และเด็กของเมืองไทยมีมาก สวัสดิการก็ไม่ดี ในต่างประเทศแม่คลอดบุตร ให้พ่อแม่ลาได้ 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อให้สามารถเลี้ยงดูลูกอย่างมีคุณภาพ บ้านเราให้ลาได้เพียง 3 เดือน ในบางกรณี โรงงานไม่รับเข้าประกันสังคม เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาคลอดบุตร การลาคลอดคือการลาออก

ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือปัญหาความรุนแรงทางสังคมแล้วซึมซับเข้าสู่เด็ก เช่น ปัญหาจากการดูสื่อ ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นทันที แต่เป็นปัญหาระยะยาว รัฐบาลต้องเข้ามาแทรกแซงให้ปัญหาเหล่านี้ลดลง ปกป้อง ดูแลเด็ก ให้เข้าถึงความรุนแรงต่าง ๆ ให้น้อยที่สุด

 

 

วิกฤตปัญหาเด็กของประเทศไทยเพิ่มขึ้นหรือลดลง

บางเรื่องเพิ่มขึ้น บางเรื่องลดลง เช่น การขาดสารอาหาร ปัจจุบันนี้เราไม่ค่อยเจอแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะอัตราการเกิดต่ำ อัตราการตายต่ำลง ปัญหาความพิการตั้งแต่กำเนิดมีน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นโรคโปริโอ เป็นต้น เพราะสัดส่วนคุณแม่ฝากครรภ์มีมากขึ้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันสำหรับเด็กยากจนคือการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม รับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำให้ได้อาหารที่ไม่ได้ประโยชน์ อาหารขยะ ส่วนปัญหาอื่น ๆ ที่กำลังเป็นเรื่องใหญ่คือปัญหาด้านจิตใจ ขาดการดูแลอย่างใกล้ชิด ระบบการศึกษายังไม่พร้อม สวัสดิการที่ควรจะมีเพิ่มขึ้น แม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีเงินอุดหนุนบ้างแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ

ทุกชนชั้นมีปัญหาหมด เพราะสังคมมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นทำให้เด็กทุกชนชั้นมีโอกาสได้รับความรุนแรงจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง สื่อ เช่นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียอย่างเสรีของเด็กไทย การเข้าถึงโทรศัพท์ตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นรูปแบบการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม

 

 

ปัจจุบันปัญหาเรื่องคุณแม่วัยใสเป็นอย่างไรบ้าง

จากตัวเลขสถิติตัวเลขปัญหาของคนแม่วัยใสลดลง เนื่องจากทางนักสังคมสงเคราะห์และฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำงานในเชิงป้องกันไว้มาก เด็ก ๆ ก็เรียนรู้เรื่องการคุมกำเนิดดีขึ้น แต่ก็มีตัวเลขบางส่วนที่หายไปเพราะไปจบที่การทำแท้งส่วนหนึ่ง เพราะตัวเลขกากรทำแท้งไม่มีการยืนยัน เพราะมีทั้งที่ทำแท้งถูกกฎหมายและการทำแท้งเถื่อน แต่หมอก็มีความเข้าใจมากขึ้น มีเครือข่ายและโรงพยาบาลที่ทำแท้งอย่างถูกสุขลักษณะเพิ่มมากขึ้น ทำให้คนเข้าถึงบริการนี้ได้มากขึ้น

ส่วนเกณฑ์ในการทำแท้งมีอยู่แล้ว เช่น สุขภาพของแม่ สุขภาพของเด็กที่จะเกิดมา ตลอดจนปัญหาภาวะทางสังคม เช่น เรื่องของการปกปิด ไม่พร้อมที่จะดูแลเด็ก ก็จะมีการพิจารณาในส่วนนี้ด้วย ทางการควรมีแนวทางตลอดจนทางออกให้คุณแม่วัยใสเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นก็นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่รุนแรง เช่น การทำลายเด็ก การทอดทิ้งเด็ก ตลอดจนปล่อยปละละเลยโดยไม่ตั้งใจ รัฐเองก็ต้องมีบริการเสริม ช่วยให้แม่เหล่านี้มีอนาคตที่มั่นคง ให้ได้มีโอกาสที่จะเรียนหนังสือ ทำงาน ส่งเสริมเรื่องอาชีพ ปัจจุบันนี้รัฐบาลพยายามจะทำ และคาดว่าจะค่อย ๆ ประสบผลสำเร็จมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำในเชิงป้องกันด้วย เช่น บริการถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิดฟรี สำหรับเด็ก นอกจากนี้ถ้าอายุน้อยเกินไป ก็ให้ทำแท้งได้ทันที เพราะการท้องในอายุของแม่ที่น้อยเกินไป มีความเสี่ยงที่เด็กเกิดมาจะพิการ

 

ส่วนเด็กที่เกิดมาจากคุณแม่วัยใส ถ้าหากเขามีตัวช่วย เช่น ตายายหรือญาติคนอื่น ๆ พร้อมที่จะสนับสนุน หรือแม้แต่ที่สหทัยมูลนิธิก็มีการช่วยเหลือกับคุณแม่ในกลุ่มนี้ เช่น ช่วยเรื่องนมผงราคาถูก ให้ทุนการศึกษาให้พ่อแม่ได้เรียนต่อ มีบริการเดย์แคร์สำหรับเด็ก 6 เดือน ถึง 2 ขวบ 6 เดือน เป็นการช่วยเหลือให้เขามีโอกาสได้เลี้ยงดูลูกด้วยตัวเอง แต่ถ้าเขาไม่พร้อมจริง ๆ ต้องยกมอบ ทางมูลนิธิก็มีครอบครัวอุปถัมภ์ให้ดูแลเป็นการชั่วคราวก่อน เมื่อเขาพร้อมจะรับกลับไปดูแลต่อ หรือหากไม่ต้องการจริง ๆ ก็จะมีครอบครัวบุญธรรมซึ่งเป็นครอบครัวถาวรรับไปเลี้ยงดู ทั้งหมดนี้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุที่ว่าเด็กทุกคนต้องมีครอบครัวดูแล ดีกว่าปล่อยเด็กอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก นำเด็กไปฆ่า ปัญหาเรื่องการมีลูกเมื่อไม่พร้อม เป็นปัญหาซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับทักษะการคิด การตัดสินใจ การยับยั้งชั่งใจ ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ยากมากในสังคมปัจจุบัน เพราะทุกอย่างตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

 

  

ปัญหาของเด็กในชุมชนแออัดเป็นอย่างไร

ส่วนใหญ่เด็กในชุมชนแออัดเป็นปัญหาที่ซับซ้อน เช่น สภาพบ้านที่คับแคบไม่ถูกสุขลักษณะ พ่อแม่ที่มีชั่วโมงการทำงานมาก เพราะรายได้ต่ำ บางคนมีปัญหาสุขภาพ ทำให้เด็กไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดี ต้องอยู่คนเดียว ต้องช่วยเหลือตัวเอง หากินเอง มีชีวิตที่ดิ้นรน ทำให้มีความเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายก็มีมากขึ้น เด็กก็จะเข้าสู่วงจรขายยาได้ง่าย รวมทั้งพ่อแม่ของเขาด้วย เพราะความเครียดจากชีวิต ทำให้ต้องหันไปพึ่งยา พึ่งสุรา ทำให้ความเสี่ยงของเด็กในชุมชนแออัดมีสูง แต่ก็มีเด็กดีที่อยู่รอดได้ในสังคมเหล่านั้นเหมือนกัน

 

 

บทบาทของสหทัยมูลนิธิเป็นอย่างไรบ้าง

หน้าที่หลักของเราคือการเข้ามาฟื้นฟูครอบครัวที่มีปัญหา มีวิกฤตให้สามารถเลี้ยงดูลูกได้เอง เลี้ยงอย่างมีคุณภาพ เพื่อป้องกันปัญหาทุกอย่างที่จะเกิดกับเด็ก เพราะว่าครอบครัวคือพื้นที่ที่ควรจะปลอดภัยสำหรับเด็ก ตอนนี้ทำอยู่ประมาณกว่า 600 ครอบครัว ทำงานช่วยเหลือผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม ฝากเลี้ยงชั่วคราว จัดหาครอบครัวบุญธรรม

ปัญหาความพร้อมในการดูแลเด็กในอดีต เมื่อมาฝากกับมูลนิธิ มีโอกาสที่จะรับกลับสูงกว่าปัจจุบัน นอกจากนี้มิติในเมืองใหญ่กับมิติในต่างจังหวัดก็แตกต่างกัน คนในท้องถิ่น มีโอกาสที่จะรับลูกกลับไปเลี้ยงต่อเมื่อพร้อมมีสูงกว่าคนในเมือง เพราะว่าพ่อแม่ เพื่อนบ้าน ชุมชน มีส่วนที่จะสนับสนุนเขาได้ คนในเมืองส่วนใหญ่มาจากการโยกย้ายจากชนบทเข้ามา ทำให้ไม่มีรายได้เลี้ยงลูก ส่วนคนมีรายได้ก็ไม่มีเวลา หรืออายเพื่อนร่วมงาน ปัจจัยการยกมอบในระยะหลัง ๆ จะสูงกว่าแต่ก่อนมาก

 

คิดอย่างไรที่รัฐบาลส่งเสริมให้มีเด็กเกิดมากขึ้น

สังคมไทยควรมีนโยบายแบบนี้ เพราะปัจจุบันอัตราการเกิดต่ำ เพราะโครงสร้างแบบนี้ทำให้คนที่เป็นวัยทำงานมาดูแลวัยอื่นมีสัดส่วนที่น้อยลง เพราะคนที่มีความพร้อมทางเศรษฐกิจก็ไม่มีลูก การมีลูกถือว่าเป็นอุปสรรคที่สำคัญอันหนึ่ง การมีนโยบายนี้ต้องมีสวัสดิการที่ดีรองรับด้วย เพราะเป็นการลงทุนสำหรับอนาคต เช่น การลาคลอดต้องให้ยาวขึ้น มีเงินสนับสนุนให้ครอบครัวเลี้ยงดูลูก เงินสนับสนุนแรกเกิด ซึ่งปัจจุบันนี้ให้อยู่ที่เดือนละ 600 บาท/เดือน เฉพาะในกลุ่มที่ยากจน รัฐบาลควรมีแรงจูงใจมากกว่านี้ ในหลายประเทศก็มีโครงการสนับสนุน ให้เงินเดือนแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก การมีเดย์แคร์ราคาถูก เดย์แคร์ในที่ทำงาน เป็นต้น การเลี้ยงเด็กเป็นเรื่องลำบาก เป็นภาระ ไม่ใช่หน้าที่ของพ่อแม่อย่างเดียว แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลด้วย

นอกจากนี้รัฐเองก็ต้องสนับสนุนสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องที่จะให้เด็กได้เติบโตในสิ่งแวดล้อมดี ๆ ด้วย ต้องมีสนามกีฬา ห้องสมุด สถานที่ให้เด็กมีกิจกรรมได้หลากหลาย มากกว่าการมีห้างที่มีอยู่มากมาย.