จัดเต็ม! สธ.ขนทัพ “นวัตกรรมการแพทย์” โชว์งานประชุม APEC Health Week ชูเครื่องตรวจโควิดจากลมหายใจแม่นยำสูง

by ThaiQuote, 22 สิงหาคม 2565

กรมการแพทย์ ขนทัพ “นวัตกรรมทางการแพทย์” แสดงภายในงานประชุม APEC Health Week ทั้งเครื่องตรวจโควิดจากลมหายใจ ไม่ต้องแยงจมูก เจาะเลือด หรือใช้น้ำลาย รู้ผลใน 5 นาที แม่นยำสูง เครื่องตรวจชนิดเบาหวานจากลมหายใจ ระบบบันทึกทางการแพทย์ด้วยเสียงภาษาไทย เวชสำอางจากกัญชา ชูตอบโจทย์การดูแลรักษา แก้ไขปัญหาบริการ ต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้

 

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในงานประชุม APEC Health Week ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กทม. ภายใต้หัวข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์กับภาคี เชื่อมโยงกันกับโลก สู่สมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ” นั้น ในส่วนของกรมการแพทย์ได้รับมอบหมายในการนำเสนอนิทรรศการนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ล้ำสมัย และเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อผู้มารับบริการและบุคลากรทางการแพทย์ ตอบสนองนโยบายของชาติและความต้องการของประชาชน

ตัวอย่างเช่นการฟื้นฟูสุขภาพและเศรษฐกิจภายหลังการระบาดของโรคโควิด 19 เช่น นวัตกรรมตรวจคัดกรองโควิด 19 จากลมหายใจ (Volatile Exhale Breath Analysis: VEBA) ของ รศ.(พิเศษ) นพ.สถิตย์ นิรมิตรมหาปัญญา โรงพยาบาลราชวิถี และ ดร.เธียร์สิทธิ์ นาสัมพันธ์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้ไม่ต้องเจ็บตัวในการแยงจมูกหรือเจาะเลือด และไม่ต้องใช้น้ำลาย โดยเป็นการวิเคราะห์ลมหายใจเพื่อจำแนกกลิ่นที่แตกต่างกันของคนติดเชื้อกับคนไม่ติดเชื้อ พบว่า มีความไว (Sensitivity) และความจำเพาะ (Specificity) สูง สามารถรู้ผลตรวจได้ภายใน 5 นาที ช่วยคัดแยกผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว เข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันท่วงที และลดโอกาสในการระบาดของเชื้อโควิด 19 ในวงกว้างได้ มีค่าใช้จ่ายในการตรวจไม่เกิน 10 บาท/คน

นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า ผลงานนวัตกรรมของทั้ง 2 ท่าน ที่นำมาแสดงด้วยอีกชิ้น คือ “เครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดจากอะซิโตนในลมหายใจ (G-Breath)” ใช้ตรวจและบอกชนิดของเบาหวาน ซึ่งเป็นผลงานวิจัยที่มีการพัฒนาออกแบบเซนเซอร์เพื่อใช้ตรวจวัดก๊าซทั้ง 4 ชนิดที่ออกมาพร้อมกับลมหายใจ ได้แก่ อะซีโตน เอทานอล คาร์บอนไดออกไซด์ และ เมทิลไนเตรท ซึ่งก๊าซทั้ง 4 ชนิดนี้สามารถใช้เป็น biomarker ยืนยันภาวะของโรคเบาหวานได้มากกว่า 99%

นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมอื่นๆ เช่น การพิมพ์สามมิติเพื่อช่วยการรักษาทางการแพทย์ นำโดย รศ.(พิเศษ) นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ และ นพ.ภัทร จุลศิริ โรงพยาบาลราชวิถี ช่วยทำให้การกำหนดตำแหน่งเพื่อผ่าตัดหรือฉายแสงมะเร็งมีความแม่นยำขึ้น ช่วยทำโมเดลการเรียนการสอนในโรคที่ไม่ค่อยพบ ทำให้มีประสบการณ์ในการรักษาผ่านแบบจำลอง เช่น โมเดลหัวใจในโรคที่หายาก, Precision cutting guide ในโรคมะเร็งช่องปาก, กะโหลกเทียม (Cranioplasty) และ การทำเฝือกเฉพาะบุคคล, การใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อวินิจฉัยการตีบของหลอดเลือดหัวใจจากภาพถ่ายสแกนภาวะเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ โดย งานเวชศาสตร์นิวเคลียร์ กลุ่มงานรังสีวิทยา โรงพยาบาลราชวิถี เป็นการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยการพยากรณ์โรคหลอดเลือดตีบจากการตรวจหัวใจเชิงปริมาณทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โดยเป็นโครงการร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลราชวิถีกับสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง,

ระบบอำนวยความสะดวกในการจดบันทึกทางการแพทย์ โดย นพ.สิทธิ เชาวน์ชื่น โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี ซึ่งพัฒนาเทคโนโลยีการรู้จำเสียงพูดแล้วแปลงเสียงให้เป็นข้อความอักษรอัตโนมัติ รองรับการใช้งานภาษาไทยซึ่งซับซ้อนแตกต่างจากภาษาอังกฤษ ช่วยลดเวลาจดบันทึก ลดภาระหน้างานและค่าใช้จ่าย, และนวัตกรรมเวชสำอางกัญชาจากสถาบันโรคผิวหนัง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการใช้กัญชาทางการแพทย์ การดูแลสุขภาพ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาต้นแบบเวชสำอางด้านผิวหนังจากสารสกัดกัญชา (Nano-CBD) เช่น สบู่ ครีมบำรุงผิว เจลแต้มสิว เซรั่มบำรุงผม และสเปรย์บรรเทาอาการปวด โดยในบูธนิทรรศการมีบริการนวดบ่าหลังไหล่สำหรับผู้ที่มาร่วมงานอีกด้วย

“นวัตกรรมเหล่านี้เป็นนวัตกรรมเด่นของกรมการแพทย์ ที่มีการออกแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาการทำงาน การบริการ และการดูแลรักษาผู้ป่วยรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพและดีขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญคือลดการนำเข้าและสามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไปได้ จึงเป็นนวัตกรรมที่นำมาจัดแสดงภายในงานประชุม APEC Health Week ให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยและเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค” นพ.สมศักดิ์กล่าว.

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

สุดยอด 5 สตาร์อัพไทยและอาเซียนเปลี่ยนขยะพลาสติกให้มีมูลค่าเพิ่ม
https://www.thaiquote.org/content/247875

งานวิจัย มจธ.ใช้พืชยืนต้นลดฝุ่น PM 2.5 เสริมสร้างคุณภาพที่ดีในอากาศ
https://www.thaiquote.org/content/247862

ทีมนักศึกษาวิศวะมหิดล วิจัยเทคโนโลยีลดปริมาณก๊าซคาร์บอนฯ ด้วยความรู้ด้านวิศวกรรมเคมีมาประยุกต์ใช้
https://www.thaiquote.org/content/247858