ระดับก๊าซเรือนกระจกทำสถิติใหม่ในปี 2564 ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไนตรัสออกไซด์ แซงหน้าการเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มขึ้นของก๊าซมีเทนสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสะสมข้อมูล

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 65 สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่าความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยเป็นสถิติใหม่เมื่อปีที่แล้ว หน่วยงานสภาพอากาศของสหประชาชาติ กล่าวไว้เมื่อวันพุธที่ 26 ตุลาคม 65 โดยเตือนว่าเวลากำลังหมดลงสำหรับผู้คนในการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นในการจำกัดอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น .

รายงานประจำปีโดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเป็นรายงานฉบับแรกจากหลายฉบับที่เผยแพร่ก่อนการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติในเดือนหน้าในอียิปต์ และมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้ผู้นำต่าง ๆ เร่งดำเนินการ

การไต่ระดับความเข้มข้นของบรรยากาศของก๊าซเรือนกระจกทั้งสามชนิด ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไนตรัสออกไซด์ แซงหน้าการเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกหลัก คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 2.5 ส่วนต่อล้านเป็น 415.7 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยพบเห็นเมื่อ 3 ล้านปีก่อนเมื่อโลกร้อนขึ้นมาก รายงานระบุว่าการกระโดดของก๊าซมีเทนที่กักความร้อนนั้นสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกในปี 1983 มีเทนเป็นก๊าซหมายเลข 2 ที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนต่อจากคาร์บอนไดออกไซด์

“ความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของก๊าซกักความร้อนหลัก รวมถึงการเร่งความเร็วเป็นประวัติการณ์ในระดับก๊าซมีเทน แสดงให้เห็นว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ผิด” เพตเตรี ตาลาส เลขาธิการ WMO กล่าว เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านพลังงาน อุตสาหกรรม และ ระบบขนส่ง

"การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นมีราคาไม่แพงและเป็นไปได้ในทางเทคนิค เวลากำลังจะหมดลง" เขากล่าว

ก๊าซเรือนกระจกมีส่วนทำให้โลกร้อนและก่อให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น คลื่นความร้อนและฝนตกหนัก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาเมื่อหลายสิบปีก่อนนั้นต่างจากความสามารถที่จะลดลงได้ เช่น จากการเดินทางที่ลดลงและอุตสาหกรรมในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ คาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาเมื่อหลายสิบปีก่อนยังคงอยู่ในชั้นบรรยากาศและกระตุ้นกระบวนการที่ช้า เช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นตลอดหลายพันปี

WMO กล่าวว่านักวิทยาศาสตร์กำลังตรวจสอบหาสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของระดับก๊าซมีเทน 18 ส่วนต่อพันล้านเป็น 1,908 ในปีที่แล้วหลังจากการเพิ่มขึ้นที่คล้ายกันในปี 2020 การมีส่วนร่วมที่ใหญ่ที่สุดมาจากพื้นที่ชุ่มน้ำ หลุมฝังกลบ และนาข้าว ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เกิดมีเทนมากขึ้น WMO กล่าวว่าสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นทำให้กระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติเร็วขึ้น

Oksana Tarasova เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์อาวุโสของ WMO เรียกร้องให้มีการขยายเครือข่ายการตรวจสอบ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ “นี่น่ากลัวมาก คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน ถ้าคุณไม่เข้าใจกระบวนการที่แน่นอน” เธอบอกกับรอยเตอร์

ที่มา: รอยเตอร์

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

สัตว์ทะเลแตกต่างกันไปตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
https://www.thaiquote.org/content/248496
.
อากาศเปลี่ยนแปลงทำให้ต้นไม้ตะกละตะกลาม
https://www.thaiquote.org/content/248303
.
PepsiCo ประกาศโครงการรอบที่สองที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก Global Agriculture Accelerator
https://www.thaiquote.org/content/248510