จากสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี ตามข้อมูลสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่าในไตรมาสสองปี 2566 มีสัดส่วนสูงถึง 90.6% ต่อจีดีพี เข้าใจง่ายๆคือ ในเงิน 100 บาท เป็นหนี้ 90.6 บาท ยังไม่นับหนี้นอกระบบ ซึ่งยากต่อการเก็บข้อมูล

สถานการณ์เช่นนี้ ส่อเข้าสู่ “โซนอันตราย” ไม่แปลกที่รัฐบาลกำหนดให้ การแก้หนี้ เป็น “วาระแห่งชาติ” โดยระดมสรรพกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหา

หนึ่งในนั้นคือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐภายใต้กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีบทบาทในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยได้รับมอบหมายให้มีส่วนช่วยลดปัญหาหนี้ครัวเรือน (หนี้ในระบบ) ของประเทศผ่านโครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนชำระนาน

“ธรัฐพร เตชะกิจขจร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า SAM พร้อมตอบสนองนโยบายรัฐที่กำหนดให้การแก้หนี้เป็นวาระแห่งชาติ อย่างทันท่วงที ผ่าน “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ซึ่งจะช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นหนี้เสียประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและมีคุณสมบัติผ่านหลักเกณฑ์เข้าร่วมโครงการนี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3-5% ต่อปี และระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 10 ปี

โดยมีทางเลือกในการ “ปรับโครงสร้างหนี้” ใน 3 ทางเลือก คือ คือ 1. ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี 2. ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี และ 3. ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี

โดยคุณสมบัติผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 70 ปี มียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท และเป็นหนี้เสียค้างชำระมากกว่า 120 วัน และเพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาผลการสมัคร ขอให้ผู้ร่วมโครงการเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการสมัคร ดังนี้

1. เอกสารรายงานเครดิตบูโร 2. สำเนาบัตรประชาชน 3. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (กรณีผู้มีรายได้ประจำ) / รายการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ (กรณีอาชีพอิสระ)

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ในปี 2566 (ข้อมูล ณ เดือน พ.ย.66) มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 17,000 ราย หรือกว่า 43,000 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นประมาณ 3,200 ล้านบาท และหากนับตั้งแต่เปิดโครงการฯ ในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ สะสมอยู่ที่ 52,000 ราย หรือคิดเป็น 146,000 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท

“ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่เป็นวาระแห่งชาติ ถือเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ รวมทั้งการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินให้แก่ประชาชน เพื่อให้การแก้ไขหนี้ทำได้สำเร็จ และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นอีกในอนาคต อันเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสังคมต่อไป ส่วนคนที่เป็นหนี้เอง ก็ไม่ควรละเลย ควรเริ่มต้นทันทีในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียที่เผชิญอยู่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า อย่ารอจนถูกฟ้องดำเนินคดี อายัติเงินเดือนหรือถูกยึดทรัพย์สินซึ่งจะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นในอนาคต”

และนี่คืออีกหนึ่งหน่วยงานที่เข้ามามีบทบาทในการแก้หนี้ให้กับประชาชน ผ่อนภาระหนักให้เป็นเบา ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้น ช่วยลดภาระทางการเงินให้กับลูกหนี้ ที่เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่จะ..สายเกินแก้

เกี่ยวกับโครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-19.00 น. ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน (โซนลิฟท์แก้ว) ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (BTS สถานีรัชโยธิน) หรือสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ แอดไลน์ @debtclinicbysam และ Facebook คลินิกแก้หนี้ by SAM หรือติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ Call Center 1443