แม้ความตกลงจากปารีส (Paris Agreement) ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (IPCC) พบว่าอุณหภูมิโลกยังคงสูงขึ้น 1.1-1.2 องศาเมื่อเทียบกับช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงภาคสมัครใจ ในการดำเนินงานกาวางแผนปฏิบัติการของแต่ละเทศ (Nationally Determined Contributions-NDCs)

นั่นทำให้การประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP 28 (Conference of the Parties ครั้งที่ 28) ณ ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มีบทสรุปของ ประกาศปักธง เดินหน้า มุ่งเน้นแผนปฏิบัติการ ลงมือทำ (In Action) โดยมีแผนการติดตามผล (Stocktake), มีการปรับแผนการระดมทุน การเพิ่มพลังงานหมุนเวียน 3 เท่า และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 2 เท่า

เหตุผลสำคัญที่ทุกประเทศ ลืมเป้าหมาย พันธสัญญาปารีส เพราะหลังจากวิกฤติ โควิด 19 ทั่วโลก ทำให้ทุกคนมุ่งแก้ไขปัญหารับมือวิกฤติเฉพาะหน้า การใช้ขยะเพิ่มขึ้นจากการใช้ชีวิตออนไลน์ ป้องกันการติดเชื้อ และเมื่อกลับสู่ภาวะปกติ ก็มีการเดินทางตามปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมจะยังไม่คืบหน้าทั้งโลก แต่ผู้ที่เป็นผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลงก่อน คือกลุ่มประเทศพัฒนา ในสหรัฐอเมริกา และยุโรป ได้ดำเนินการเป็นต้นแบบการปรับเปลี่ยนกฎหมาย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในสังคม ทั้งการใช้พลังงานหมุนเวียน เป็นต้น การเคลื่อนไหวเหล่านี้ จึงคาดหวังว่าจะสร้างผลกระทบไปสู่สมาชิกประเทศที่เหลือ

นี่จึงเป็นต้นแบบการเปลี่ยนแปลงหลายด้านที่เกิดขึ้นแล้วในปี 2023 จะขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวให้เติบโตมากขึ้นภายในปี 2030 บนเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 45-50% ภายในปี 2030

     - กฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปที่บังคับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนให้ผลิตแบตเตอรี่ที่สามารถเปลี่ยนได้ง่าย
trillion-euro market for investment that's environmentally and socially sound.   
     - รัฐบาลอังกฤษ กำลังจะนำเสนอกฎหมายเครื่องหมายฉลากสีเขียว (green labels) แบ่ง 4 ประเภทธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยให้นักลงทุนและผู้บริโภคแยกแยะและเลือกกองทุนที่ยั่งยืน
     - ในประเทศไอร์แลนด์ มีกำลังการผลิตพลังงานจากลมเพิ่มขึ้นได้เกินความต้องการของไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไอร์แลนด์
     - เดนมาร์กเปิดตัว 'เรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์สีเขียว' ครั้งแรกในโลก
     - กำลังการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหินในสหภาพยุโรปลดลงเหลือเพียง 33% ใน 6 เดือนแรกของปี 2023
     - ฝรั่งเศสยกเลิกการใช้ใบเสร็จผ่านกระดาษเพราะเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น
     - สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปนำเสนอกฎหมายเกี่ยวกับฉลากและป้ายสีเขียว
     - เยอมนียอมลดค่ารถไฟราคา 49 ยูโร เพื่อส่งเสริมให้คนเดินทางรถไฟ เพื่อช่วยลดคาร์บอน ทำให้จำนวนผู้โดยสารขึ้น 25%
     - พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในโลกเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 33% โดย 2030
     - การตัดไม้ทำลายป่าอเมซอน ที่บราซิลลลงลง 68% เมื่อเดือนเมษายน 2023
     - สหภาพยุโรปห้ามนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า
     - อังกฤษประกาศห้ามใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
     - ลักเซมเบิร์กฉลอง 3 ปีของการขนส่งสาธารณะฟรี
     - ทั่วโลกติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิต 413 GW เพิ่มขึ้น 58% จากปี 2022
     - สหรัฐฯ จะจำกัดสารพิษจากเคมีที่มีอันตรายในน้ำดื่มตลอดไป
     - จุดเปลี่ยนของการคิดค้นนำพลังงานใต้พิภพ (Geothermal Energy) พลังงานความร้อนจากธรรมชาติแกนกลางโลกมาพัฒนาสู่พลังงานหมุนเวียน (Renewable)
     - ฝรั่งเศสมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้น้ำ และการอนุรักษ์น้ำ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือกับภัยแล้ง
     - ทั่วโลกมีมติร่วมมือกันครั้งแรกหลังจาก 10 ปีที่จะฟื้นฟู รักษา และปกป้องทรัพยากรในมหาสมุทร
     - บังคลาเทศและจอร์เจีย ได้แสดงผลลัพธ์ของการกำจัดการปนปื้อนโลหะหนักในอาหาร
     -รายงายขององค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า ชั้นบรรยากาศของโลกอยู่ในกระบวนการฟื้นตัวในเวลา 10 ปี
     -ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น 36% ปีนี้
     -สหภาพยุโรปยอมรับการยุติการใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากหินถ่าน ที่ COP28
     -การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจีนมีแนวโน้มลดลงในปีหน้า 2024
     -โปรตุเกสแลกหนี้แลกกับการลงทุน ด้านสภาพภูมิอากาศ
     - คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปนำเสนอกฎหมายต่อต้านการฟอกเขียว
     - บราซิลออกฎหมายคุ้มครอง ชนเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมเพราะบรรพบุรุษถือเป็นเจ้าของที่ดิน
     - หลังจากการปล่อยก๊าซจากกลุ่มพลังงานที่สูงที่สุด ในปี 2023 ทำให้ทั่วโลกตั้งเกณฑ์การติดตามตรวจสอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
     - คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ได้มีข้อตกลง 'New Deal for Pollinators'ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีให้ความสำคัญกับแมลง ผึ้ง เป็นผู้ปกป้องโลกภายในปี 2030
     - พลังงานทดแทนจะกลายเป็นแหล่งไฟฟ้าที่สำคัญที่สุดของโลกภายในปี 2025
     - รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติการปฏิรูปพลังงานโดยการเชื่อมโยงสายส่งไฟฟ้าทั่วประเทศ

แหล่งข้อมูล: AP, BBC, Bloomberg, NPR, Euronews, EUobserver, VOX, Axios, EUactiv, Le Monde, Tagesspiegel, Yahoo! Finance, ZEIT, FT, Lubomila Jordanova
https://www.euronews.com/green/2023/07/31/deutschlandticket-germany%20%E2%82%AC49%20a%20month,the%20country%20as%20they%20need.