ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ปรับโหมดสินค้ารักษ์โลก

by ESGuniverse, 19 มีนาคม 2567

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ INDEX NEXTPERIENCE & BEYOND +SUSTAINABLE FUTURE ดำเนินธุรกิจคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และจริยธรรม

ในปัจจุบัน เมื่อผู้บริโภคต่างถามหาความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ของธุรกิจ ทำให้ภาคธุรกิจ ก็ต้องเริ่มหันมาตระหนักถึงเรื่องการทำธุรกิจรับผิดชอบมากขึ้น เพราะการวิถีการบริโภคและการทำธุรกิจที่ผ่านมา มนุษย์เอาแต่บริโภคและปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


ภาคธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ก็ต้องให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อการผลิตและการจัดหาสินค้า รวมถึงวัสดุ ที่ใช้พลังงานมาก จากการผลิตและการขนส่ง จึงมีส่วนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้บริโภคออกมาเรียกร้องถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังมีกฎหมายฉบับใหม่หลายด้านที่จะเข้ามาวางกรอบการผลิต และการจำหน่ายรวมถึงการซื้อสินค้าของผู้บริโภค จะต้องลดลผลกระทบต่อโลก เพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษจากค่าปรับ ตลอดจน การสร้างการยอมรับชื่อเสียงและตราสัญลักษณ์สินค้า การมีส่วนช่วยดูแลทรัพยากรธรรมชาิตและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการสร้างการตระหนักรู้ในสังคม จะนำไปสู่การเติบโต สร้างผลกำไรในธุรกิจได้ในระยะยาว

 

ถือเป็นส่วนสำคัญจะนำพาธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนที่แท้จริงได้นั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนและทุกภาคส่วนต้องลงมือทำร่วมกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อต่ออายุโลกให้ยืนยาว ส่งต่อโลกที่สมบูรณ์งดงามไปยาวนานจวบจนชั่วลูกชั่วหลาน


โดยบมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของตกแต่งบ้านรวมถึงผู้ให้บริการพื้นที่เช่าภายใต้โครงการ The Walk, Litle Walk และ Index Mall ได้เดินหน้าสร้างการตลาดในใจคนสู่ความยั่งยืนด้วย

 


เจาะกลยุทธ์ 3 P 3 เสาเติบโตควบคู่สิ่งแวดล้อม สังคม

​นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยถึงกลยุทธ์ "INDEX NEXTPERIENCE & BEYOND + SUSTAINABLE FUTURE" เกิดขึ้นจากการยึดแนวคิด Triple Bottom Line เพื่อสร้างการตลาดในใจคนสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ประกอบด้วย
3P Performance - People - Planet


Performance - ดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิดผลการดำเนินงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth)  มุ่งเน้นที่การขยายขอบเขตธุรกิจโดยคาดเปิด อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาใหม่ 1-2 สาขาต่อปี โดยโมเดลร้านค้าใหม่ (New Store Model) จะเน้นไปที่ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานรายแรกของธุรกิจค้าปลีกไทย และรายแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาสระบุรี บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ทุ่มงบกว่า 170 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดบริการในต้นปีหน้า

ส่วนกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าใหม่ บริษัทฯ ได้พัฒนาสินค้าอย่างหลากหลายทั้งดีไซน์และฟังก์ชันตอบโจทย์ความต้องการกลุ่ม New Gen เน้นการสร้าง Digital Experience และ Pop Display ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ เชื่อมไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้ง ควบคู่การรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยขยายไลน์สินค้าแบรนด์ Furinbox จากออนไลน์สู่ออฟไลน์วางจำหน่าย 22 สาขา ทั่วประเทศ โดยจับกลุ่มลูกค้า C ที่มีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ในประเทศ รวมถึงการขยายสินค้าในกลุ่ม Customized ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น


People - มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ให้เหนือกว่า (Beyond Experience)
โดยการสร้างกลยุทธ์ให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการเฉพาะของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาช่วยออกแบบตกแต่งภายใน ( Generative Al for interior design) นำเทคโนโลยีเข้าช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจสำหรับงานดีไซน์ ช่วยลดขั้นตอนให้ง่ายและรวดเร็วต่อการทำงานของดีไซน์เนอร์ ขณะเดียวกันเพิ่มความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด

Planet - ด้วยแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม (Sustainable and Ethical Practices)

ผลิตและพัฒนา ตลอดจนจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อความยั่งยืน ได้แก่ สินค้ารักษ์โลก (Eco Product) เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, พัฒนาสินค้าที่สร้างกุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดี พัฒนาสังคมที่แข็งแกร่งส่งเริมและร่วมพัฒนาสินค้ากับกลุ่มรัฐวิสาหกิจและชุมชน ซูอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น

 

ผุดสาขาใหม่ อาคารค้าปลีกเซฟพลังงานรายแรกของอาเซียน

สำหรับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainabilty) ที่มุ่งสู่เป้าหมายด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2068
โดยได้ประเดิมเปิดอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ New Store Model ที่สาขาสระบุรี ด้วยการออกแบบโครงสร้างอาการประหยัดพลังงาน "Zero Energy Building" (ZEB) ในรูปแบบร้านค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (ECO Store In Thailand) รายแรกของธุรกิจร้านค้าปลีกไทยและรายแรกในภูมิภาคอาเซียน โดยร่วมกับ คอรัล ไลฟ์ (CORAL LIFE) ผู้ให้บริการออกแบบสภาพแวดล้อม


ซึ่งคุณภาพอากาศภายในอาคารประหยัดพลังงานดีเทียบเท่าอากาศในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ค่าฝุ่น PM2.5 ใกล้เคียงระดับ 0 ซึ่งจะสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับลูกค้าและพนักงาน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ตั้งใจพัฒนาอาคารแห่งนี้เป็นเครื่องกรองอากาศของเมือง ด้วยความเชื่อที่ว่า 'อากาศสะอาดควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเปรียบเสมือนกับโครงสร้างพื้นฐานของเมืองสำหรับทุกคน‘ ดังนั้น New Store Model อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์สาขาสระบุรี จึงเป็นศูนย์การค้าต้นแบบแห่งแรกในอาเซียน ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายที่ประชาคมโลกต่างให้ความสำคัญ


นอกจากนี้ยังส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (ECO PRODUCT) ในพอร์ตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันภาพรวมสินค้าใหม่ของเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในกลุ่มเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ 10% และในปี 2567 จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าใหม่ทุกกลุ่มให้เป็น 20% เช่น กลุ่มสินค้าที่ทำจากเส้นใยและพลาสติกรีไซเคิล (Reeyeled Materials) ตลอดจนการนำไม้สักเก่ามาพัฒนาให้ดีขึ้น (Upcycling) เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่

 

ปรับโหมดสินค้ารักษ์โลก

ลดพลังงาน-ย่อยสลายเอง

กลุ่มสินค้าช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและน้ำ (Energy Saving) เช่น หมอน ผ้าห่ม (Cooling Pillow & Blanket) และผ้าม่านกันแสงที่ไม่อมฝุ่น
กลุ่มสินค้าย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ (Biodegradable) อาทิ วัสดุจากฟางข้าวสาลี
กลุ่มสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Friendly Product) ที่ผลิตด้วยวัสดุธรรมชาติ และปรับแพ็กเกจสินค้าจากพลาสติก มาเป็นกระดาษและพลาสติกที่รีไซเคิลได้ รวมถึงถุงผ้า เริ่มจากสินค้าตราห้าง (House Brand) การปรับป้ายราคาสินค้าจากกระดาษมันพิมพ์สีมาเป็นกระดาษคราฟทีรีไซเคิล เพื่อลดปริมาณขยะและลดมลพิมจากสารเกมีจากหมึก พิมพ์ ทั้งยังงดการผลิตคู่มือประกอบติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ (Assemble Instucion) จากเดิมที่เป็นกระดาษ ปรับมาเป็นสแกนผ่าน QR Code ด้วยคู่มือออนไลน์ข้างกล่องสินค้าแทน
เพื่อการพัฒนาสังคมที่แข็งแกร่ง โดยร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับภาครัฐและกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมาได้ร่วมกับกลุ่มใบไม้ ชุมชนบ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช นำงานคราฟท์ผ้ามัดย้อมมาพัฒนาเฟอร์นิเจอร์กลุ่มห้องนอน คอลเล็กชั่น Happy Vacation และยังร่วมกับ 'กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม' พัฒนาไอเดียงานออกแบบรูปแบบอินโนเวทีฟเฟอร์ฯ ดีไซน์ "โต๊ะขนมชั้น" จากแนวคิด 'WORK TO DINE" Work Hard, Eat Harder เพื่อเพิ่มประสบการณ์ช้อปให้ลูกค้า

 

 

เฟอรร์นิเจอร์แกะสลัก หัตถศิลป์ไทย

โดยในปี 2567 เตรียมพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ Living จากงานคราฟท์ไม้แกะสลักสไตล์ล้านนา ร่วมกับกลุ่มชุมชนบ้านกิ่วแลน้อย จ.เชียงใหม่ รวมถึงสนับสนุน รัฐวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเย็บผ้าเครื่องนอนยางพาราเขาคิริส จ.กำแพงเพชร ทั้งนี้เพื่อคงคุณค่างานหัตถศิลป์ควบคู่การกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน (Soft Power)

 

ตั้งเป้าเป็นกลางคาร์บอนปี 2573


นอกจากนี้ยังดำเนินการตามนโยบายที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2573 และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2068 ด้วยการติดตั้ง Solar Rooftop รวม 28 แห่ง ทั้ง อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์, ศูนย์การค้าเดอะวอล์ค, ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน ซึ่งปี 2566 สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 14,950.87 mWh คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ราว/ 7,261.64 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tonCO2eq) และตลอด 6 ปีที่ผ่านมา สามารถช่วยประหยัดไฟไปมากถึง 300 ล้านบาท และยังจะขยายการติดตั้ง Solar Rooftop ไปยังสาขาที่เปิดใหม่ตามลำดับ


อีกทั้งจะเพิ่มสัดส่วนการขนส่งพลังงานสะอาด (EV Truck) อีก 20% ปี 2567 ซึ่งปีที่ผ่านมาการขนส่งด้วยรถ EV ทั้ง 7 คัน รวม 5 จังหวัด เช่น จ.นครสวรรค์ พิษณุโลก นครราชสีมา ขอนแก่นและเชียงใหม่ สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ราว 5 ล้านบาทต่อปี เทียบกับอัตราการเดินรถระหว่างเครื่องยนต์สันดาปกับรถ EV และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ราว 878.59 (tonCO2eq)(*จำนวน CO2 อ้างอิงจำนวนการขนส่ง) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 106,000 ต้น ดำเนินการควบคู่กับการจัดการขยะ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) ร่วมกับภาคีภาครัฐและเอกชน ซึ่งในปีที่ผ่านมามีปริมาณการรีไซเคิลขยะและของเสียได้ถึง 8,284.37 ตัน และจากการใช้พลังงานทดแทนและการจัดการขยะ ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 14,160.68 ตันคาร์บอนไดออกไซต์ (tonCO2eq) ต่อปี

 

กำไร ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย


สำหรับการดำเนินธุรกิจของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ไม่ได้วัดผลกำไรเพียงอย่างเดียว องค์กรให้ความใส่ใจกับการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ เกิดการต่อยอด เติบโต ขยายผล ผ่านการดำเนินงานใน 5 แกนหลักคือ Speed to Market กลยุทธ์ความรวดเร็วและว่องไว รุกไวและปรับตัวเร็ว หัวใจสำคัญที่ได้เปรียบคู่แข่งขัน Customer Centric ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สร้างประสบการณ์ที่ดี รับฟังและเข้าใจลูกค้า Data Driven ตัดสินด้วยข้อมูลเป็นหลัก นำมาซึ่งถูกทาง ถูกใจ ถูกต้อง Space Optimization การจัดสรรพื้นที่ การขยายสาขาใหม่ การปรับปรุงสาขาเดิมให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต พฤติกรรมความชื่นชอบของลูกค้า และ Automation การนำเทคโนโลยีมาบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ดังนั้นการสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์ จึงเป็นกลยุทธ์หลักและพลังขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ โดย อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์เชื่อว่าธุรกิจที่สามารถชนะใจผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ต้องไม่แสวงหากำไรเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และโลก เพื่อสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนระยะยาว

Tag :