การลงพื้นที่สัญจรของ บิ๊กตู่และครม. ในหลายพื้นที่ๆผ่านมา แม้มีชาวบ้านต้อนรับ แต่ก็เป็นระดับ 1,000 คน ไม่ว่า จะเป็นสุพรรณบุรี หรือสุโขทัย แ ต่ที่บุรีรัมย์ ได้สร้างภาพใหม่ในทางการเมืองของ”บิ๊กตู่” ที่เหมือนได้สัมผัสบรรยากาศของการหาเสียงเลือกตั้งอย่างแท้จริง การได้อยู่ต่อหน้าคน 30,000 คน ไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่ายๆ ถ้าไม่ใช่คนระดับ “พี่เน” เนวิน ชิดชอบ แม้ก่อนหน้านี้ “อนุทิน ชาญวีรกุล” จะออกมาประกาศว่า พรรคภูมิใจไทย จะไม่สนับสนุนคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เอาจริง เป็นเพียงกลยุทธ์ทางการเมือง ภาพที่ภูมิใจไทยนำคนมา 30,000 คน มาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์นั้น ชัดเจนว่า ภูมิใจไทยพร้อมสนับสนุนเป็น”ผู้นำ”ต่อไป “ภูมิใจไทย” หากย้อนกลับไป  ก่อกำเนิดมาจาก กลุ่มบุรีรัมย์ แปรพักตร์ จากพลังประชาชน (ไทยรักไทยและเพื่อไทย) มาเข้าร่วมรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”  การฉีกตัวออกมาของกลุ่มบุรีรัมย์มาจากการกระสานของ พล.อ.ประวัติ วงศ์ สุวรรณ ซึ่งต่อมาขึ้นเป็น รมว.กลาโหม “ภูมิใจไทย” จึงย่อมผูกพันกับ “ฝ่ายทหาร” และแน่นอนว่า ยังคงให้การสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไม่เช่นนั้น “เนวิน” คงไม่ออกตัวหนัก นำคน 30,000 คน มาให้การต้อนรับ “พล.อ.ประยุทธ์” งานนี้ จึง วิน วิน ทั้ง“พล.อ.ประยุทธ์” และ “เนวิน” “พี่เน” ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับ พล.อ.ประยุทธฺในด้านการขับเคลื่อนมวลชนอันทรงพลัง ในขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ได้หน้าที่มีคนจำนวนมากให้การสนับสนุน แต่ที่สะเทือนหนักกลับเป็น “เพื่อไทย” ภาพที่เห็นคนให้การสนับสนุนรัฐบาลคสช.จำนวนมาก และการทุ่มเทงบประมาณอีกกว่า 20,000 บาท ในการพัฒนาพื้นที่ พัฒนาศักยภาพทั้งแต่เกษตรกร จนถึงผู้ประกอบการ แน่นอนว่า ย่อมส่งผลต่อคะแนนนิยมต่อพรรคเพื่อไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคนของเพื่อไทย ออกมา”โวยวาย” “เกมช้าง อารีน่า” อาจกลายเป็น “บุรีรัมย์โมเดล” ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ใช้ในการขับเคลื่อนต่อ เพื่อปูทางให้การกลับมา มีความราบเรียบและมั่นคงยิ่งขึ้น