เปิดพิมพ์เขียว Rubber Cityทางรอดอุตฯยางพารา

by ThaiQuote, 4 มกราคม 2559

ผมได้เดินทางลงพื้นที่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดสงขลา พร้อมกับคณะเพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานต่างๆ ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลอาทิเช่นโครงการ Rubber City มูลค่ากว่า 1,670 ล้านบาท ณ ศูนย์บริการการลงทุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมเมืองยาง ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่  จ.สงขลา ที่ได้มีการจัดตั้งมานานมาแล้วแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จสูงสุด”

              ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจและชวนให้ต้องติดตามเป็นอย่างยิ่ง ภาพที่หลายคนได้เห็นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ก็ดีหรือแม้แต่ ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรมฯลฯ ได้รับการต้อนรับจากประชาชนด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นก่อนจะตามติดคณะรัฐมนตรีไปเยี่ยมชมโครงการด้วย นับเป็นภาพที่น่าประทับเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางหรือที่รู้จักกันในนามของ   Rubber city

             อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวต่อว่ารัฐบาลนี้ได้เข้ามาสานต่อ ผลักดัน ขยายผลการสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบคลัสเตอร์ ที่ต้องอาศัยการเชื่อมโยงภาคธุรกิจอื่นๆด้วย เริ่มจากในพื้นที่ขยายไปสู่จังหวัด ภูมิภาคและทั่วประเทศ และไปต่างประเทศ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นฐานการผลิตยางพาราที่เต็มรูปแบบสามารถรองรับการลงทุนจากนักธุรกิจ ผู้ประกอบการทั้งภายในและนอกประเทศได้ในอนาคต

            “เราได้ตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2564 จะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนโรงงานยางพาราไม่ต่ำกว่า 70 ราย รวมมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท ผลที่ตามมาจะเกิดขึ้นมากมายอาทิเช่นการจ้างงานกว่า 7,000 คน การเพิ่มปริมาณการใช้ยางพารา ไม่ต่ำกว่า 12 แสนตัน/ปี และมูลค่าการผลิต 6,00014,000 ล้านบาทต่อปีเป็นต้นนะครับ ทั้งหมดนั้นเป็นวิธีการแก้ปัญหายางอย่างยั่งยืนโดยการใช้ภายในประเทศให้มากขึ้น”

            ขณะที่เวบไซด์ Thai quote ได้ติดตามถึงพิมพ์เขียวโครงการดังกล่าวของกระทรวงอุตสาหกรรม พบรายละเอียดว่า นิคมอุตสาหกรรมยางภาคใต้นั้นอยู่ที่ จ.สงขลา ตั้งอยู่ในพื้นที่ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีเนื้อที่รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 2,284 ไร่ มีการแบ่งการพัฒนาใช้พื้นที่ออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน ระยะที่ 1 จำนวน 867 ไร่ ซึ่งจะประกอบด้วยเขตอุตสาหกรรมทั่วไปจำนวน 205 ไร่ เขตประกอบการเสรีอีกจำนวน 114 ไร่ และยังมีพื้นที่สาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก 548 ไร่ ส่วนระยะที่ 2 พื้นที่สำหรับพัฒนาอีกจำนวน  632 ไร่ และระยะที่ 3 อีกจำนวน 764 ไร่           

               ขณะที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศได้ระบุว่าประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมที่พร้อมต่อการลงทุนของอุตสาหกรรมยางเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานและโลจิสติกส์ทางบก น้ำ และอากาศที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ประเทศไทยยังเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกยางธรรมชาติอันดับ 1 ของโลก ซึ่งโครงการ Rubber City ริเริ่มและพัฒนาภายใต้แนวคิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ที่มุ่งเน้นให้อุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รองรับอุตสาหกรรมยางขั้นกลาง และขั้นปลาย เช่น ยางคอมปาวด์ ยางรถยนต์ ถุงมือยาง และมีความร่วมมือกับหน่วยงานอำนวยความสะดวกสำหรับการประกอบอุตสาหกรรมยางต่างๆ อย่างครบครัน ช่วยสนับสนุนและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ โดยการพัฒนาโครงการ Rubber City จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2560

               เรื่องราวของนิคมอุตสาหกรรมเมืองยาง ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่  จ.สงขลา โครงการสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่ทางภาคใต้ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าวคงจะถูกผลักดันให้เกิดผลสำเร็จได้ในเร็ววันนี้