“อุตตม” ย้ำ EEC ดูแลชุมชนในพื้นที่

by ThaiQuote, 1 พฤศจิกายน 2561

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 3/2561 โดยมีสาระสำคัญในการประชุมดังนี้

1.ความก้าวหน้าในการดำเนินงานอีอีซีของปีที่ผ่านมาในโครงสร้างพื้นฐานหลัก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะลงนามในสัญญากับเอกชนได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และจะก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2566

ในขณะที่อีก 4 โครงการ คือ โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา, โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3, โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะลงนามในสัญญากับเอกชนได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ทั้งนี้ ได้มีการจัดทำแผนงานบูรณาการขับเคลื่อน EEC ตาม พ.ร.บ. งบประมาณฯ พ.ศ. 2562 โดยได้รับจัดสรรงบประมาณตามร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ในปี 2562 จำนวน 14,862.6146 ล้านบาท โดยมีกิจกรรมชักจูงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษและความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกันการดำเนินการในระยะต่อไปนั้น ดร.อุตตม เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เร่งดำเนินการชักชวนนักลงทุน ร่วมกับ BOI โดยมีเป้าหมายการลงทุน 100,000 ล้านบาทต่อปี โดยการจัดการทำแผน Roadshow นักลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 11 อุตสาหกรรม เน้นถึงผลสัมฤทธิ์ รวมทั้งการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค โดยร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง (ตาม พ.ร.บ.EEC) ให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดใน พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561

พร้อมทั้งพัฒนาศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจรในพื้นที่ EEC เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ นักลงทุนในพื้นที่ EEC ให้ศูนย์บริการที่มีความทันสมัย รวดเร็ว สะดวก และมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยของระบบข้อมูลในการติดต่อธุรกิจ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ

ขณะเดียวกันได้กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อการพัฒนาพื้นที่หรือชุมชน รวมตลอดทั้งช่วยเหลือหรือเยียวยาประชาชนและชุมชนบรรดาที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก แลสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาและให้ทุนการศึกษาแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือที่อยู่ใกล้เคียงและได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

“สิ่งที่สำนักงาน EEC จะต้องให้ความสำคัญคือเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ร่วมเป็นเจ้าของ และร่วมได้รับประโยชน์จากโครงการ เช่น การส่งเสริมผู้ประกอบการ SME วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ ประชาชนจะต้องรับทราบว่า โครงการของ EEC นั้น คนในพื้นที่จะได้ประโยชน์อย่างไร  EEC จะให้ประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศอย่างไร”

ขณะเดียวกันตนยังเน้นให้สำนักงาน EEC ดูแลในเรื่องของอุตสาหกรรมเป้าหมาย คืออุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ซึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่เพาะปลูกและแหล่งวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่และเกษตรกร

อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะต้องมีการจัดทำแผนรองรับอย่างเหมาะสม และสร้างความเข้าใจกับประชาชนในการมีส่วนร่วมต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“อุตตม” เคาะ 7 แผนพัฒนา EEC ปี 62 ตั้งเป้ามูลค่าลงทุนแสนล้าน