สั่งเร่งสอบใครแอบสูบบุหรี่ในห้องพักรพ.

by ThaiQuote, 28 ธันวาคม 2561

นพ.สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีการเผยแพร่ภาพคล้ายการสูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า โชว์ในห้องพักฟื้นรักษาตัวของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์ แต่ทั้งนี้ หากผลิตภัณฑ์ที่สูบโชว์นั้นมีส่วนประกอบของใบยาสูบ หรือมีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ จะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบ ซึ่งการสูบบุหรี่หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบในเขตปลอดบุหรี่ จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560

ทั้งนี้ การสูบในห้องพักโรงพยาบาล หรือบริเวณพื้นที่ต่างๆในโรงพยาบาล จะเข้าข่ายเป็นการสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2553 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้ง ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกำหนดประเภทหรือชื่อของสถานที่สาธารณะ สถานที่ทำงาน และยานพาหนะ ให้ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของสถานที่และยานพาหนะเป็นเขตปลอดบุหรี่ หรือเขตสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ พ.ศ. 2561 ซึ่งจะมีผลในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่จะถึงนี้ด้วย เนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข ทั้ง 2 ฉบับ ได้กำหนดให้พื้นที่ทั้งหมดของโรงพยาบาล รวมทั้งระยะ 5 เมตรจากทางเข้า-ออกของโรงพยาบาลเป็นเขตปลอดบุหรี่

“หากข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบเป็นเช่นนี้จริง กรณีดังกล่าวต้องถือว่า เป็นการสูบบุหรี่ในสถานที่ที่ถูกกำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 42 พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท” นพ.สุวรรณชัย กล่าว 

อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรค ขอให้เด็กและเยาวชน รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจบุตรหลาน และตระหนักถึงอันตรายต่อสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือสูบบุหรี่ทั่วไป รวมทั้งขอความร่วมมือผู้สูบบุหรี่ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย ด้วยการไม่สูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะที่กำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ เพื่อเป็นการเคารพสิทธิ และป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของคนรอบข้างที่ได้รับควันบุหรี่ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการเลิกบุหรี่ สามารถโทรปรึกษาศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ หมายเลข 1600 โทรฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และเข้ารับบริการได้ที่ คลินิกให้บริการเลิกบุหรี่ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้านได้ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในการปฏิบัติตามกฎหมายสถานที่สาธารณะปลอดบุหรี่ ได้ที่สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ 02-590 3852 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422