สธ. จับตาสถานการณ์โควิดหลังหยุดยาว พบสัญญาณผู้ติดเชื้อ-อัตราครองเตียงเพิ่มขึ้น ทางด้านนายกฯ กำชับทุกหน่วยงานรับมือ-คุมเข้มโควิดหลังช่วงหยุดยาว ยันมียาเพียงพอ ด้านผู้ว่าฯ กทม.พร้อมปรับกิจกรรมตามข้อเสนอสธ. หากเป็นต้นเหตุเสี่ยงคลัสเตอร์โควิด
สธ. แนะฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 สร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโอมิครอน BA.2 ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 22,387 ATK 15,187 ตายทำนิวไฮ 105 ราย สธ. รับมอบยาแพกซ์โลวิด 5 หมื่นคอร์ส รองรับผู้ป่วยโควิดเพิ่มหลังสงกรานต์
คณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ได้ออกประกาศ คัดเลือกให้ ยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรและยาจากผงฟ้าทะลายโจร เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ในข้อบ่งใช้ในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการน้อย เพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง
บริษัท Merck พันธมิตร ทำให้ยาต้านไวรัส Molnupiravir ถูกลง 88 เท่า จากเม็ดละ 580 บาท เหลือ 6.60 บาท เพื่อการเข้าถึงยารักษาโควิด-19 ในประเทศรายได้ปานกลาง และประเทศยากจน
ตามที่ทราบกันว่า ขณะนี้ ประเทศไทยได้ใช้ ยาฟาวิพิราเวียร์ และฟ้าทะลายโจร รวมทั้งยาเรมเดซิเวียร์ ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยล่าสุดได้มีการสั่งซื้อยาตัวใหม่อย่าง “โมลนูพิราเวียร์” เข้ามาใช้อีกชนิดหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้
สถานะของยาโมลนูพิราเวียร์ ขณะนี้กำลังรอให้สำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA) อนุมัติให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ถ้าหากผ่านการอนุมัติจะเป็นยาต้านไวรัสที่ใช้รักษาโควิด-19 ชนิดแรกที่เป็นยาแบบรับประทาน
เผยรายงานการวิจัย ใช้ส่วนประกอบจากรังผึ้ง “โพรพอลิส” ร่วมกับยารักษาโควิด-19 พบผู้ป่วยหายเร็วขึ้นเท่าตัว และลดการเกิดไตวายเฉียบพลันได้ถึง 80%
จำนวนชาวอเมริกัน ที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพขั้นรุนแรง จากการใช้ยาฆ่าพยาธิ ไอเวอร์เมกติน รักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า
กรณีมีการเผยแพร่ทางออนไลน์พร้อมทั้งแชร์ข้อมูลต่อๆกัน ถึงการใช้ “ยาแก้อักเสบ” หรือ “Amoxicillin” ในการรักษาโควิด-19 จนทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ยาแก้อักเสบ สามารถรักษาโควิด-19 ได้จริงหรือไม่นั้น
สธ. เตรียมนำเข้ายา “โมลนูพิราเวียร์” ใช้รักษาโควิด แทน “ฟาวิพิราเวียร์” หลังผลวิจัยใกล้สำเร็จ คาดขึ้นทะเบียน อย. เดือน พ.ย.นี้