ข่าวดี ! “ยาโมลนูพิราเวียร์” ราคาถูกลง จากเม็ดละ 580 เหลือ 6.60 บาท

by ThaiQuote, 1 พฤศจิกายน 2564

บริษัท Merck พันธมิตร ทำให้ยาต้านไวรัส Molnupiravir ถูกลง 88 เท่า จากเม็ดละ 580 บาท เหลือ 6.60 บาท เพื่อการเข้าถึงยารักษาโควิด-19 ในประเทศรายได้ปานกลาง และประเทศยากจน

 

ข้อมูลดังกล่าว นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้เปิดเผยผ่าน Blockdit ส่วนตัว ระบุว่า จากการแถลงข้อตกลงร่วมกันระหว่างบริษัท MSD (Merck&Co.,Inc.) บริษัท Ridgeback Biotherapeutics และมหาวิทยาลัย Emory จะไม่คิดค่าสิทธิบัตรของยาต้านไวรัสโควิด-19 โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) โดยได้ทำข้อตกลงกับ MPP (The Medicine Patent Pool) ซึ่งเป็นหน่วยงานทางสาธารณสุขที่องค์การอนามัยโลกสนับสนุน

ทั้งนี้ข้อตกลงระบุว่า ทั้ง 2 บริษัทและ 1 มหาวิทยาลัย จะไม่ขอรับค่าสิทธิบัตรจากยาต้านไวรัสดังกล่าวสำหรับการผลิตและจำหน่ายในกลุ่มประเทศรายได้น้อย

ทำให้ประเทศรายได้ต่ำ และรายได้ปานกลาง 105 ประเทศ และบริษัทยากกว่า 50 บริษัทในประเทศดังกล่าว สามารถผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ได้เอง ช่วยให้ราคายาต่อ 1 ชุด ลดลง จาก 23,100 บาท( 700 เหรียญสหรัฐ) เหลือเพียง 264 บาท (8 เหรียญสหรัฐ) ลดลงมากกว่า 87.5 เท่าตัว

โดยมีเงื่อนไขว่า การไม่คิดค่าสิทธิบัตรดังกล่าวนั้น จะกระทำต่อเนื่องกันไป ตราบเท่าที่องค์การอนามัยโลกยังประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดของโลก ( Public Health Emergency of International Concern)

สำหรับข้อตกลงนี้ จะทำให้ยาโมลนูพิราเวียร์ เดินตามรอย กลุ่มยาโรคเอดส์ ยาโรคไวรัสตับอักเสบซี และยารักษาวัณโรค ซึ่งMPP ได้ทำข้อตกลงที่ทำให้ประชาชนที่อาศัยในประเทศรายได้ปานกลางและประเทศยากจนได้เข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นกับชีวิตในราคาที่ไม่แพง

ยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาที่ได้รับการพัฒนาขึ้น โดยมหาวิทยาลัย Emory และให้บริษัท Ridgeback และ Merck เป็นผู้รับสิทธิบัตรในการดำเนินการผลิตต่อไป โดยมีชื่อรหัส MK 4482 และ EIDD 2801 ออกฤทธิ์ต่อต้านการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของไวรัส

ขณะนี้อยู่ในการทดลองระยะที่ 3 และได้ยื่นขออนุมัติใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (EUA) ต่อ USFDA และหน่วยงานของทวีปยุโรป (EMA) โดยจากผลการทดลองสามารถลดจำนวนผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลได้ถึง 50% ในผู้ป่วยอาการน้อยหรือปานกลาง โดยไม่มีผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ หากยาโมลนูพิราเวียร์ ถ้าได้รับการอนุมัติให้ใช้ จะเป็นยาตัวแรกของโลกที่ออกฤทธิ์ต่อต้านไวรัสก่อโรคโควิด-19 โดยตรง ช่วยประชาชนกว่าครึ่งโลก ในประเทศที่ยากจนและประเทศรายได้ปานกลางใน 105 ประเทศทั่วโลก มีโอกาสได้รับการรักษาอย่างมีคุณภาพ และน่าจะลดการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ เป็นการลดความเหลื่อมล้ำของมนุษย์ลงได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

สร้างสุขให้คนกรุง พลิกฟื้น “คลองช่องนนทรี” สวนสาธารณะที่ยาวที่สุดในไทย