ปลดไทด์ไปดำนา

by ThaiQuote, 21 เมษายน 2560

หลังจากการเข้าสู่โหมดทำงานหนักหน่วงหลังช่วงวันหยุดยาว เสียงหัวใจก็เรียกร้องหาวันหยุดพักอีกแล้ว .. นี่เป็นเรื่องไม่แปลกสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานกันแบบหลังสู้นีออน หน้าสู้แป้นคีย์บอร์ด การทำงานที่หนักแบบนี้ร่างกายย่อมต้องการทะเลบ้าง ภูเขาบ้างอย่างแน่นนอน แต่วันนี้อยากพาร่างกายไปพักผ่อนแบบ “หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน” ของจริงกันดูสักหน่อย

“บ้านท้องนา” ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ถ้าขับรถก็เพียง 5 ชั่วโมง ถ้าเป็นเครื่องบินก็เพียง 1 ชั่วโมง ลงพอดีที่จังหวัดสุโขทัย

ในเมื่อชวนกันมาดำนาแล้ว ทันทีที่มาถึงบริเวณผืนหน้ากว้างใหญ่ที่สวยอุดมไปด้วยรวงข้าวจะกลายเป็นภาพความประทับใจแรก แต่อย่างไรก็ยังไม่ต้องรีบลงไปดำนาก็ได้ ตามเข้ามาที่ภายในที่อาคารต้อนรับซึ่งเป็นเรือไม้ใต้ถุนโล่งแบบบ้านไม้ทรงไทยในภาคกลาง จากจุดนี้เองเมื่อขึ้นไปบนชั้นสองที่เป็นโรงอาหารของที่พักก็จะทำให้เราเห็นทัศนียภาพของพื้นที่ได้เกือบทั้งหมด ซึ่งโดยหลักแล้วจะมีแปลงนาผืนใหญ่โอบล้อม ในส่วนลึกเข้าไปก็จะมีโรงเลี้ยงควาย โรงสีข้าว ฟาร์มเป็ด แปลงผักออแกนิก ส่วนนิทรรศการบ้านเรา ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของข้าวและวิถีเกษตรอินทรีย์ และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือมีสวนสัตว์ให้เข้าชมฟรีอีกด้วย

ส่วนไฮไลท์ที่ชวนมาพักผ่อนที่นี่ก็คือ “การดำนา” ... หลังเปลี่ยนชุดชาวนากันแล้วเจ้าหน้าที่จะพาเราไปรู้จักกับแปลงนาและต้นกล้าข้าวพันธุ์สุโข ซึ่งบ้านทองนาได้เป็นผู้ริเริ่มผสมพันธุ์ข้าวนี้ขึ้น นาทีนี้ความตื่นเต้นแบบคนกรุงก็จะเริ่มมีมากขึ้นที่คุณป้าชาวนาตัวจริงสั่งให้ถอดรองเท้าออก เดินย่ำลงแปลงนาที่มีแต่ดินดำ น้ำนอง ยืนไม่ติดพื้นเดินนุ่มนิ่มไปมาก็เปลี่ยนความตื่นเต้นไปเป็นความสนุกทันที และยิ่งน่าสนุกไปอีกเมื่อถึงเวลาที่ต้องปักดำต้นกล้าจริง ๆ คุณป้าจะสอนให้จับที่โคนต้น แล้วใช้นิ้วโป้งนำร่องการดำ บางคนด้วยอาการกลัวกล้าไม่ขึ้นก็ปักเสียจนยอดกล้าเกือบจนน้ำ บางคนก็ปักลงไปเป็นกำมือ .. จนคุณป้าได้แต่หัวเราะอย่างเดียว ในกิจกรรมนี้เราจะทำมากทำน้อยได้ตามใจเท่าตามจำนวนพื้นแปลงนาที่ยังมีอยู่ หลัง “ดำนา” อีกส่วนหนึ่งที่น่าเข้าไปดูคือโรงสีข้าวที่จะนำผลผลิตข้าวเปลือกพันธุ์สุโขจากในพื้นที่ “บ้านท้องนา” และพื้นที่ใกล้เคียงมาสีและมาคัด บรรจุเพื่อจำหน่ายเบ็ดเสร็จในที่เดียว

2 วัน 1 คืน อาจดูมาก แต่ก็ไม่น้อยเกินไปที่จะได้ปลดไทค์ชีวิตมนุษย์เงินเดือนมาสัมผัสชีวิตวิถีเกษตรที่บรรพบุรุษของเราเคยเป็นมา ได้มาอยู่กลางพื้นที่กว้างๆ ปล่อยความรู้สึกให้เป็นไปตามสิ่งแวดล้อม ได้ประสบการณ์ที่ฟังใครเล่าก็ไม่เท่ามารู้สึกเอง... อยากลองดูไหม สุดสัปดาห์นี้ก็ยังทัน

  โดย  วชิรา พงศ์พยัคฆ์

 

Tag :