หลังเลือกตั้ง 14 พ.ค.66
by ThaiQuote, 14 พฤษภาคม 2566
หลังทราบผลการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. พรรคไหนจะร่วมเป็นรัฐบาลหรือไปเป็นฝ่ายค้าน อีกไม่นานคงจะได้รู้ โดยตามกฎหมายแล้วจะต้องมีการประชุมสภานัดแรกให้ได้ภายใน 2 เดือนนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯรัฐมนตรีต่อไป
ดังนั้นคาดว่ากว่าเราจะมีรัฐบาลใหม่เข้าบริหารประเทศ ก็อาจล่วงเลยไปถึงเดือน ส.ค. หรือเร็วกว่านั้นขึ้นอยู่กับว่ากระบวนการต่าง ๆ ว่าราบรื่นเพียงใด
นับจากนี้เราคงเห็นข่าวพรรคการเมืองต่าง ๆ ต่อรองกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พรรคที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดจะสามารถเป็นแกนนำในการกจัดตั้งได้หรือไม่ยังไม่มีใครรู้ พรรคฝ่ายรัฐบาลเดิมหรือพรรคฝ่ายค้านเดิมจะเข้ามาบริหารประเทศ ก็ยังไม่ใครรู้ หรือแม้กระทั้งจะได้รัฐบาลผสมข้ามขั้วเดิม ก็อาจเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามที่สุดแล้ว ประชาชนหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะสำเร็จเสร็จสิ้นตามกระบวนการประชาธิปไตย
บทความนี้ เขียนในวันที่ 14 พ.ค. ก่อนจะปิดหีบประกาศผลเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้คือการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของประเทศไทย มีประชาชนตั้งแต่วัยรุ่นไปถึงผู้สูงอายุออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกั้นอย่างคึกคัก ด้วยความเชื่อและศรัทธาในระบบประชาธิปไตย พร้อมกับหวังว่าชีวิตความเป็นอยู่หลังจากนี้จะดีขึ้น
วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องรุมเร้าอย่างหนัก หากไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ ก็ไม่มีทางที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น ประชาชนก็คือผู้ที่ต้องแบกรับกรรมต่อไป
ประชาชนไม่ยากเห็นการต่อรองกันทางการเมือง อยู่ไม่อยู่บนพื้นฐานประโยชน์ของอำนาจทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด แต่ควรที่จะยึดมั่นในผู้ประโยชน์ประชาชนเจ้าของประเทศ
ประชาชนย่อมยากเห็นพรรคการเมืองแต่ละพรรค พยายามทำตามนโยบายสวยหรูที่ประกาศไว้ในช่วงหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าครองชีพ การเพิ่มโอกาสในการทำมาหากิน การสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
สุดท้ายสิ่งที่พรรคการเมืองรับปากไว้กับประชาชน จะไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้เลย หากไม่ช่วยกันพยายามประคับประครองให้ประเทศเดินอยู่บนเส้นทางประชาธิปไตยให้ได้ พร้อมยุติปัญหาความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในสภา ดังนั้นเรื่องแรกที่พรรคการเมืองจะต้องพิสูจน์ความจริงใจกับประชาชนหลังการเลือกตั้ง คือ การช่วยกันทำให้การเมืองเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่น ไม่ให้เป็นไปตามข่าวลือที่ว่าประเทศไทยอาจจะต้องมีรัฐบาลรักษาการณ์ต่อไปอีกระยะ หากเป็นเช่นนั้น “เอวัง”
