13 ทริค ปลุกพลังบวกในตัวคุณ

by วันทนา อรรถสถาวร , 9 มีนาคม 2567

เป็นธรรมดาที่ในบางครั้งขีวิตคนเราจะมีช่วงดำดิ่ง เมื่อเจอเรื่องแย่ๆ เข้ามาในชีวิต เราไม่ได้เป็นคนเดียวที่เผชิญกับโลกอันโหดร้าย เมื่อเจอปัญหาจงอย่างเพิ่งท้อถอย

 

โลกนี้ยังงดงามและสดใส มีโอกาสและประตูบานใหม่รอเราอยู่เสมอ เพียงแค่เราเริ่มต้นจากความรู้จักตัวตน เข้าใจความเป็นไปของโลก เราก็จะเปลี่ยนสิ่งร้าย กลายเป็นบวกได้เสมอ

เราทุกคนเป็นผู้มีพลังบวก เปลี่ยนโลกนี้ให้น่าอยู่ขึ้นได้ ตามกฎแห่งแรงดึงดูด (Law of Attraction) ยิ่งเราปล่อยพลังบวกมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะได้รับกลับคืนมากขึ้นเท่านั้น ทัศนคติบวกก็เช่นกัน เมื่อส่งออกไปก็จะได้รับคืนกลับมา และนำไปสู่ภาพสวยงามที่เราใฝ่ฝันและปรารถนาให้เกิดขึ้นได้จริง ผลการศึกษาระบุชัดเจน “ความคิดบวก” นั้นช่วยสลายความเครียด ส่งผลทำให้เรามีชีวิตได้ยืนยาวขึ้นได้

มาเข้าสู่โหมดการปรับทัศนคติเป็นคนคิดบวก ปลุกพลังงานดีที่มีอยู่ในตัว สร้างผลกระทบทำให้เป็นคนอารมณ์ดี ก็จะเปลี่ยนชีวิตยู่ดี มีสุขเกษมสำราญ บนโลกใบนี้

ลองนำ 13 วิธี ไปปลดล็อกด้านมืด เปลี่ยนเป็นพลังบวกสร้างความหมายและคุณค่าการใช้ชีวิตบนโลก


1. ปรับทัศนคติ ( MINDSET)

การสร้างพลังงานเชิงบวกนั้นขึ้นอยู่กับสภาวะจิตใจของเรา เราต้องตระหนักรู้เท่าทันตัวเองอะไรคือความจริงแท้แน่นอน เป็นแก่นแห่งการมีชีวิต จะทำให้เราตั้งมั่นปรับมุมมองที่มีต่อโลกในทุกสถานการณ์ให้เป็นด้านที่ดี (Perspective) ออกจากสภาวะอารมณ์ทางลบ ความกลัว ความโกรธ และการยึดติดกับตัวตน ลดอัตตา ปลดล็อกความคิดเชิงลบที่สกัดกั้นเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

 

2. ขจัดความคิดเชิงลบ

เราไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ที่เราต้องเผชิญได้ เราจึงไม่อาจจะคาดหวังว่าโลกจะส่งพลังบวกให้เราได้ทุกวัน พลังบวกจึงต้องเริ่มต้นจากภายจิตใจของเรา เมื่อเรามีความเข้มแข็งจากภายใน เชื่อมั่นในพลังแห่งความดีงามในตัวตน เราจะก้าวผ่านทุกสถานการณ์ที่เข้ามาท้าทายเรา

 

3. รู้เท่าทันอารมณ์ของเรา

การส่งต่อพลังงานเชิงบวกออกมาเป็นสิ่งที่ทำได้ตลอดไม่ว่าชีวิตเผชิญกับอะไรและเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ หากเราตระหนักรู้ เข้าใจความเป็นตัวเรา เราจะเลือกวิธีการแสดงออกไปกันเรื่องที่เราเผชิญในทิศทางบวก ก็จะส่งผลดีกับทุกคนมากกว่า ทักษะความฉลาดทางอารมณ์คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเปลี่ยนสถานการณ์ร้ายให้กลายเป็นดีได้ พลังงานดีจะมีอิทธิพลเหนือทุกสิ่ง

 

4. ศรัทธาในความดีงาม

การคิดเชิงบวกไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติเสมอไป เพื่อที่จะยืนหยัดเป็นศูนย์กลางจัดการได้ในทุกสถานการณ์ เราจะต้องเพ่งจิตเข้าใจความคิดและอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง “เชื่อมั่นและศรัทธาในความดีงาม อารมณ์ของเราก็เบิกบาน เห็นถึงความงดงามในจิตใจ

 

5. เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตด้วยเส้นทางเดินที่เรากำหนดเอง

แม้เราทุกคนคิดว่าเรารู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต แต่บางครั้งเสียงจากกระแสสังคมเรียกร้องให้สิ่งที่เราต้องทำให้เป็นสิ่งดีงามที่สังคมกำหนด โดยที่บางครั้งไม่ได้มาจากความต้องการภายในใจที่แท้จริงของเรา ทำให้เป็นสิ่งที่ยากมากกับการที่จะเปล่งพลังบวกให้กับชีวิต เราจึงต้องกำหนดเส้นทางนั้นด้วยตัวเราเอง ปรับเปลี่ยนเส้นทางให้ชัดเจน แยกแยะให้ออกระหว่างความต้องการที่แท้จริงภายในใจ หรือ แค่ต้องการเติมเต็มความพึงพอใจของคนบางคน เลือกเดินตามพลังบวกจากก้นบึ้งส่วนลึกของหัวใจเรา

 

 

6. สร้างความมั่นใจในตัวเอง

ความเชื่อมั่นในตัวเอง ส่งผลต่อความคาดหวังของชีวิตในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพการงาน ความสัมพันธ์ ชีวิตคู่ อารมณ์และความรู้สึกของเรา เป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะสร้างพลังเชิงบวกเมื่อหากเราหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่คนอื่นคิดหรือเชื่อว่ามุมมองของเราไม่สำคัญ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับตัวเราเอง จึงจะสร้างความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มที่ ถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการสร้างพลังงานเชิงบวก

 

7.ใส่ใจดูแลตัวเอง

เมื่อเราเหนื่อยล้า ก็หมดแรงที่จะไปคิดสร้างสรรค์พลังงานเชิงบวก เราไม่สามารถแสดงความร่าเริงและความมีชีวิตชีวาได้หากเราไม่มีแรงลุกจากเตียง เราจึงต้องหันกลับมาทบทวนวิถีชีวิตในแต่ละวัน เรานอนหลับเพียงพอหรือไม่ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหรือยัง หาวิธีออกกำลังกายที่เราชอบและทำได้ในทุกวัน เพราะการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่พิสูจน์ได้ว่าช่วยปรับอารมณ์ และทำให้เราพักผ่อนนอนหลับเต็มอิ่ม เติมเต็มพลังให้ร่างกายและจิตใจ

 

8. มีจิตสำนึกในความกตัญญู

การใช้ชีวิตอย่างมีจิตสำนึกของการรู้บุญคุณสิ่งที่ทำให้เรามายืนอยู่ในปัจจุบัน เป็นหัวใจสำคัญของการทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุข รู้สึกพึงพอใจกับความจริงที่มีอยู่ เป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างพลังบวก ความจริงแล้ว กรอบความคิดแบบอุดมคติมาใช้อาจช่วยให้แสดงพลังบวกได้หลากหลายด้าน เพียงแต่เราต้องเริ่มต้นจากการมีจิตสำนึกขอบคุณกับสิ่งที่เรามีในปัจจุบัน จะทำให้เราจุดสังเกตุตัวเราช่วยในการกลับมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้ในทุกวัน

 

9. สร้างจินตนาการถึงเป้าหมายที่เราใฝ่ฝัน

การคิดถึงภาพความสำเร็จและเป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะแค่เพียงนักกีฬาหรือนักธุรกิจชั้นนำ แต่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกคนที่จินตนาการที่ให้ตัวเองสร้างความสุขให้กับคนรอบข้าง เราจะต้องเห็นหนทางในการเยียวยารักษาบาดแผลในจิตใจ และเข้าใจด้านมืดของตัวเอง จึงจะหาวิธีการจัดการออกไปได้ ด้วยการสร้างความแข็งแกร่งภายในจิตใจ เมื่อเราสามารถสั่งจิตใจและความคิดดีได้ เราก็จะสร้างสรรค์พลังบวกจากตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด

 

 


10. ทำสมาธิ

การทำสมาธิเป็นอีกวิธีหนึ่งในการฝึกจิต สร้างกลไกทางสมองให้คิดเชิงบวก ประโยชน์ของการฝึกฝนจิตใจทำสมาธินั้นไม่ต่างกันกับ วิธีการสร้างพลังงานเชิงบวก เพราะการทำสมาธิจดจ่ออยู่กับลมหายใจ ทำให้ลดความเครียด มีสมาธิมากขึ้น ควบคุมอารมณ์ได้ และัมีประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น เพียงแค่เริ่มต้นใช้เวลาทำสมาธิประมาณ 10 นาทีต่อวัน

 

11. ผสมผสานวิธีการปรับพฤติกรรมสร้างพลังบวก

ทดลองวิธีสร้างพลังบวกมาใช้ในการเริ่มต้นแต่ละวันไหม เริ่มวันจากการตั้งจิตขอบคุณกับสิ่งที่มีอยู่รอบตัว การจินตนการเห็นเป้าหมายงดงาม และการทำสมาธิ ให้เป็นกิจวัตรตอนเช้า ถือเป็นการเพิ่มพลังให้กับตัวเอง สิ่งที่ต้องทำเป็นกิจวัตรอีกอย่างที่สำคัญ คือการออกกำลังกายอย่างน้อย 10 นาทีทุกวันเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการปลุกพลัง จะให้เรามีพัฒนาการในการสร้างความฉลาดทางอารมณ์ มีความตั้งใจ และทำให้บรรลุเป้าหมาย และทำทุกอย่างด้วยทัศนคติเชิงบวก

 

12. อยู่รายล้อมด้วยมวลมิตรคนคิดบวก

แม้เราสามารถควบคุมอารมณ์ได้ แต่จะดีกว่าหากไม่อยู่ใกล้กับคนคิดลบก็อาจะเผลอไผลดึงอารมณ์เราดำดิ่งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เริ่มต้นที่จะสร้างพลังบวกให้กับตัวเอง ดังคำพูดที่ว่า “หากเราอยู่ใกล้ใคร เราก็จะกลายเป็นคนคนนั้น ฉะนั้น ถ้าอยากเป็นคนคิดบวกก็ต้องพาตัวเองไปรับพลังบวกจากคนคิดบวก”

 

13. แบ่งปัน

ความสำเร็จ ชื่อเสียง เงินทอง และเกียรติยศ ไม่ใช่กรอบที่นำพาเราไปสู่พลังเชิงบวกเสมอไป เคล็ดลับของชีวิตอันเปี่ยมสุข สนุกสนาน คือการรู้จัก ความรักและความเมตตาปรารถนา จะเห็นผู้อื่นพ้นทุกข์ เพราะเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน จึงมีความต้องการพื้นฐานไม่ต่างกัน ความเมตตา เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน เพื่อนร่วมโลก จะทำให้เราจะรู้สึกถึงการผู้มีจิตสาธารณะ การช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า จะทำให้เรามีจิตสำนึกขอบคุณชีวิตที่เป็นเราในทุกวันนี้ นี่คือการปลุกพลังบวกที่ประจุติดขึ้นจากความเป็นตัวตนของเราได้อย่างแท้จริง

 

ที่มา: https://www.tonyrobbins.com/mental-health/creating-positive-energy/