ก้าวผ่านทุกช่วงชีวิตหฤโหด เติบโตทางความคิด วิธีปลุกจิตวิญญาณส่งพลังไร้ขีดจำกัด

by วันทนา อรรถสถาวร , 13 เมษายน 2567

“ความคิดสะท้อนจิตใจ จะเลือกควบคุม หรือจะปล่อยให้ครอบงำตัวเรา” นโปเลียน ฮิลล์ (Napoleon Hill) วลีเด็ด จุดเริ่มต้นการบ่มเพาะนิสัย พัฒนาทักษะ นำไปสู่เป้าหมายที่วาดไว้ สร้างจุดเปลี่ยน มุ่งหน้าฝึกฝน เป็นคนเป็นดีขึ้นและเก่งขึ้นกว่าเดิม

 

 

การสร้าง วิวัฒนาการทำตัวเราให้เติบโตมีทักษะ ในระหว่างเส้นทางการเปลี่ยนผ่านทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นจริง เราเป็นผู้กำหนดอนาคตได้ตามเป้าหมายดั่งใจปรารถนา แม้จะมีหลากหลายปัจจัยมากระทบต่อสภาพจิตใจ หวั่นไหวต่ออุปสรรค เกิดความอ่อนแอภายในใจจนอยากจะยอมแพ้ ล้มเลิกกลางทาง

หลายสิ่งที่นอกเหนือการควบคุมมากระแทก สกัดกั้นบั่นทอนไม่ให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่ถ้าจิตวิญญาณเรามีความกล้า และแกร่งเพียงพอ จะไปต่อได้

ตรงนี้ คือรอยต่อของเคล็ดลับที่ทำให้ผู้ที่ประสบความสำเร็จหลายคนผ่านหุบเหวปีนป่ายโผล่พ้นขึ้นมายืนชื่นชมแสงสวยงามของขอบฟ้าบนปากหลุมได้

สิ่งสำคัญที่จะเปลี่ยนชีวิตเราได้ คือการพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ใช่ รายล้อมด้วยสภาพแวดล้อมบ่มเพาะ ให้เราเติบโตก้าวข้ามทุกข้อจำกัด กลายเป็นคนเดิมเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น เก่งขึ้น สร้างโอกาสใหม่ในการเติบโต

นี่คือ 10 หลักการคิดและองค์ประกอบในการพัฒนาตัวเอง สร้างทัศนคติที่ดีในการเชื่อมั่นกล้าทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่

 

1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและทรงคุณค่า

เรียนรู้ที่จะเข้าใจความแตกต่างระหว่างการตั้งเป้าหมายทั่วไป กับการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ทรงคุณค่า ที่มีความสำคัญในการกำหนดทิศทางและมูลค่าของชีวิตไปในทางที่ต้องการได้อย่างแท้จริง กำหนดว่าคุณต้องการเรียนรู้อะไรและทำไม การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและความตั้งใจในการเรียนรู้ต่อไปได้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงการตั้งเป้าหมายหลักลอยไร้ทิศทาง ไม่สร้างความแตกต่างในชีวิตของคุณ

2. ฉีกกรอบความคิดเดิม เติมสิ่งใหม่ทุกวัน

การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทุกวันเป็นนิสัยที่สามารถส่งผลบวกต่อชีวิตและการพัฒนาตัวเองในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ หรือการปรับปรุงความคิดและการมองโลกในแง่มุมใหม่ๆ จัดสรรเวลาสำหรับการเรียนรู้ เพียง 10-15 นาทีต่อวัน ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ ลองใช้เวลาในการอ่านหนังสือ ดูวิดีโอที่สร้างแรงบันดาลใจ หรือฟังพอดแคสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่คุณสนใจ

การใช้เทคโนโลยีช่วยในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ใช้ประโยชน์จากแอพหรือเว็บไซต์ที่เสนอคอร์สออนไลน์ เช่น YouTube ซึ่งมีทรัพยากรมากมายให้คุณเลือกเรียนรู้ จากนั้นเขียนบันทึก การเขียนสิ่งที่คุณเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกหรือสมุดโน้ตจะช่วยให้คุณสามารถทบทวนและจำข้อมูลได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเห็นถึงความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นตลอดการเรียนรู้
เรียนรู้ที่จะการออกไปพบปะสังคม รวมเพื่อนหรือชุมชนเข้าด้วยกัน การเรียนรู้กับคนอื่นสามารถเพิ่มความสนุกและสร้างแรงจูงใจให้กับกระบวนการเรียนรู้ได้ คุณอาจจะเข้าร่วมกลุ่มออนไลน์หรือชุมชนที่มีความสนใจเดียวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์.

ที่สำคัญ อย่าลืมท้าทายตัวเองในทุกการเรียนรู้ ด้วยตั้งคำถามหรือทดสอบตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเรียนรู้ทุกวัน เช่น การทำแบบทดสอบเล็กๆ หรือเขียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวันไม่เพียงแต่เพิ่มความรู้เท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะ แนวคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา สร้างความยืดหยุ่นพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์ในชีวิต

 

3. สะท้อนประสบการณ์ของคุณ

การสะท้อนประสบการณ์ของตัวเอง เป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการเรียนรู้และการเติบโตทางจิตใจ เมื่อคุณย้อนดูเหตุการณ์หรือการกระทำในอดีต มันไม่เพียงช่วยให้เข้าใจถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มองเห็นแนวทางในการปรับปรุงตัวเองได้ด้วย

การพิจารณาความคิดและการกระทำของตนเองอย่างลึกซึ้ง ช่วยเพิ่มความตระหนักรู้ในตัวเอง คุณเริ่มเข้าใจว่าทำไมคุณถึงตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ในแบบที่คุณทำ และสิ่งนี้สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ในที่สุด

การสะท้อนประสบการณ์อาจทำได้ด้วยการเขียนบันทึก, การพูดคุยกับผู้อื่น, หรือแม้แต่การใช้เวลาอยู่กับตัวเองในความเงียบสงบ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณมองเห็นและเข้าใจเส้นทางของการเรียนรู้และการเติบโตของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

4.อ่านหนังสือเป็นประจำ

การอ่านเป็นประจำนั้นเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและมองโลกของคุณได้ หนังสือแต่ละเล่มที่คุณเปิดอ่าน คุณจะได้เข้าสู่โลกของความคิดสร้างสรรค์และได้รับมุมมองใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน

การอ่านหนังสือทำให้คุณได้เรียนรู้เรื่องราว แนวคิด และข้อมูลใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง ความรู้ที่ได้รับจะช่วยขยายมุมมองและทำให้คุณเข้าใจโลกและคนรอบข้างได้ดียิ่งขึ้น
ช่วยเสริมสร้างทักษะภาษาของคุณ ทำให้คุณเข้าใจและใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถนี้จะส่งผลดีต่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันและสถานการณ์ทางวิชาชีพ

หนังสือประเภทนวนิยาย เรื่องเล่าจินตนาการ ช่วยกระตุ้นจิตใจ ทำให้คุณสามารถคิดนอกกรอบและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองได้ อีกทั้ง การดื่มด่ำกับเรื่องราวที่ดีเป็นการหนีจากความเครียดและความวุ่นวายของชีวิตประจำวันได้ เป็นการผ่อนคลายที่ทั้งสนุกและเป็นประโยชน์ นอกจากนั้นการอ่านเรื่องราวและประสบการณ์ของผู้อื่นสามารถช่วยให้คุณมองเห็นแง่มุมต่างๆ ของตัวเองที่คุณอาจไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน และช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองในระดับที่ลึกขึ้น

เห็นมั้ยว่า การอ่านทุกวันหรือเป็นประจำไม่เพียงแต่เป็นการฝึกฝนทักษะที่สำคัญ แต่ยังเป็นการลงทุนในการเติบโตส่วนบุคคลของคุณด้วย การเลือกหนังสือที่หลากหลายและท้าทายตัวเองด้วยเนื้อหาใหม่ๆ จะช่วยให้คุณพัฒนาในหลายๆ ด้านและเพิ่มประสบการณ์ชีวิตของคุณ


5. ขยายเครือข่ายของคุณ

การขยายเครือข่ายเพื่อการพัฒนาตนเองผ่านเวิร์กช็อปสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการเรียนรู้และเติบโตทั้งในด้านอาชีพและการเรียนรู้ส่วนตัว คุณอาจ เริ่มต้นด้วยการสมัครเข้าร่วมเวิร์กช็อปที่เน้นทักษะในการพัฒนาตนเอง และความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งจะช่วยให้คุณได้พบกับผู้คนที่มีความสนใจที่คล้ายคลึงกันและขยายเครือข่ายของคุณในทางที่สร้างสรรค์

ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ เช่น LinkedIn และ Facebook มีกลุ่มและชุมชนมากมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตนเอง การเข้าร่วมกลุ่มเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้คนที่มีความสนใจเดียวกันและพบกับโอกาสใหม่ๆ

การเข้าร่วมองค์กรและชมรมในท้องถิ่นหรือออนไลน์ที่เน้นด้านการพัฒนาตนเองสามารถเป็นสถานที่ ที่ดีในการเจอกับผู้คนที่มีความสนใจและความทะเยอทะยานที่คล้ายคลึงกัน

การขยายเครือข่ายไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเติบโตในแง่มุมของการพัฒนาตนเองเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้รับทัศนคติใหม่ๆ และแนวคิดใหม่ๆ ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิตและอาชีพของคุณได้


6. เข้าร่วมเวิร์คช็อปการพัฒนาตนเอง

การเข้าร่วมเวิร์กช็อปการพัฒนาตนเองจริงๆ แล้วเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นที่มีความสนใจและเป้าหมายที่คล้ายกัน นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโตในหลายๆ ด้าน คุณควรใช้ประโยชน์จากเวิร์กช็อปการพัฒนาตนเองให้เต็มที่ โดยเริ่มจากเลือกเวิร์กช็อป อย่างรอบคอบ เลือกที่ตรงกับความต้องการของคุณ ดึงดูดความสนใจของคุณมากที่สุด หากคุณกำลังมองหาการพัฒนาทักษะที่เฉพาะเจาะจง เช่น การจัดการความเครียดหรือการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกเวิร์กช็อปที่เน้นเรื่องเหล่านั้น

จากนั้นเตรียมตัวก่อนเข้าร่วม ด้วยการทำหาข้อมูลเกี่ยวกับวิทยากร หัวข้อที่จะถูกนำเสนอในเวิร์กช็อป เตรียมคำถามหรือหัวข้อที่คุณสนใจที่จะสำรวจให้มากที่สุด พอถึงวันงานคุณต้องกระตือรือล้นในการมีส่วนร่วม ระหว่างเวิร์กช็อปให้เข้าร่วมกิจกรรมการอภิปรายอย่างเต็มที่ การมีส่วนร่วมสามารถช่วยให้คุณได้รับความสนใจจากวิทยากรและผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ

อย่าลืมสร้างความสัมพันธ์ ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกับผู้ที่คุณพบว่า มีความคิดเห็นหรือเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน นี่อาจเป็นก้าวแรกในการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว โดยหลังจากเวิร์กช็อปจบลง ส่งอีเมลหรือข้อความขอบคุณไปยังผู้ที่คุณมีการติดต่อและสนทนาด้วย และหาโอกาสที่จะพูดคุยหรือพบปะกันอีกครั้งเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์

การเข้าร่วมเวิร์กช็อปไม่เพียงแต่จะเพิ่มทักษะของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ในอาชีพและชีวิตส่วนตัวของคุณ ด้วยการเชื่อมต่อกับผู้คนที่มีความคิดเหมือนกันและสามารถให้การสนับสนุนและแรงบันดาลใจแก่คุณได้.


7. ร่วมเป็นจิตอาสา สมัครทำงานเพื่อสังคม

การอาสาสมัครทำงานเพื่อสังคมจริงๆ แล้วมีประโยชน์อย่างมาก ไม่เพียงแค่ต่อผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวคุณเองด้วย การอาสาสมัครไม่เพียงช่วยให้คุณสามารถสร้างความแตกต่างได้ แต่ยังเป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาทักษะใหม่ๆ สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ และขยายมุมมองโลกของคุณ
คุณสามารถเริ่มต้นการอาสาสมัครได้โดยค้นหาองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคม ที่ตรงใจคุณ เยี่ยมชมเว็บไซต์ของพวกเขา ดูว่ามีงานอาสาสมัครเรื่องใดบ้าง หรือติดต่อโดยตรง เพื่อถามข้อมูล
เลือกกิจกรรมที่ตรงกับทักษะของคุณ นึกถึงสิ่งที่คุณมีความสามารถและสิ่งที่คุณต้องการพัฒนา พิจารณาว่าคุณต้องการช่วยเหลือกลุ่มใด เช่น เด็กๆ, ผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีความต้องการพิเศษ, หรือชุมชนที่ด้อยโอกาส จากนั้นเลือกกิจกรรมอาสาสมัครที่สอดคล้องกับทักษะเหล่านั้น

สำหรับคนที่มีเวลาน้อย สามารถเลือกเข้าร่วมโครงการระยะยาวหรืองานอีเวนต์เฉพาะ การเข้าร่วมงานอีเวนต์หรือโครงการเฉพาะกิจก็เป็นการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่

งานอาสามัคร นอกจากจะช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว ยังสามารถใช้ประสบการณ์นี้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ฝึกทักษะใหม่ๆ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและชีวิตของผู้อื่น และเป็นวิธีที่ดีในการพบปะผู้คนที่มีความคิดเหมือนกัน ซึ่งสามารถนำไปสู่มิตรภาพและโอกาสทางวิชาชีพในอนาคต

การอาสาสมัครไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณได้รับความรู้สึกดีๆ จากการช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในการพัฒนาตัวเองและเติบโตทางสังคมและอาชีพของคุณด้วย.

8. การเอาชนะความกลัวและพร้อมรับทุกความเสี่ยง

การรับความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของคุณ และขยายขอบเขตที่คุณสามารถเข้าถึงได้ และก่อนที่คุณจะลงมือทำอะไร ให้พิจารณาผลกระทบและความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ทำความเข้าใจถึงทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เสี่ยงมากเกินไปในสิ่งที่ไม่คุ้มค่า

หากคุณรู้สึกลังเลที่จะเสี่ยง ลองเริ่มจากความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณสามารถจัดการได้ การทำแบบนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจและเพิ่มประสบการณ์ในการจัดการกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

ศึกษาและเตรียมตัว ค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำ ยิ่งคุณรู้มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสเอาชนะความท้าทายได้มากขึ้นเท่านั้น การมีข้อมูลที่ดีจะช่วยให้คุณรับมือกับความไม่แน่นอนได้ดีขึ้น ที่อสำคัญคือ อย่าลืม มีแผนสำรองเสมอ นี่คือวิธีที่คุณสามารถจัดการกับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ การมีแผน B (และบางทีอาจจะเป็นแผน C) จะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจและลดความเครียดที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง

เมื่อข้อมูลพร้อมแล้ว ก็มาพิจารณาถึงผลกระทบระยะยาว ก่อนที่จะตัดสินใจเสี่ยง ให้คิดถึงผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ พยายามมองหาว่าความเสี่ยงนั้นจะช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายในระยะยาวของคุณได้มากน้อยเพียงใด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ให้ใช้ประสบการณ์นั้นเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ทุกความพยายามมีบทเรียนที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นในอนาคต

การเรียนรู้ที่จะรับความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาตนเอง มันไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการจัดการกับความท้าทายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจและดำเนินชีวิตได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย


9. ฝึกสมาธิ ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท

การฝึกสมาธิเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาจิตใจและปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมของคุณ ขั้นตอนพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นฝึกสมาธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มจากเลือกสถานที่ที่เงียบสงบ หาที่ที่คุณไม่ถูกรบกวน เช่น ห้องที่เงียบหรือมุมสวนที่สงบ เพื่อช่วยให้คุณมีสมาธิอย่างเต็มที่ในระหว่างการทำสมาธิ จากนั้นกำหนดเวลา เริ่มจากการฝึกสมาธิเพียงไม่กี่นาทีในแต่ละวันและค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นตามที่คุณสะดวก แม้แต่การทำสมาธิเพียง 5-10 นาทีต่อวันก็สามารถให้ประโยชน์มากมาย

ใช้เทคนิคการหายใจ โฟกัสที่ลมหายใจของคุณ รับรู้ถึงการหายใจเข้าและหายใจออกอย่างช้าๆ และลึก การใส่ใจในลมหายใจจะช่วยให้จิตใจของคุณไม่เสียสมาธิไปกับความคิดอื่น รับรู้ถึงความคิดของคุณ ระหว่างทำสมาธิ คุณอาจพบว่ามีความคิดมากมายผุดขึ้นมา แทนที่จะพยายามหยุดหรือต่อสู้กับความคิดเหล่านั้น ให้สังเกตและปล่อยวางพวกมันไปอย่างสงบ

มีแอปพลิเคชันและวิดีโอมากมายที่สามารถช่วยคุณเรียนรู้เทคนิคการทำสมาธิได้ แอปพลิเคชันเหล่านี้มักมีการแนะนำการทำสมาธิแบบนำเสนอ (guided meditation) ซึ่งสามารถช่วยให้คุณเข้าสู่สภาวะสมาธิได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้การฝึกสมาธิไม่เพียงแต่ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มการตระหนักรู้ต่อปัจจุบัน ส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น และปรับปรุงความสัมพันธ์กับตัวเองและผู้อื่นได้อีกด้วย


10. พัฒนานิสัยเชิงบวก

การพัฒนานิสัยเชิงบวก สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณในทางที่ดีขึ้นได้ ทั้งด้านอารมณ์, จิตใจ, หรือการมีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เริ่มต้นด้วยการตระหนักและสังเกตนิสัยปัจจุบันของคุณ แยกแยะว่านิสัยใดที่เป็นบวกและนิสัยใดที่ควรเปลี่ยนแปลง การรู้ตัวเองเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ จากนั้นกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเฉพาะเจาะจง นิสัยที่คุณต้องการพัฒนาคืออะไร เช่นคุณต้องการเป็นคนขอบคุณมากขึ้น, ลองเริ่มต้นด้วยการเขียนบันทึกขอบคุณทุกวัน

เลือกแทคติกที่เหมาะสม หากคุณพบว่าตัวเองมักจะมองโลกในแง่ลบ พยายามทำความคุ้นเคยกับการหาจุดเด่น หรือแง่บวกในทุกสถานการณ์ แล้วสร้างนิสัยใหม่ๆ พัฒนานิสัยใหม่ๆ ที่เสริมสร้างความคิดและการกระทำเชิงบวก เช่น การฝึกสติปัญญาและการเรียนรู้ที่จะตอบสนองต่อความท้าทายด้วยทัศนคติที่สร้างสรรค์ จากนั้นประเมินผลและปรับปรุง ตรวจสอบความคืบหน้าของคุณเป็นประจำ

ยึดมั่นในนิสัยใหม่ นิสัยเชิงบวกจำเป็นต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและการยึดมั่นในพวกมัน เช่นเดียวกับการพัฒนาทักษะใดๆ การตั้งใจและอุทิศตนเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการพัฒนานิสัยเชิงบวกไม่เพียงแต่ทำให้คุณมีชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อคนรอบข้างและชุมชนของคุณด้วย สร้างเสริมและเฉลิมฉลองแต่ละก้าวเล็กๆ ที่คุณทำได้ และคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในชีวิตของคุณ.

ที่มา: https://www.lordsuni.edu.in/blog/guide-to-personal-growth-2024