สัปดาห์นี้ “คุณหมอชยุต” จะพาเราไปทำความรู้จักกับโรคอ้วน โรคฮิตที่กำลังเป็นปัญหาของคนทั่วโลก ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่าค่าเฉลี่ยความอ้วนของคนไทยอยู่ในลำดับที่ 2 รองจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “มาเลเซีย” ในเอเชีย ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศเลยทีเดียว ขณะที่จากการสำรวจยังพบว่าทั่วโลกมีคนอ้วนเฉียด ๆ 1,000 ล้านคนเลยทีเดียว สาเหตุของความอ้วน ทั้งนี้สาเหตุของความอ้วนมีปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดถึง 8 ปัจจัยด้วยกันคือ ประการที่ 1 เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงเป็นประจำ รวมถึงการทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย เช่นอาหารประเภทของทอด ,อาหารที่มีรสหวาน, น้ำอัดลม ฯลฯ  ประการที่ 2 เกิดจากการกินจุบกินจิบ จนทำให้กระเพาะอาหารทำงานไม่เป็นเวลา ประการที่ 3 เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ประการที่ 4 เกิดจากการรับประทานยาบางประเภท เช่น Steroid ,ยาคุมกำเนิด ฯลฯ  ประการที่ 5 เกิดจากพันธุกรรม  ประการที่ 6 เกิดจากโรคทางต่อมไร้ท่อบางอย่าง เช่น ไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป ,ภาวะดื้ออินซูลิน ประการที่ 7 เกิดจากรูปแบบการดำเนินชีวิต เช่นปัจจุบันมักอยู่กับโต๊ะทำงาน ไม่ค่อยได้มีการออกกำลังกาย ทำให้พลังงานในแต่ละวันที่เหลือ จึงแปรเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และประการสุดท้าย เกิดจากการรับประทานอาหารตอนดึก ๆ หรือทานอาหารไม่เป็นเวลา หรืออายุมากขึ้นจะมีผลทำให้ระบบการเผาผลาญมีประสิทธิภาพลดลง หรือการใช้พลังงานลดลง ผลเสียของโรคอ้วน                    เมื่อรู้กันถึงสาเหตุที่มาของโรคอ้วนกันแล้ว คราวนี้ไปดูกันต่อว่าแล้วโรคอ้วนดังกล่าวมีผลเสียอะไรที่ตามมากันบ้าง เรื่องนี้ “คุณหมอชยุต” อธิบายความว่า ที่ผ่านมาพบว่าคนอ้วนจะมีอัตราการเจ็บป่วยและอัตราการตายสูงกว่าคนที่อายุเท่ากัน ที่น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ แถมยังเกิดภาวะโรคแทรกซ้อนได้อีก โดยโรคที่พบบ่อย ๆมีด้วยกันมากมาย ตั้งแต่..... -โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่นความดันสูงขึ้น,ไขมันสูง,โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน,หัวใจขาดเลือดฯลฯ -โรคเบาหวาน -โรคปวดเข่า ข้อเสื่อม -โรคทางระบบหายใจ เนื่องจากมีไขมันมากขึ้นบริเวณรอบทรวงอก ทำให้ทรวงอกขยายตัวไม่ดีและกระบังลมเคลื่อนไหวไม่ดีเนื่องจากมีไขมันในช่องท้องทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย มีหยุดหายใจขณะหลับได้ -โรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม,มะเร็งลำไส้ ฯลฯ - นิ่วในถุงน้ำดี - เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ,ริดสีดวง, ท้องผูก ฯลฯ - มีปัญหาทางด้านอารมณ์ เช่น ซึมเศร้า ,ขาดความเชื่อมั่น ลดความอ้วนอย่างไรดี                 มาถึงตอนท้ายของบทความกับหัวข้อที่ว่าแล้วจะลดความอ้วนกันอย่างไรดี เรื่องนี้ “คุณหมอชยุต” ระบุว่ามีด้วยกัน 4 วิธีดังนี้  ประการที่ 1 การควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ และควบคุมพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันให้เหมาะสม โดยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานอาหารที่ให้พลังงานต่ำเช่น ต้ม ๆนึ่ง ๆ ผักสดต่างๆ ผลไม้ งดทานของมัน ของทอด ของขบเคี้ยว และควรงดดื่มน้ำหวาน ชา กาแฟ ประการที่ 2 การออกกำลังกาย ควรทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารเพื่อให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น โดยใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีขึ้น และทำอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 150 นาทีต่อสัปดาห์ แต่ถ้าน้ำหนักตัวมาก ๆก็ไม่ควรวิ่งเพราะจะมีผลต่อข้อเข่า ควรเลือกการว่ายน้ำหรือถ้าสถานที่ไม่สะดวกก็อาจใช้วิธีแกว่งแขนวันละ 100 ครั้งหรือ 30 นาที ประการที่ 3 ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ หรือเดินขึ้นสะพานลอย ฯลฯ ประการที่ 4 หากอ้วนมากจนมีปัญหาต่อสุขภาพ หรือใช้วิธีต่าง ๆแล้วไม่ได้ผลและต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก็มีอีกหลายวิธีด้วยกันเช่น การผ่าตัด ,การใช้ยาบางชนิดซึ่งไม่มีผลเสียต่อร่างกาย หรือการเพิ่มระบบการเผาผลาญให้ดีขึ้น ซึ่งจะต้องปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเท่านั้น โดย นต.น.พ.ชยุต ชีวะพฤกษ์