สำหรับนิคมอุตสาหกรรมยางพารา ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีสำหรับการลงทุน เป็นแหล่งวัตถุดิบคุณภาพดีที่มีปริมาณสม่ำเสมอ เป็นจุดศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการศึกษาของภาคใต้

ขณะที่แรงดึงดูดที่สร้างแรงจูงใจในการลงทุนนั้นมีด้วยกันหลายปัจจัย ตั้งแต่เครือข่ายอุตสาหกรรมยางพาราที่สามารถเป็นได้ทั้งตลาดและผู้จัดหาวัตถุดิบแก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม,เป็นพื้นที่ปลอดน้ำท่วม,แรงงานมีคุณภาพจากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง ,ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนตามอัธยาศัย ตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ และโครงการความร่วมมือเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย มีความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันเกษตรกร สถาบันการศึกษา ห้องปฏิบัติการกลาง สมาคมภาคเอกชน เช่น ตลาดกลางยางพารา เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน

          ด้านระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ประกอบด้วย ระบบไฟฟ้าสามารถจ่ายไฟได้ไม่น้อยกว่า 60 กิโลโวลต์แอมแปร์ (KVA)/ไร่, มีอ่างเก็บน้ำขนาด 2,000,000 ลูกบาศก์เมตร สามารถจ่ายน้ำได้ 7-10 ลูกบาศก์เมตร/ไร่/วัน, ระบบบำบัดน้ำสามารถรองรับและบำบัดน้ำเสียได้วันละ 8,500 ลูกบาศก์เมตร/วัน รวมทั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมสามารถรองรับคู่สายโทรศัพท์ได้ 2,098 สาย

          สำหรับสิทธิประโยชน์ในการลงทุน แบ่งเป็น 2 ประเภทคือสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ด้านสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานได้แก่สิทธิในการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมยางพารา สิทธิใรการนำช่างฝีมือต่างชาติเข้ามาทำงาน, สิทธิในการนำช่างฝีมือต่างชาติ คู่สมรสและบุคคลในอุปการะเข้ามาอยู่ในประเทศ, สิทธิในการส่งเงินตราต่างประเทศออกนอกประเทศ

          ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ได้แก่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตสำหรับเครื่องจักรอุปกรณ์และวัตถุดิบ, ได้รับยกเว้นอากรขาออก ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตสำหรับวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์, ได้รับคืนค่าภาษีอากรสำหรับเครื่องจักรและวัตถุดิบ และ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผลนาน 8 ปี