“ปี 2560 หากการเมืองไปได้โครงการต่าง ๆออกมา เชื่อว่าเราคงโตได้ถึง 4% แต่ก็ต้องให้เอกชนลงทุนด้วยจะหวังแค่การส่งออกคงเป็นไปไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาสินค้าหลายอย่าง ทั้งข้าว ยาง อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ เรายังอยู่ที่เดิมไม่ได้มีการพัฒนาหรือเพิ่มประสิทธิภาพ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพ และอัพเกรดสิ่งที่มีอยู่ให้ได้” ดร.สมคิด กล่าว

นอกจากนี้ตนยังได้มอบการบ้านให้กระทรวงการคลังดำเนินการในปี 2560 นี้ซึ่งประกอบด้วย 1.การดูแลสังคมคนชรา ที่ผ่านมาที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ การสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุ สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ การสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ แต่ทั้งนี้อาจยังไม่เพียงพอ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เป็นหน่วยงานหลักในการหามาตรการออกมาเป็นแพ็คเกจโดยร่วมกับสถานพยาบาล ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. การเคหะแห่งชาติ เป็นต้น 

2.การดูแลเรื่องความเท่าเทียม ซึ่งเป็นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมามีการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการของรัฐซึ่งหลังจากนี้การช่วยเหลือในส่วนของสวัสดิการนั้นก็จะระบุกลุ่มที่ชัดเจน จะต้องมีเงื่อนไขว่าให้กลุ่มไหนและต้องการให้พัฒนาอะไรบ้าง เพื่อเป็นการเกื้อกูลคนจน ขณะเดียวกันยังได้มอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. ร่วมกับสศค.เร่งดำเนินการในเรื่องของสถาบันการเงินชุมชน และธนาคารที่ดินเพื่อดูแลกลุ่มที่มีที่ดินแต่ไม่มีเงิน โดยแนวทางในการดำเนินการนั้นได้ให้เวลา 3 เดือนไปดำเนินการก่อนที่จะเสนอให้ตนรับทราบอีกครั้ง

3.ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งคาดว่าภายในปลายเดือนมกราคม 2560 จะมีแคมเปญออกมาซึ่งจะเป็นการดูแลทั้งลูกหนี้ เจ้าหนี้นอกระบบ ซึ่งในส่วนของลูกหนี้ก็จะให้เข้ามาอยู่ในระบบ ด้านเจ้าหนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นเจ้าหนี้ที่ดี ซึ่งถือเป็นเรื่องหลักที่จะเข้ามาช่วยดูแลคนจน 

“สิ่งที่ผมมาสั่งการในวันนี้ได้มอบหมายไปว่าแนวทางเป็นยังไง และจะมาติดตามงานภายใน 3 เดือนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาเวลามีนโยบายออกมาแล้วมันก็หายไป ไม่ได้ออกมาเป็นรูปธรรม ครั้งนี้มันจะต้องเห็น เพราะเรามีเวลาเหลือแค่ 1 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ในการจัดทำงบประมาณปี 2561 นั้นก็อยากให้มีการจัดเก็บรายได้มากกว่า 2.4 ล้านล้านบาท เพราะเราต้องใช้จ่ายเงินเยอะมาก จึงได้มอบหมายให้กรมสรรพกรกับกรมสรรพาสามิตไปหาทางในการหารายได้มาว่าจะทำอย่างไรให้เพิ่มมากขึ้น” ดร.สมคิด กล่าว 

ผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในเอกสารการประชุมมอบนโยบายยังมีแผนงานของกระทรวงการคลังในปี 2560 ที่เป็นภารกิจงานที่ดำเนินการต่อเนื่อง ประกอบด้วยการเตรียมความพร้อมบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง / ศูนย์กระจายและจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี หรือ Border Town เขตเศรษฐกิจพิเศษ มาตรการจัดเก็บรายได้บริเวณโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการภาษีสนับสนุนอุปกรณ์ลดอุบัติเหตุทางถนน การผลักดัน Thailand Future Fund การจัดตั้งกองทุนผู้สูงอายุ การแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การยกร่างพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อเป็นการทั่วไป เป็นต้น



p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000} p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000; min-height: 13.0px} span.s1 {font-kerning: none}