วันที่ 4 ส.ค. ความคืบหน้าในคดีฆ่าไฮโซสาวนักธุรกิจ น.ส.ธิติมา หรือ เชอร์รี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี ท้องที่ สน.โชคชัย โดยมีการออกหมายจับ โก้ นายอัศยา หรือ โก้ ชัยภา อายุ 33 ปี ลูกน้องคนสนิทของผู้ตาย ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ซึ่งหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวนั้น ล่าสุด คดีนี้ ตำรวจสงสัยน้องชายของนายอัศยา จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยได้ออกหมายเรียกเพื่อให้มาพบแล้ว ในส่วนการติดตามตัวนายอัศยา ล่าสุด ตำรวจได้เบาะแสว่า นายอัศยาได้ออกจากโรงแรมที่พักในประเทศกัมพูชาเนื่องจากถูกตั้งค่าหัว พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวว่า ได้ประสานไปยังตำรวจกัมพูชาเพื่อให้ช่วยติดตามเบาะแสคนร้ายแล้ว พบว่า ทางตำรวจกัมพูชาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี น่าจะมีข่าวดีในอีกไม่กี่วัน โดยคดีคืบหน้าไปมาก และ มีแนวโน้มที่ดี ขณะนี้ตำรวจชุดติดตามตัวมีเบาะแสนายอัศยากลับเข้าไทยแล้ว คาดว่าไปตั้งหลักบ้านเกิด จ.ชัยภูมิ หรือพื้นที่รอยต่อ อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุม ซึ่งเป็นไปได้อย่าขัดขืน หรือ ให้มอบตัวเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ทางด้านนายดำรงค์ ประภาวัต อดีตพ่อตานายอัศยา พร้อมด้วย น.ส.รุจี ประภาสะวัต อายุ 31 ปี อดีตภรรยานายอัศยา หรือโก้ ชัยภา ผู้ต้องหาในคดีฆ่าไฮโซเชอรี่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย โดยนายดำรงค์ พูดสั้นๆว่า เป็นอดีตพ่อตาของคนร้าย และไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้น หากคนร้ายดูข่าวนี้อยู่ ขอให้เข้ามามอบตัวโดยด่วน เพราะสงสารครอบครัวของผู้ตาย นายดำรงค์ กล่าวว่า ลูกสาวอยู่กินกับนายอัศยาประมาณ 8-9 ปี มีลูก 1 คน อายุ 4 ขวบ ซึ่งอาจจะมีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายกัน ก่อนที่จะมีการเลิกรากันได้ประมาณ 1 ปี แต่ก็ยังติดต่อเรื่องลูกกันอยู่ ซึ่งนายอัศยาก็จะโอนเงินค่าเลี้ยงดูลูกมาให้ทุกเดือน แต่เดือนกรกฏาที่ผ่านมา ไม่มีการโอนเงินมา และขาดการติดต่อตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 61 ส่วนเรื่องเงินที่หายไปจำนวน 2.7 ล้านบาท ตนยืนยันว่าไม่มีเงินจำนวนนี่ในบัญชีลูกสาวอย่างแน่นอนขณะที่ น.ส.รุจี เปิดเผยว่า ตนเป็นอดีตภรรยาของนายอัศยา ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีปากเสียงกันเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือกัน ก่อนจะเลิกรากันไปประมาณ 1 ปี เพราะนายอัศยามีคนอื่น หลังจากนั้นก็ติดต่อกันแต่เรื่องลูกเท่านั้น ซึ่งผู้ตายเองก็ทราบว่าตนเป็นภรรยาของนายอัศยา ที่เคยอยู่กินกันมา