ข้าวกัมพูชา มีดีอะไร? ข้าวหอมมะลิไทย ถึงเสียแชมป์!!!

by ThaiQuote, 24 ตุลาคม 2561

ซึ่งการประกาศผลเป็นข้าวหอมมะลิ “อังกอร์” จากกัมพูชา ที่คว้ารางวัลอันดับ 1 ไปครอง ในขณะที่ “ข้าวหอมมะลิไทย” ได้ที่ 2 และ “ข้าวหอมมะลิเวียดนาม” พันธุ์ ST24 ได้ที่ 3 ถือเป็นครั้งที่ 4 (ปี 2012, 2013, 2014 และ 2018) “อังกอร์” คือข้าวหอมมะลิกัมพูชา เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองมีจุดแข็งคือ กลิ่นหอม เหนียวนุ่ม เป็นที่นิยมของกลุ่มชาวจีน แต่มีจุดอ่อนคือ หากปล่อยไว้ในอุณหภูมิปกติราว 10 นาที จะเหนียวและแข็ง ต้องกินตอนที่ร้อนเท่านั้น โดยคุณสมบัติข้อนี้ยังเป็นรองข้าวหอมไทยอยู่มาก
  • กัมพูชามีกรรมวิธีปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตดีอย่างไรกัน
ระบบการเกษตรกัมพูชาจะทำนาปีละ 1 ครั้ง เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ โดยยังใช้พื้นที่ทำการเกษตรไม่เต็มศักยภาพเนื่องจากประชากรน้อย ยังอาศัยแรงคนมากกว่าเครื่องจักร แต่หากพัฒนาระบบการเกษตรจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทย สภาข้าวกัมพูชา บอกว่า การที่กัมพูชาคว้าอันดับ 1 ข้าวที่ดีที่สุดในโลกมาครองในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความพยายามที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์มีความสะอาด เพื่อขยายการปลูกข้าว และมีเมล็ดพันธุ์คุณภาพ เหล่านี้จึงทำให้กัมพูชามีข้าวเปลือกที่ดี รวมถึงรสชาติที่ถูกปากผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเดิม และสภาพแวดล้อมของกัมพูชาเกื้อหนุนต่อภาคการเกษตร โดยเฉพาะการเพาะปลูกข้าวที่เติบโตอย่างมาก โดยรางวัล The World Best Rice Award จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับประเทศ เพิ่มมูลค่าข้าวกัมพูชาและเป็นโอกาสที่จะส่งเสริมข้าวหอมมะลิอังกอร์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทั้งนี้ ข้าวไทยสามารถคว้ารางวัลข้าวชนะเลิศ เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน (2016, 2017) ก่อนในปี 2018 จะมาเสียแชมป์ให้กับกัมพูชาในที่สุด
  • การกลับมาของข้าวพันธุ์ดีของกัมพูชา
  หากมองย้อนกลับไป กัมพูชาสูญเสียการครองแชมป์ เป็นระยะเวลา 3 ปีติดต่อกันในการประกวดข้าวดีเด่นหรือ “the World’s Best Rice” โดยในปีก่อนหน้านี้กัมพูชาได้อันดับ 2 รองจากประเทศไทย รองประธานสภาข้าวแห่งกัมพูชา บอกว่าประเทศผู้นำการผลิตข้าวรายใหญ่กว่า 7 ประเทศได้เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าวที่มาเก๊า ประเทศจีน ซึ่งมีข้าวกว่า 21 สายพันธุ์ ที่เข้าร่วมประกวด ข้าวของกัมพูชา ชื่อพันธุ์ “ผกา ลำดวน” (Phka Rumdoul) ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ตัดสิน รวมถึงได้รับการยอมรับและได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางในระหว่างการแข่งขัน จึงมีผู้ซื้อจากประเทศจีนและเวียดนามสนใจซื้อข้าวกัมพูชาเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากประเทศไทยมีการนำเสนอข้าวที่ชาญฉลาด โดยเชื่อมโยงพระมหากษัตริย์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เข้ากับประวัติศาสตร์ข้าว ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชมในงานประกวดเป็นอย่างมาก ในการประกวด “World’s Best Rice” จะใช้เกณฑ์การตัดสิน 5 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกลิ่น รสชาติ ความเหนียวนุ่ม ความชื้น และ รูปร่างลักษณะของข้าว และวิธีที่ใช้ตัดสินก็จะไม่มีการบอกให้กรรมการทราบว่าข้าวแต่ละสายพันธุ์เป็นข้าวของประเทศใด แล้วลงคะแนนตัดสิน ซึ่งคะแนนมาจากพันธุ์ข้าวที่หุงแล้วและยังไม่หุงให้สุก ข้าวพันธ์ “ผกา ลำดวน” ของกัมพูชาเคยคว้ารางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ปีซ้อน คือ ปี 2012, 2013, 2014 แต่ในปี 2015 ข้าวของกัมพูชาแพ้ให้กับข้าว “คาลิฟอเนีย โรส” (California Rose) ซึ่งเป็นข้าวจากสหรัฐฯ และแพ้ให้กับข้าวหอมมะลิไทยอีกครั้งในปีที่ผ่านมา ก่อนที่ในปี 2018 ไทยจะมาเสียแชมป์ให้กับกัมพูชากลับมาทวงบัลลังค์ได้สำเร็จในที่สุด ต้องบอกว่า ข้าวจากกัมพูชาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากอย่างที่สุดของข้าวไทยในเวลานี้ เพราะถ้าไม่ใช้ทักษะขั้นสูง จะแยกแทบไม่ออกเลยครับ เท่าที่ทราบมาราคาในตลาดโลก ข้าวกัมพูชาราคาก็ดีคือถูกกว่าข้าวไทยด้วย ถ้าวางกลยุทธ์ไม่ดี เห็นทีข้าวหอมมะลิไทยอาจจะเสียส่วนแบ่งในตลาดโลกอย่างถาวรเลยทีเดียว ยิ่งถ้าแบรนด์หอมมะลิไทยเราดี เป็นสินค้าชื่อดังขายได้ราคา ถ้ามีใครจับข้าวกัมพูชามาตีตราหอมมะลิไทยยิ่งแย่กันไปใหญ่
  • ข้าวไทยยังสดใสในตลาดจีน
แต่เดี๋ยวก่อนครับตอนนี้ กระแสคนรักสุขภาพกำลังแพร่ไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่พี่ใหญ่ในภูมิภาคนี้ยังพี่จีน จึงเป็นโอกาสอันดีของไทยที่จะส่ง ข้าว กข43 ข้าวพันธุ์พิเศษที่มีผลดีต่อสุขภาพ เพราะจากการศึกษาวิจัยพบว่ามีค่าการแตกตัวเป็นน้ำตาลน้อย และมีค่าดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนข้างต่ำ ถือเป็นข้าวทางเลือกของผู้ใส่ใจสุขภาพ เหมาะกับผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงและให้ความสนใจกับการรักษาสุขภาพและความกินดีอยู่ดี ซึ่งผมได้มีโอกาสลองชิมแล้ว ต้องบอกว่ามีความหอม นุ่ม เหนียวนิดๆ คล้ายข้าวญี่ปุ่นแต่ความหอมแบบไทยๆ แถมดีต่อสุขภาพด้วย ถึงแม้ข้าวไทยจะเสียแชมป์โลกไป แต่ในเรื่องความนิยมข้าวไทยก็ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากนานาชาติ ทำให้ยังสามารถส่งออกได้ดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเตรียมนำข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ข้าวพิเศษที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่และเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เข้าสู่ตลาดจีนเพิ่มเติมจากข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมเพื่อสุขภาพ กข43 จึงน่าจะเป็นหนทางและเป็นความหวังใหม่ของข้าวไทยในการครองใจชาวจีนรุ่นใหม่ที่กันมาสนใจสุขภาพได้ไม่ยากในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้ครับ ท้ายสุดนี้ ถึงแม้ “ข้าวหอมมะลิไทย” เสียแชมป์ประกวดให้ “ข้าวมาลีอังกอร์ของกัมพูชา” ก็จริงแต่การส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ยังเป็นที่ 1 ของโลก ถ้าดูตาม สถิติการส่งออกข้าวหอมในปี 2560 ประเทศกัมพูชาส่งออกข้าวหอมได้เพียง 394,027 ตันข้าวสาร ขณะที่ประเทศไทยส่งออกข้าวหอมได้มากถึง 2.30 ล้านตันข้าวสาร แม้กัมพูชาจะได้รับรางวัลชนะเลิศข้าวถึง 4 ครั้ง แต่การส่งออกข้าวหอมของกัมพูชายังมีน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการส่งออกข้าวหอมมะลิของไทย แต่จะนิ่งนอนใจไม่ได้ ควรต้องเร่งพัฒนาคุณภาพ และขยายตลาดเพื่อเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิชั้นเลิศที่สุดของโลกต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน https://www.youtube.com/watch?v=2MUbsEgYlwY ข่าวที่เกี่ยวข้อง ข้าวไทย แพ้! หอมมะลิกัมพูชา “อังกอร์” คว้าแชมป์ข้าวดีที่สุดในโลก “พาณิชย์” นำทัพลุย “อาลีบาบา” เปิดตัวข้าวไทยเพื่อสุขภาพ