ขุมทรัพย์ของ “คิง เพาเวอร์” ทำรายได้ปีละกว่าแสนล้านบาท

by ThaiQuote, 29 ตุลาคม 2561

ธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี หรือ “ดิวตี้ ฟรี” ของกลุ่ม “คิง เพาเวอร์” นับเป็นขุมทองหลักให้กับตระกูล “ศรีวัฒนประภา” ที่มีนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นผู้กุมบังเหียน ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล (อังกฤษ: King Power International Group) เป็นบริษัทด้านธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรของไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2532 โดยวิชัย ศรีวัฒนประภา ใช้ชื่อเดิมว่า บริษัท ดาวน์ทาวน์ ดี.เอฟ.เอส (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ร่วมทุนกับ ททท. เปิดดำเนินกิจการร้านค้าปลอดอากรในเมืองเป็นรายแรกในประเทศไทย ณ อาคารมหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 - 2549 ได้รับสัมปทานจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ปัจจุบันคือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)) เข้าบริหารร้านค้าปลอดภาษี ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด และในปี พ.ศ. 2549 ได้เข้ามาดำเนินการสินค้าปลอดอากร ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 บริษัทได้รับพระราชทานตราตั้งห้างครุฑ ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ถนนรางน้ำ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 วิชัยพร้อมด้วยผู้ร่วมทุนในนามกิจการร่วมค้าเอเชียนฟุตบอลอินเวสต์เมนท์ ได้ซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี พร้อมเปลี่ยนชื่อสนามจาก วอล์กเกอร์ส สเตเดี้ยม เป็น คิงเพาเวอร์สเตเดียม และในปี 2014 ได้บริหารทีมสโมสรเลสเตอร์ซิตี จนคว้าแชมป์ เดอะแชมเปี้ยนชิพ และเข้าไปเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในฤดูกาล 2014-2015 ในฤดูกาล 2015–16 เลสเตอร์ซิตีสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ต่อมาในวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ทางกลุ่มคิงเพาเวอร์ได้รับอนุมัติให้มีการซื้อขายสโมสร เอาด์-เฮเฟอร์เลเลอเฟิน ซึ่งเป็นสโมสรในระดับดิวิชั่น 2 ของประเทศเบลเยี่ยม [2] และได้มีการดึงตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ให้มาร่วมกับทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะของลีกเบลเยียมช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 รายได้ล่าสุด 1.8 พันล้านดอลลาร์ ส่วนข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ผลประกอบการของธุรกิจในเครือของ คิง เพาเวอร์ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีและอากร หรือ "ดิวตี้ ฟรี" ในปี 2560 ที่ผ่านมา รายได้รวมจากบริษัทในเครือ 9 แห่ง มีกว่า 104,520 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิมากกว่า 7,873 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1) บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีรายได้รวม 56,151 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,944 ล้านบาท 2) บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด มีรายได้รวม 35,633 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,838 ล้านบาท 3) บริษัทคิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด มีรายได้รวม 5,467 ล้านบาท กำไรสุทธิ 248 ล้านบาท 4) บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด มีรายได้รวม 5,324 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,764 ล้านบาท 5) บริษัท คิง เพาเวอร์ มาเก็ตติ้ง แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด มีรายได้รวม 404 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 144 ล้านบาท 6) บริษัท คิง เพาเวอร์ โฮเทล เมเนจเมนท์ จำกัด มีรายได้รวม 665 ล้านบาท กำไรสุทธิ 42 ล้านบาท 7) บริษัท คิง เพาเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด มีรายได้รวม 863 ล้านบาท กำไรสุทธิ 117 ล้านบาท 8) บริษัท คิง เพาเวอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด มีรายได้รวม 9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 703,535 บาท 9) บริษัท คิง เพาเวอร์ เอวิเอชั่น จำกัด มีรายได้รวม 216,701 บาท กำไรสุทธิ 162,083 บาท 10) บริษัท คิง เพาเวอร์ มหานคร จำกัด ยังไม่มีการรายงานรายได้และกำไร เนื่องจากเพิ่งก่อตั้งเมื่อ เมื่อ 11 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา นิตยสารฟอร์บสยังได้เผยว่านายวิชัย ศรีวัฒนประภา มีทรัพย์สิน 3.8 พันล้านยูโร เข้าซื้อสโมสรเลสเตอร์ ปี 2010 มูลค่า 39 ล้านยูโร ทำงาน 8 ปี ปัจจุบัน"เลสเตอร์" มูลค่าทะลุไปถึง 371 ล้านยูโร หรือกว่า 15,000 ล้านบาท   แถลงการณ์ เลสเตอร์ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” เสียชีวิตเหตุ ฮ.ตก ด้วยความรักและความเก่งของ “เจ้าสัว วิชัย” ส่ง“สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้”ผงาดขึ้นมาได้  อาณาจักร “วิชัย ศรีวัฒนประภา” เจ้าสัวแสนล้าน ผงาดในวงการลูกหนังโลก