ทีมนักกีฬาเยาวชนจ.นนทบุรีร้องเรียน ถูกตร.เปรียบเทียบปรับไม่เป็นธรรม ด้านผู้กำกับการสภ.หนองบุญมาก ชี้แจงไม่ได้ปรับ กำชับเจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจ

ในสังคมโซเชี่ยลมีการส่งต่อข่าวกรณีนักกีฬาเยาวชน จ.นนทบุรี ทำการขนเรือพาย เพื่อเดินทางไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติบุรีรัมย์เกมส์ ที่จ.บุรีรัมย์ แต่ได้ถูกตำรวจจราจรสภ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เปรียบเทียบปรับ ในข้อหาใช้รถลากจูงโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้จะมีการนำหนังสือขออำนวยความสะดวกจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีให้เจ้าหน้าที่ดู แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันที่จะเปรียบเทียบปรับ และเขียนค่าปรับเพิ่ม จาก 200 บาท เป็น 500 บาท นั้น

ล่าสุด ทางแฟนเพจ เรือพาย นครนนท์ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวอีกว่า ***จากข่าว**รถลากเรือทีมจังหวัดนนทบุรีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจและถูกเขียนใบสั่ง ระหว่างทางมาแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ บุรีรัมย์เกมส์ ทีมเรือนนทบุรีขอชี้แจงดังนี้ว่า

1.รถลากเรือถูกจับจริงโดยข้อหารถลากจูงไม่มีทะเบียน
2.ถูกเขียนใบสั่งจริง แต่ยังไม่มีการเรียกรับเงินใดๆ ทั้งสิ้น
3.หนังสือคำสั่งจังหวัดนนทบุรีมีจริง
4.ที่เป็นข่าวอาจเป็นเพราะทีมเราไม่เคยถูกจับข้อหานี้
5.เป็นข่าวไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นการเข้าใจผิดในการสัมภาษณ์หรือการเขียนข่าว

***ทั้งนี้ทีมเรือพายจังหวัดนนทบุรี เคารพกฎหมายการจราจรทุกประการ และไม่มีเจตนาโจมตีการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ ขอยืนยันว่าเป็นความจริงทุกประการครับ

สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นักกีฬาเรือพายเยาวชน จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ระหว่างเดินทางไปแข่งขันกีฬาเรือพายในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 10-20 พ.ค. 62 ว่า ถูกตำรวจจราจรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาจับกุมระหว่างการเดินทางมาแข่งขัน

มีนักกีฬาร่วมเดินทางมาประมาณ 400 คน ส่วนคณะของตนมีนักกีฬาร่วมเดินทางมาประมาณ 20 คน ในขบวนได้บรรทุกเรือพายขนาดความยาว 12.5 เมตร มาด้วยจำนวน 2 ลำ โดยบรรทุกใส่ตัวพ่วงใช้รถกระบะลากจูง เวลาประมาณ 06.50 น. เดินทางถึงบ้านหนองหัวแรด ต.หนองหัวแรด อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ใช้เส้นทาง ถนนสาย 24 (โชคชัย-เดชอุดม) เขตติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ มีด่านตรวจของตำรวจ สภ.หนองบุญมาก เรียกให้จอดพร้อมตรวจสอบ

ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ใช้รถลากจูงโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตนเองกับคณะ ได้อธิบายว่าจะเอาเรือไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ จังหวัดบุรีรัมย์ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ทำผิดกฎหมาย พร้อมสั่งปรับเป็นเงิน 200 บาท พวกตนรู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เกรงว่าเจ้าหน้าที่จะไม่เชื่อว่าไปแข่งขันกีฬาจริง จึงนำใบส่งตัวนักกีฬาลงนามโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ให้ทางเจ้าหน้าที่ดู สอบดู เจ้าหน้าที่ระบุว่า จะเอาหนังสืออะไรมาแสดง ก็ไม่สนใจ เนื่องจากผิดกฎหมาย จากนั้นได้เรียกค่าปรับเพิ่มจาก 200 บาท เป็น 500 บาท

ด้านพ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา กล่าวถึงกรณีร้อนนี้ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการเปรียบเทียบปรับใบสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด ไม่มีการยึดใบขับขี่เพื่อให้มาทำการเปรียบเทียบปรับ เป็นเพียงใบสั่งลอยเท่านั้น และขอชี้แจงว่าตามที่มีการระบุในข่าวว่า ตอนแรกเขียนในใบสั่ง 200 บาท แล้วมาเขียนเพิ่มเป็น 500 บาทนั้น ไม่เป็นความจริง

‘ผมได้ถามผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แล้วพบข้อเท็จจริงว่า เมื่อมีการเรียกตรวจและจะเปรียบเทียบปรับ ผู้ขับขี่ได้บอกว่า มีหนังสือขออำนวยความสะดวกจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีมาด้วย เมื่อนำหนังสือฉบับดังกล่าวว่าตรวจสอบ พบว่าในหนังสือไม่ได้กรอกรายละเอียดข้อมูลในการขออำนวยความสะดวก เจ้าหน้าที่ประจำด่านจึงให้ไปพบหัวหน้าจุดตรวจและออกใบสั่ง เพื่อให้ทำเอกสารให้ถูกต้อง และผมได้กำชับเจ้าหน้าที่แล้วว่า ในครั้งต่อไปถ้ามีหนังสือขออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ไม่จำเป็นต้องครบถ้วนทั้งหมด ขอแค่ว่าถ้าระบุถึงความจำเป็นต้องขนย้ายอุปกรณ์เพื่อการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ ก็ขอให้ช่วยอำนวยความสะดวก ‘ พ.ต.อ. ชนัตถ์ ระบุ

ในส่วนเรื่องใบสั่งนั้น พ.ต.อ.ชนัตถ์ กล่าวต่อไปว่า ได้มีการประสานไปกับทางทีมนักกีฬาแข่งเรือแล้วว่า ขากลับจากการแข่งขันให้นำใบสั่งฉบับดังกล่าว มาคืนที่สภ.หนองบุญมาก เพื่อจะทำการแก้ไขปัญหา ซึ่งสามารถแก้ไขเป็นว่ากล่าวตักเตือนได้ และยอมรับว่าส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน อีกทั้งต้องเรียนอีกว่า ในข้อกฎหมายเรื่องการใช้รถลากจูงโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น การใช้จะมีความผิดตามพ.ร.บ.จราจร ซึ่งมีอัตราเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 1000 บาท

‘แต่ก็ยังมีเกณฑ์ที่ให้เจ้าพนักงานสามารถอะลุ่มอล่วย เพื่อให้เป็นการอำนวยความสะดวกกันไป ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาจจะใช้ดุลยพินิจแบบเคร่งครัดไปสักหน่อย ผมก็ได้กำชับไปแล้วว่าให้ใช้ดุลยพินิจให้มากขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง’ พ.ต.อ. ชนัตถ์ กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ข่าว banmuang.co.th

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
เปิดแคมเปญลงชื่อ ขอความเป็นธรรมให้ ‘ซีอุย’