วันงดสูบบุหรี่โลก เรามาตั้งต้นเลิกบุหรี่ เพื่ออายุที่ยาวขึ้น

by ThaiQuote, 31 พฤษภาคม 2562

วันนี้ (31 พ.ค.)ของทุกปีเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก สำหรับประเทศไทยมีการรณรงค์ให้เลิกบุหรี่มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 20 ปี มีกฎหมายลดพื้นที่ในการสูบบุหรี่ แต่ก็ยังมีคนที่สูบบุหรี่ในเมืองไทยอยู่มาก

รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าในปี 2561มีคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ถึงกว่า 50,000 คน หรือวันละ 140 คน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเสียชีวิตปีละกว่า 5,000 คน แม้ว่าแนวโน้มคนสูบบุหรี่จะลดลง แต่ก็เป็นการลดลงอย่างช้าๆ มีผู้สูบบุหรี่หน้าใหม่ที่อายุน้อยลง การสูบบุหรี่เป็นการสูญเสียทั้งทางเศรษฐกิจ รายได้ และสุขภาพ ในวันงดสูบบุหรี่โลกนี้จึงขอรณรงค์ให้ทุกคนใช้จุดเริ่มต้นนี้ในการลด ละ เลิก สูบบุหรี่

ษักรินทร์ เมืองมูล ผู้ให้คำปรึกษาด้านการเลิกบุหรี่ ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ เล่าว่า ผู้สูบบุหรี่แต่ละคนเลิกบุหรี่ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน เป็นเหตุผลเฉพาะตน การรู้ว่าตนเองต้องการอะไรจากการเลิกบุหรี่จะช่วยให้เกิดความมุ่งมั่นในการเลิกบุหรี่เพิ่มขึ้นซึ่งการติดบุหรี่เกิดจากปัจจัยอยู่ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านนิสัยพฤติกรรม คือการสูบบุหรี่ร่วมกับการกระทำบางอย่าง เช่น สูบหลังกินข้าว กินเหล้าแล้วสูบ เป็นต้น ด้านความคิดและอารมณ์ คือ สูบบุหรี่เมื่อมีความคิดหรืออารมณ์บางอย่าง เช่น อารมณ์กังวล เบื่อ โดยทั้ง 2 ด้านนี้รวมเป็นความเคยชินในชีวิตประจำวันของแต่ละคน ด้านร่างกายหรือการติดนิโคติน ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีส่วนประกอบในบุหรี่

แล้วจะเลิกบุหรี่อย่างไรให้สำเร็จ
ษักรินทร์ แนะนำว่า การเลิกบุหรี่ให้สำเร็จนั้น ควรจะหยุดสูบในทันที หรือที่เรียกกันว่า “หักดิบ” พร้อมทำตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

1. ปรับพฤติกรรม เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่พยายามเลิกบุหรี่ด้วยการสูบให้น้อยลงนั้น ในที่สุดจะกลับไปสูบมากขึ้นอย่างเดิม หรือสูบมากกว่าเดิมเสียอีก

โดยในระยะแรกๆ ที่เลิกสูบ มักจะเกิดอาการอยากบุหรี่อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นอาการที่ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะเป็นการเสพติดมาจากพฤติกรรมการสูบเดิม ดังนั้นหากมีอาการอยากสูบบุหรี่ล่ะก็ แนะนำให้หาหมากฝรั่ง ลูกอม หรือดมยาดม เพื่อให้ติดเป็นนิสัยใหม่แทนการสูบบุหรี่ ใช้ หมากฝรั่งนิโคตินมาเคี้ยวจะดีมาก

2.หลีกเลี่ยงสถานที่หรือช่วงระยะเวลาที่เคยสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ เพราะความเคยชินเหล่านั้น อาจจะเป็นสาเหตุทำให้หวนกลับไปสูบบุหรี่อีกครั้ง ลองหาสถานที่ใหม่ ๆ หรือเดินออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ช่วยได้มากไม่น้อย

3.การดื่มน้ำก็เป็นตัวช่วยที่ดี เช่นกัน คนที่เลิกบุหรี่ควรดื่มน้ำไม่ต่ำกว่าวันละ 10 แก้วหรือปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพราะน้ำจะเป็นตัวช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น

4.การเลือกรับประทานอาหาร ผู้ที่เลิกบุหรี่ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภท เผ็ด เค็ม มัน หวาน เพราะอาหารประเภทเหล่านี้ก็เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้สูบอยากสูบบุหรี่เช่นกัน ในช่วงที่เลิกบุหรี่ควรรับประทานผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว ที่เป็นตัวช่วยที่ดีในการลดอาการอยากสูบบุหรี่ ผลไม้ควรเป็นผลไม้สดเท่านั้น

5.การนำมะนาวมาเป็นตัวช่วย แนะนำให้หั่นมะนาวทั้งเปลือกเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่กล่องพกติดตัวไว้ เมื่อมีความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาก็หยิบมะนาวขึ้นมาอมและขณะเวลาอมควรอมช้าๆ และเคี้ยวเปลือกมะนาวแล้วกลืน การทำเช่นนี้จะช่วยได้เพราะรสขมของผิวมะนาวจะช่วยทำให้รู้สึกขมปากขมคอ จนไม่อยากสูบบุหรี่

6.การออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายทุกวัน วันละอย่างน้อย 30 นาที เพราะยิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ปอดก็จะยิ่งแข็งแรง นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยให้ร่างกายขับพิษออกมากับเหงื่อได้อีกด้วย

7.การย้ำเตือนตนเอง หากคิดที่จะสูบบุหรี่ขึ้นเมื่อไหร่ ก็ขอให้ย้ำกับตนเองอยู่เสมอว่า ที่เลิกนั้นเพื่ออะไร และให้ทำตามเป้าหมายการเลิกบุหรี่ของตนเองตามที่ตั้งใจไว้ให้ดีที่สุด

สุดท้ายผู้ให้คำปรึกษาด้านการเลิกบุหรี่ ย้ำว่า การเลิกบุหรี่ต้องอาศัยกำลังใจ ความเข้มแข็ง และตั้งใจจริง เพราะบุหรี่ติดง่าย เลิกยาก แต่ไม่มีใครทำไม่ได้เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจ การที่เรามีความคิดที่จะเลิกบุหรี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และถ้าคุณเป็นผู้หนึ่งที่คิดจะเลิกบุหรี่ ลองปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นนี้ดู แล้วคุณจะรู้ว่า 'จิตใจ' ที่เข้มแข็ง เมื่อรวมกับ 'วินัย' ที่ดีได้แล้ว

"การเลิกบุหรี่ก็ไม่ใช่ฝันที่ไปไม่ถึง และไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย"

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)