ผู้ว่าฯ ฮ่องกง ประกาศถอยแล้ว ยอมถอดกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนออกจากสารบบ สื่อมังกรชี้การตัดสินใจครั้งสำคัญจะช่วยให้การประท้วงจบลง

มีรายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น.ตามเวลาฮ่องกงของวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา แครี่ แลม ผู้ว่าการสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้ประกาศผ่านโทรทัศน์เพื่อยกเลิกข้อกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของพลเมืองฮ่องกงอย่างเป็นทางการ โดยหวังว่าเป็นหนึ่งอีกเหตุผลที่จะช่วยลดแรงกดดันจากการชุมนุมภายในประเทศที่ยืดเยื้อและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังเป็นการยอมตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ซึ่งการยกเลิกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็น 1 ใน 5 เหตุผลที่ถูกหยิบมาประท้วง

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ สื่อชื่อดังได้รายงานโดยอ้างถึงแหล่งข่าวว่า การถอดถอนกฎหมายข้ามแดนจะทำให้การชุมนุมของชาวฮ่องกงยกเลิกได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งผลการตัดสินใจครั้งนี้ของ แครี่ แลม มาจากการไตร่ตรองนานกว่า 2 สัปดาห์กับผู้บริหารระดับสูงของฮ่องกง และทีมกฎหมาย กระทั่งเมื่อถึงช่วงบ่ายวันที่ 4 กันยายนตามเวลาฮ่องกง แครี่ แลม ตัดสินใจถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป เพื่อยอมแลกกับการชุมนุมของชาวฮ่องกงที่ยืดเยื้อมาแล้วถึง 14 สัปดาห์

ผลการตัดสินใจของแครี่ แลม ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นฮั่งเส็งเพิ่มขึ้นถึง 654.69 จุด มาแตะที่ 26,482.54 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3.74% ขณะที่หุ้นรายย่อยต่างๆ ในฮ่องกงที่เคยได้รับผลกระทบจาการชุมนุมก็ปรับตัวรับข่าวดีเช่นกัน ทั้ง MTR ที่ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในฮ่องกงพุ่งรับข่าวทันที 6% ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเช่น คาสิโนมาเก๊า หรือแม้แต่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง ต่างพุ่งขึ้นเกิน 5%

พร้อมกันนี้ แครี่ แลม ยังเตรียมตั้งคณะกรรมการอิสระ เพื่อตรวจสอบกรณีตำรวจฮ่องกงใช้ความรุนแรงกับชาวฮ่องกงที่ออกมาร่วมชุมนุมประท้วงด้วย และยังเป็นการตอบรับข้อเสนอของผู้ชุมนุมในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกง เพื่อส่งตัวผู้กระทำความผิดไปรับโทษที่จีนแผ่นดินใหญ่ ทางการฮ่องกงต้องการเสนอกฎหมายดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้ฮ่องกงเป็นพื้นที่หลบหนีคดีจากผู้ทำผิดกฎหมาย แต่กฎหมายดังกล่าวถูกชาวฮ่องกงเองต่อต้าน เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจีนจะใช้กฎหมายนี้ขอตัวผู้ร้ายในฮ่องกงได้ง่ายมากขึ้น แม้รัฐบาลฮ่องกงจะอธิบายว่า การส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะพิจารณาเป็นกรณีก็ตาม และเรื่องนี้ถือเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการชุมนุมลุกลามและยืดเยื้ออย่างรวดเร็ว และรุนแรงมากขึ้น กระทั่งล่าสุด แครี่ แลม ยอมถอยด้วยการถอนกฎหมายนี้ออกไป