'สวนสัตว์มนุษย์'ความเลวทรามของคน ที่ทำต่อ "คน"

by ThaiQuote, 11 ธันวาคม 2562

ประโยคที่เคยบอกกันว่า "มนุษย์ คือสัตว์บนโลก ที่มีความน่ากลัว และอันตรายมากที่สุด" อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินความจริงมากนัก

โดย...กองบรรณาธิการ thaiquote

เพราะนับตั้งแต่ "เรา" อุบัติขึ้นมามีชีวิตสูดลมหายใจ แน่นอนว่า "มนุษย์" นี้เองก็สร้างความอันตรายให้กับโลก และพวกมนุษย์ด้วยกันเองมานักต่อนัก

 

 

ภาพถ่ายที่กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเราโหดร้ายมากเพียงใดต่อเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน เพราะมนุษย์ด้วยกันเองนี่แหละที่จัด "สวนสัตว์มนุษย์" ขึ้นมาเพื่อสนองความเพลิดเพลินใจในการชมกับรูปร่าง ความต่าง ขนบธรรมเนียมที่ผิดแผกจากพวกเขาเอง

สวนสัตว์มนุษย์เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลก ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 มาถึงต้นศตวรรษที่ 19 จากชายเยอรมันที่ชื่อว่า Carl Hagenbeck พ่อค้าสัตว์ป่า และผู้ประกอบการสวนสัตว์ในยุโรป ที่ตัดสินใจหันมาจัดแสดง "มนุษย์" แทนสัตว์เหล่านั้น

 

 

และ "ล้อมคอก" พวกเขา จ่ายค่าบัตรเข้าชม สร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองบนความเหยียดหยามทางชาติพันธุ์

ตั้งแต่ปารีส ของฝรั่งเศส ไปถึงฮัมบูร์ก เยอรมัน จรดไปที่บาร์เซโลนา สเปน มาถึงมิลาน อิตาลี และข้ามฝั่งมาลอนดอน อังกฤษ Carl Hagenbeck แบกเอา "มนุษย์" ไปจัดแสดงสร้างความพึงพอใจให้กับชาวผิวขาว ที่มองดูมนุษย์ผิวดำ ชนเผ่าต่างๆ หลากหลายวัฒนธรรม หรือแม้แต่ชาวเอเชียเองก็ตาม ด้วยการล้อมคอก และเรียกให้สวยหรูว่า "นิทรรศการชาติพันธุ์"

 

 

แรกเริ่ม Carl Hagenbeck จ้างวานบรรดานักสำรวจของเขาให้ไปเอาชาวเอสกิโม ชาวอียิปต์ และชาวนูเบีย เพื่อมาจัดแสดงในนิทรรศการเร่ของตัวเอง ก่อนพาพวกเขาเหล่านั้นไปทัวร์ยุโรปเพื่อให้ชนชาติของตัวเองได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนจากต่างทวีป

แต่ซ้ำร้ายเมื่อคนเริ่มชื่่นชอบ และกระแสเริ่มจุดติด Carl Hagenbeck ในปีค.ศ.1878-1889 ระหว่างนี้เขาสามารถจัดหา "มนุษย์" มาจัดแสดงให้ชาวยุโรปได้ดูมากถึง 400 ชาติพันธุ์ และเพื่อให้พวกเขาดูสิ่งประหลาด ทั้งๆ ที่สายตาของพวกเขาเหล่านั้นก็กำลังมองมนุษย์ด้วยกันเอง

 

 

ภายใต้งานที่เขาจัดในชื่อ "Parisian World's Fair" ดึงดูดคนผิวขาวด้วยการนำเสนอ Black Village หรือหมู่บ้านคนดำ แต่ที่น่าตกใจคือมีผู้เข้าชมมากถึง 28 ล้านคน

กรอบความเชื่อที่ Carl Hagenbeck ทิ้งทุ่นให้กับคนที่สนใจชม "มนุษย์" ของเขา คือการสร้างให้เห็นถึงความแตกต่าง และฝังรากความคิดลงไปว่า สิ่งที่พวกเขากำลังเห็น ซึ่งก็คือมนุษย์นี้เอง คือคนที่อยู่ในช่วงวิวัฒนาการจากมนุษย์ลิง และกำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ เหมือนกับพวกเขาที่กำลังยืนจ้องมองอยู่

 

 

จุดพีคเดินทางมาถึงช่วงปี 1904 Carl Hagenbeck จัดแสดงอีกครั้งที่ปารีส ก่อนขยายไปหลายเมืองในยุโรป ด้วยการนำเอามนุษย์มาล้อมคอกเหมือนกับสวนสัตว์ และต้องการโชว์ให้เห็นถึงความเพลิดเพลินใจด้วยการกล่าวอ้างถึง "วัฒนธรรม" ของพวกเขา บางคนต้องเปลือยกาย หรือเปลือยกายท่อนบน ทั้งที่อากาศหนาวเหน็บ หรือการจัดเอาชาวฟิลิปินส์มากิน "สุนัข" โชว์กับชาวยุโรปเพียงเพราะนั่นคือวัฒนธรรมของพวกเขา

 

 

และไม่น่าเชื่อว่าโชว์แบบนี้ มีคนดูมากถึง 34 ล้านคนในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือน

การเดินทางของสวนสัตว์มนุษย์ไม่น่าเชื่อว่ามีคนทำตามมาเรื่อยๆ กระทั่งมันเองไปสิ้นสุดเอาเมื่อสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ในคราที่ "โทรทัศน์" บูมขึ้นอย่างมาก และมีเรื่องที่น่าสนใจมากกว่าให้มามองดูมนุษย์ ความนิยมของสวนสัตว์มนุษย์จึงเสื่อมลงในที่สุด

 

 

แต่มันสร้างประวัติศาสตร์ที่คงอยู่เอาไว้ว่า ชาติพันธุ์ ความเป็นคน มันอาจเป็นเรื่อง "ตลก" หรือ "ความเพลิดเพลินใจ" ให้กับอีกคนในโลกของเรา




ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ชายวัย 102 ปี เผยเคล็ดลับ “ดื่มเบียร์ทุกวัน ช่วยให้อายุยืน”