สวยเสี่ยงๆ มันเลี่ยงไม่ค่อยได้ เส้นขนาน "วัยรุ่น" กับ "จัดฟันเถื่อนๆ"

by ThaiQuote, 20 กุมภาพันธ์ 2563

ย้อนไป 16 ปีก่อน หรือราวปี 2547 เกิดกระแสนิยมในการ "จัดฟันแฟชั่น" ขึ้นมาในสังคมไทย จากการที่นำลวดมาร้อยลูกปัดวางขายกลาดเกลื่อนตามตลาดนัดชุมชนต่างๆ เริ่มจากกรุงเทพมหานคร ก่อนขยายความนิยมไปสู่ต่างจังหวัด ไปตามชนบท

ลวดลายลูกปัดหลากสีให้เลือกสรร แถมด้วยบางชนิดเคลือบสีและสารปรอทให้เกิดสีสันที่สวยงามยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ "ราคา" ที่ถูกชนิดที่หาซื้อมาใส่เข้ากับ "ฟัน" ของตัวเองได้อย่างไม่ยากเย็นในราคาที่ควักกระเป๋าเพียงแค่ 50-200 บาท ต่างจากการเดินไปร้านหมอฟันเพื่อจัดฟันที่ต้องเสียเงินไปหลายหมื่นบาท

แต่มันสุดจะอันตรายกับการ "จัดฟันแฟชั่น" เพราะตั้งแต่มันระบาดด้วยแฟชั่นที่วัยรุ่นนิยม ทันตแพทยสภา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ประสานงานกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เอาลวดลูกปัดที่จัดฟันแฟชั่นไปตรวจสอบ และพบว่ามีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก เช่น สารตะกั่ว พลวง ซีลีเนียม โครเมียม และสารหนู อยู่ในลวดที่ใช้ร้อยลูกปัด และเมื่อพิจารณาการใส่ที่ไม่มีการยึดเกาะที่แข็งแรงเพียงพอ ลูกปัดอาจหลุดลงคอทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

รุมประชาสัมพันธ์อย่างหนักหน่วงให้เห็นถึงพิษภัยของอันตรายที่เกิดขึ้น และมีตัวอย่างจากคนที่ไปดัดฟันแฟชั่นมาตลอด ทำให้ปัญหานี้เริ่มจะเบาบางลง

เบาบาง แต่ใช่ว่ามันจะหายไป

เรื่องดัดฟันแฟชั่นอันตราย ยังคงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในสังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น เด็กๆ ที่อยากโดดเด่นมีฟันที่เก๋ไก๋สวยงาม แม้จะรู้ว่าอันตราย หรือบางคนก็ไม่รู้ ก็ยินยอมจะลองเสี่ยงดู

ยิ่งกับช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไป 16 ปีแห่งการระบาดของวงการ "จัดฟันแฟชั่น" ก็มีการพัฒนามากขึ้น แต่ก็มีความอันตรายมากยิ่งขึ้นเช่นกัน จากแผงค้าตลาดนัด สู่ร้านรับติดตั้งดัดฟันแฟชั่นผิดกฎหมาย ร้านเช่าเล็กๆ พนักงานในร้าน 1-2 คนก็ดำเนินธุรกิจงัดปากคนด้วยลวดลายได้อย่างสบายๆ แต่กลุ่มเป้าหมายก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นเด็กวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาเหมือนเดิม ด้วยค่าบริการที่แสนถูก

การขยับอีกครั้งของหน่วยงานสาธารณสุขในประเทศไทยจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องออกมากระตุกเตือนให้สังคมได้เห็นถึงความอันตราย ของการจัดฟันแฟชั่น เพราะการจัดฟันแฟชั่นตามร้านทั่วไปมันเป็นสิ่งที่อันตรายต่อร่างกาย ต่อสุขภาพของช่องปาก

ทันตแพทย์อำนาจ ลิขิตกุลธนพร ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สะท้อนถึงปัญหา นี้ว่า การจัดฟันแฟชั่นจากร้านหรือคลินิกเถื่อน ส่งผลร้ายต่อสุขภาพฟันและสุขภาพช่องปาก ทำให้เหงือกอักเสบเป็นแผล มีเลือดไหล เกิดแผลในช่องปาก เนื่องจากลวดและพลาสติกอาจกดเหงือกหรือทิ่มเหงือก สารอันตราย เช่น ปรอท สารหนู ตะกั่ว อาจดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน

นอกจากนี้ อาจเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากขั้นตอนในการทำสกปรก ไม่มีการล้างมือด้วยน้ำยากำจัดเชื้อ เครื่องมือที่ใช้ไม่มีการฆ่าเชื้อโรค ทำให้เกิดฟันผุหรือปวดฟันจากการใส่ลวดในช่องปาก ทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันลดลง เศษอาหารติดได้ง่าย และที่สำคัญอาจถึงแก่ชีวิตโดยไม่รู้ตัว

"ดัดฟันแฟชั่นเป็นการใส่ลวดเส้นเล็ก ถ้าไม่แน่นหรือหลวมขยับได้จะเกิดอันตรายอย่างมาก ยิ่งใส่นอนหรือขณะรับประทานอาหาร ลวดขนาดเล็กรวมถึงอุปกรณ์ชิ้นเล็กที่ติดไม่แน่นอาจหลุดเข้าคอได้" คำเตือนจากทันตแพทย์อำนาจ ที่พอจะทำให้วัยรุ่นไทยได้เห็นภาพถึงความอันตรายของมันในจินตนาการได้บ้าง ก่อนที่จะติดสินใจไปติดตั้งดัดฟันแฟชั่นในช่องปากตัวเอง

รับกันกับ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายถึงการ "จัดฟัน" แบบถูกต้องว่า การจัดฟันเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาเรื่องการสบฟันผิดปกติ ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น โดยต้องมีทันตแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน จะช่วยให้มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพ แต่ในการจัดฟันแฟชั่น ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้มีรูปแบบพัฒนาไปจากเดิมมาก

ดังนั้นแล้ว การจัดฟันจะต้องได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีการประเมินก่อนการรักษา เพราะการจัดฟันเป็นการรักษาที่ต่อเนื่องและใช้ระยะเวลานาน เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ต้องผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อ มีการบรรจุในซองอย่างดี รวมไปถึงขั้นตอนในการติดตั้งอุปกรณ์ในการจัดฟันต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ ทั้งนี้ หากเกิดปัญหาจากการจัดฟันจัดฟันแฟชั่นหรือร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องรีบพบทันตแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาและแก้ไขได้ทันเวลา

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ