ความเห็นแก่ตัว น่ากลัวกว่า โควิด-19

by ThaiQuote, 3 มีนาคม 2563

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดูจะไม่รุนแรง เมื่อเทียบกับสถานการณ์ของหน้ากากอนามัยที่กำลังขาดตลาด และราคาแพง นาทีวิกฤตินี้มีกลุ่มคนบางกลุ่มกำลังรีดเลือดจากน้ำตาคนไทย แต่ทำไมหน่วยงานรัฐจึงไม่เห็น

หากไม่นับการโยนปัญหาของเอ็งของข้าของหน่วยงานควบคุมหลักอย่าง กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์แล้ว ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด-19 ในท้องตลาด อาจเกิดขึ้นจาก “การกักตุนสินค้า” ของกลุ่มคนแค่เพียงบางกลุ่ม

วันนี้ไม่ง่ายเลยที่จะหาซื้อหน้ากากอนามัยจากร้านขายยาใกล้บ้าน เพราะความต้องการในตลาดถีบสูงขึ้น ข้อมูลล่าสุดจากกรมการค้าภายใน กำลังการผลิตของโรงงานที่มีวันละ 1.35 ล้านชิ้น แต่จำเป็นที่จะต้องแบ่งเกือบ 50 % หรือจำนวน 600,000 ให้กับรัฐบาล ตามมาตรการควบคุมสินค้า โดยแบ่งเป็นกระทรวงสาธารณสุข 350,000 ชิ้น

ซึ่งจำนวน 150,000 ชิ้นผู้ผลิตส่งตรงไปที่ลูกค้าเก่า ซึ่งเป็นโรงพยาบาล และองค์การเภสัช 200,000 ชิ้น นำไปจัดสรรให้ รพ.ในสังกัด และกระทรวงพาณิชย์โดย กรมการค้าภายใน จำนวน 250,000 ชิ้น เพื่อกระจายไปยังร้านขายยา ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า

 


โดยหน้ากากอนามัยอีกจำนวน 750,000 ชิ้น จึงอยู่ในมือของโรงงานผู้ผลิตที่จะกระจายออกสู่ตลาดโดยตรง หากกระบวนการผลิตจนไปถึงมือผู้บริโภคเป็นเช่นนั้นจริง มันก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของคนไทยที่มีอยู่ทั่วประเทศ และเปิดช่องให้กับกลุ่มคนบางกลุ่ม กักตุนสินค้าที่อาจออกมาจากโรงงาน หรืออาจนำเข้าจากต่างประเทศ มาขายให้กับคนไทย

 

จากวันปิดเมืองถึงวันนี้ สารพัดวิธี หยุด"โควิด-19" ของเมืองอู่ฮั่น


วันนี้เราจึงเห็นหน้ากากอนามัย มีขายอย่างโจ๋งครึ่มผ่านออนไลน์ ในเฟซบุ๊ก พร้อมกับการขโยกราคาไปหลายเท่าตัว ซึ่งมีราคาตั้งแต่กล่องละ 650-850 บาท ไปจนถึงขายราคาส่งเป็นชิ้น ที่ราคา 13.50 -14.80 บาท ถือเป็นราคาที่สูง เมื่อเทียบกับราคาที่มีในท้องตลาดก่อนหน้านี้

รวมไปถึงการมีสินค้าในสต็อกมากกว่าที่โรงงานผลิตออกสู่ท้องตลาดในแต่ละวันอีกด้วย น่าตกใจที่เราพบว่า บางรายมีการนำเสนอขายสินค้า ในจำนวนมากถึง 1 ล้านชิ้น

วันนี้ทำให้เราเห็นว่า คนไทยกลุ่มหนึ่งได้เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส บนความเดือดร้อนของคนไทยด้วยกันอีกครึ่งค่อนประเทศ แต่กับภาวการณ์เช่นนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคระบาดร้ายแรง เราจึงควรต้องทิ้งโอกาสที่ว่านั่นหรือไม่ แล้วหันมาใส่ใจความปลอดภัยของเพื่อนประเทศเพิ่มมากขึ้น

และเรายังได้เห็นว่ามีใครบางคนกำลังเอามือปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้มีการกักตุนสินค้า และเอาเปรียบคนไทยอยู่ร่ำไป

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ