นิวซีแลนด์นำร่อง “ปลูกข้าวในทะเล” ได้สำเร็จ เตรียมทำแปลงใหญ่ปีนี้

by ThaiQuote, 30 มีนาคม 2563

โดย...กองบรรณาธิการ ThaiQuote

บริษัท AgriSea จากนิวซีแลนด์ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีด้านการเกษตรกรรม ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ ในการทดลองปลูกข้าวในทะเล ได้เป็นผลสำเร็จ และมันจะวิวัฒนาการการปลูกข้าวแบบเดิมที่เคยใช้น้ำจืดไปหมดสิ้น เพราะสายพันธุ์เมล็ดข้าวที่ถูกบริษัทนี้พัฒนาขึ้นมา สามารถทนและเติบโตได้ดีในการใช้น้ำเค็มจากน้ำทะเล และต้นข้าวยังทนต่อสภาพแวดล้อมที่แปลกไป

การทดลองครั้งนี้ของยักษ์ใหญ่แห่งนิวซีแลนด์ด้านเกษตรกรรม เกิดขึ้นเพื่อหลีกหนีความจำกัดในการปลูกข้าวที่เป็นอาหารของคนเกือบทั้งโลก และข้าวยังส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในหลายพื้นที่จากการปลูก เนื่องจาก แต่ละปีในทวีปเอเชีย ที่เป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญป้อนให้กับคนทั้งโลก ต้องผลิตข้าวมากถึง 700 ล้านตัน ที่แจกจ่ายไปยัง 100 ประเทศ ในการเลี้ยงดูคนถึง 3.5 พันล้านคนในทุกๆ วัน

อย่างไรก็ตาม พื้นที่เพาะปลูกถูกลดลงไปกว่าครึ่ง ขณะที่พืชผลทางการเกษตรเกือบทั้งหมดจำเป็นจะต้องใช้ "น้ำจืด" แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าโลกนี้มีน้ำจืดเพียง 2.5% ของน้ำทั้งหมด และจำนวนนี้มนุษย์ใช้ไปเพียงแค่ 1% แต่อีกที่เหลือทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ทางการเกษตร

ความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้นยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และเมื่อรวมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการทำฟาร์มขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มันจึงเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตอาหารรูปแบบใหม่ด้วยศักยภาพที่แท้จริงที่ถูกเรียกว่า "เกษตรกรรมในมหาสมุทร"

นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ของการปลูกข้าวในทะเลเป็นความคิดของนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ พวกเขาออกแบบวิธีการปลูกพืชให้ทนต่อความเค็ม เพื่อให้พืชสามารถเจาะเข้าไปในสารอาหารตามธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในมหาสมุทร ผลที่ได้คือข้าวทนความเค็มที่ปลูกในฟาร์มมหาสมุทรที่ลอยได้โดยไม่ต้องใช้ดินปุ๋ยหรือน้ำจืดเลย

Rory Hornby หนึ่งในทีมทำงานเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและการตัดต่อยีนในห้องทดลอง ผู้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ปลูกข้าวในทะเล สะท้อนว่า ข้าวเป็นพืชที่ใช้น้ำมากที่สุด ดังนั้น การทดลองนี้จึงเป็นอีกความหวังของการเปลี่ยนแปลง ด้วยการเอาพืชผลที่นิยมบริโภคมากที่สุดในโลก มาทดสอบการอยู่รอดจากน้ำเค็มของทะเล

"พวกเราตัดต่อยีนของข้าว เพื่อให้เกิดความทนทานต่อเกลือของทะเล โดยต้นกล้าข้าวที่ทดลองขณะนี้อยู่ในห้องแล็ปของเรา และเราปลูกแบบฟาร์มเสมือนทะเลซึ่งผลของมันออกมาดีทีเดียว" Hornby กล่าว

ทั้งนี้ AgriSea วางแผนที่จะปรับใช้ฟาร์มนำร่องแห่งแรกภายในสิ้นปี 2563 และฟาร์มนำร่องขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลกภายในปี 2564 เมล็ดพันธุ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อการเพาะเลี้ยงในมหาสมุทร แต่พวกเขาสามารถปลูกลงในดินเค็มได้โดยตรง สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับสถานที่ต่าง ๆ เช่นญี่ปุ่น ซึ่งสึนามิท่วมดินชายฝั่งทะเลเค็มเกินไปที่จะปลูกพืช