โดย...กองบรรณาธิการ ThaiQuote

เหตุการณ์การแพร่ะระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เมืองท่องเที่ยวหลายๆ เมืองของเรา ต้องปิดตัวลง เว้นแม้กระทั่ง “เชียงคาน” อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของ จ.เลย

เราเองเคยเดินทางไปเชียงคาน ทั้งทำงาน และเที่ยว 4-5 ครั้งที่ได้ไปเยี่ยมเมืองแห่งนี้ เราพบว่าเชียงคานเปลี่ยนแปลงไปทุกครั้ง เหมือนเมืองชีวิตที่มีการเคลื่อนไหว แม้มันเปลี่ยนไปด้วยรูปแบบทางธุรกิจที่เติบโตขึ้น แต่คนท้องถิ่นยังคงใช้ชีวิตอยู่เช่นเดิม

เราพบข้อความสื่อสารบางอย่าง จากคนรู้จัก ผ่านเฟซบุ๊ก “พลพรหม ศรีพรหมบุตร” ข้อความถูกส่งผ่านความรู้สึกนึกคิดของคนๆหนึ่งไปยังอีกหลายคน ในวันที่เชียงคานต้องเผชิญกับวิกฤต เฉกเช่นเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ

“ #เมืองไม่เคยหลับแต่ตอนนี้ได้หลับไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2552 เชียงคานได้จัดงาน 100 ปีเมืองเชียงคาน นับจากนั้นมาถึงวันนี้ 11 ปี ได้มีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาสัมผัส มาเยี่ยมเยือนเปรียบเสมือนเป็นบ้านอีกหลังของผู้ที่ได้มา จนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของไทย ที่ใครๆก็อยากมา จนกลายเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ #แต่ตอนนี้เวลานี้เชียงคานได้หลับไปแล้ว โดยไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ ถึงตื่นขึ้นมาก็ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกหรือไม่ ???

#หวังว่าถ้าสถานการณ์เป็นปกติผู้คนจะกลับมาหาเรา

#ถนนคนเดินเชียงคาน ”

มันอาจฟังดูเศร้า เพราะมันถ่ายทอดจากลูกเชียงคานโดยกำเนิด ผู้อยู่ในทุกเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงไปของเชียงคาน ส่วนเรานั้นเป็นเพียงแขกผู้มาเยือน แต่พอที่จะนึกถึงความรู้สึกนั้นออก

“พลพรหม” ยังได้ให้สมญานามของเชียงคาน เมื่อครั้งยุคบุกเบิก ถนนคนเดินเมืองเชียงคาน ว่า “ เมืองงามในความเงียบ” ภาพนั้นมันย้อนมาหาเขาอีกครั้งในวันนี้

แม้เป็นเพียงคนนอก แต่เราก็เคยได้ยินชื่อเสียงของเชียงคาน ใครต่อใครต่างพูดถึงและขอให้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนสักครั้ง ความพีคของเชียงคานถึงขีดสุดจากภาพยนตร์ “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” เมื่อฉากหนังส่วนใหญ่ของเรื่องคือเมืองเชียงคาน

ครั้งแรกที่เรามาเยือน รับรู้ได้ว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองแห่งนี้เพราะชื่นชอบความเงียบของเมือง และวัฒนธรรมที่คนท้องถิ่นยังคงรักษาไว้ ทั้งจากการใช้ชีวิต อาหารการกิน และน้ำมิตรไมตรี

ก่อนปลายปีที่แล้ว เรามีโอกาสได้กลับไปเยือนอีกครั้ง เมืองยังคงเคลื่อนไหว แม้ธุรกิจจะซบเซาลง โฮมสเตย์บนถนนคนเดินยังคงเปิดตัวแข่งขันกัน แต่จะสลับสับเปลี่ยนหน้าเจ้าของไปบ้างแล้วก็ตาม แต่มันไม่เคยทำให้ความลุ่มหลงในรูปทรงอาคารบ้านเรือนสมัยเก่าริมน้ำโขงแห่งนี้ และวัฒนธรรมท้องถิ่น นั้นจางหาย เสน่ห์เหล่านี้ยังคงอยู่

เช่นกันเราอยากให้คิดว่าเมื่อพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไปแล้ว เชียงคานยังคงเป็นเมืองที่น่ารัก มีเสน่ห์อยู่เหมือนเดิม เราหวังว่า ผู้คนหลากหน้าหลายตาจะยังคงกลับไปเยือนเมืองแห่งนี้ ด้วยถูกจริตของเมืองเก่าริมน้ำ ตักบาตรข้าวเหนียวท่ามกลางอากาศหนาวยามเช้า หรือจะลองเปลี่ยนเป็นชมสายหมอกลอยเอื่อยล้อพระอาทิตย์ขึ้นบนภูทอก ชมความงามของพระอาทิตย์ตกลับริมโขง นี่คือสิ่งที่เชียงคานมี และยังคงรอให้ผู้คนเดินทางไปกล่าวทักทาย

ขอบคุณภาพ : พลพรหม ศรีพรหมบุตร

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

• หมู่เกาะอ่างทองพบ “ลูกค่างแว่นฝาแฝด” ขนสีเหลืองทองสุดน่ารัก ในอ้อมอกแม่
• "นาซ่า" เปิดโอกาสให้ชมภาพจากอวกาศ ที่จับภาพได้ในวันเกิดของเรา
• "ตลาดบางแค-ตลาดลาวคลองเตย" ยังอยู่ กทม.ชะลอรื้อถอน