ชี้ช่อง SMEs ปรับตัวอย่างไรในปีหน้า

by ThaiQuote, 20 พฤศจิกายน 2560

สำหรับการปรับตัวที่จะก้าวไปพร้อมกับเศรษฐกิจช่วงขาขึ้นในปีหน้านั้น ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ได้แสดงความคิดเห็นว่า จากแนวโน้มในปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากพอสมควรในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งด้านเรื่องประชากร เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงไป โดยมี 3 ส่วนด้วยกันที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวพร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลง อันดับแรกคือ Agility ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ โดยรู้ถึงสถานการณ์ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา อันดับ 2 productivity เรื่องของการเปลี่ยนแปลงของจำนวนแรงงานจะน้อยลง ทำให้โมเดลธุรกิจจะต้องแตกต่างจากเดิม ตัดความไม่จำเป็นต่างๆออกไป เน้นที่ความคุ้มค่าเพิ่มมากขึ้น อันดับ 3 Competitive ความสามารถในการแข่งขัน เมื่อโลกเชื่อมต่อถึงกัน SMEs ไทยจึงไม่เพียงแข่งขันภายในประเทศเท่านั้น จึงต้องพัฒนาเรื่องความสามารถทางการแข่งขันเพื่อที่จะสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ในส่วนของนโยบายจากรัฐบาลที่เข้ามาขับเคลื่อนและช่วยเหลือ SMEs ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายการช่วยเหลือทางด้านการเงิน ถือว่าเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ทั้งด้านการค้ำประกันเอสเอ็มอี จาก บสย. หรือกองทุนสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่กล่าวมาช่วยสร้างความมั่นใจให้ธนาคารพร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น “นอกจากปัญหาการเข้าถึงทางการเงิน ผู้ประกอบการยังคงมีปัญหาในประเด็นอื่นๆ เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่าง เช่น ความสามารถทางการแข่งขัน ความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยี โครงสร้างการทำบัญชี การเงิน ซึ่งถือว่าปัญหาของผู้ประกอบการยังคงมีอยู่ค่อนข้างมากทีเดียว” ดร.พิพัฒน์ กล่าว ขณะเดียวกันสิ่งที่ยังกังวลอยู่ คือปัญหาของผู้ประกอบการที่ผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งโดยรวมถือเป็นประเด็นที่จะต้องมีการจับตาดูต่อไป ซึ่งอาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละภาคส่วน เช่น ภาคการเกษตร ที่ราคาสินค้าเกษตรยังทรงตัวในระดับที่ต่ำ ภาคของ Supply Chain ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วเรื่องที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับการรู้ถึงปัญหาของตนเองเสียก่อน เพื่อที่จะได้แก้ไขในจุดที่เหมาะสม

Tag :