ปั้นครัวอาหารประเทศ 3 กองทุนหมู่บ้าน สร้างความร่วมมือ แลกเปลี่ยนสินค้าเกษตร สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ยังคงเดินหน้าสานต่อนโยบายของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง ผ่าน “โครงการความร่วมมือเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกของกองทุนหมู่บ้าน” โดยมีการ MOU ร่วมกันระหว่าง กองทุนหมู่บ้าน จ.นครนายก จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.สมุทรปราการ

“ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา กองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศมีความตื่นตัวมากขึ้น ในเรื่องการแลกเปลี่ยนและซื้อขายสินค้าระหว่างกัน นอกเหนือจากการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายแล้ว ยังทำให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน 13 ล้านคน เกิดการสร้างอารมณ์ร่วม สร้างสัมพันธ์ความรู้สึกระหว่างกันของพี่น้องกองทุนฯ สิ่งเหล่านี้เป็นพลังของกองทุนหมู่บ้าน และเราสามารถปลุกพลังนี้ เป็นพลังในการพัฒนาประเทศ” รักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง กล่าวถึง ความร่วมมือของสมาชิกกกองทุนในช่วงที่ผ่านมา

ภาพของกองทุนหมู่บ้าน จึงไม่ใช่แค่การรวมกลุ่มและทำอาชีพเสริมของสมาชิกแต่ละคนเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้ขยับเข้าไปสู่ความร่วมแรงร่วมใจระหว่างกองทุน ที่เรียกว่า “เพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง” จาก ข้าวแลกปลา ข้าวแลกผลไม้ กำลังขยายใหญ่ขึ้นไปสู่ระดับภาค ที่ปรากฏเป็น การ MOU ระหว่างกองทุนหมู่บ้านจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ จำนวน 1,885 กองทุน

สทบ. พร้อมที่จะเป็นตัวกลาง ประสานงานระหว่าง กองทุนหมู่บ้านทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้มีการเพิ่มรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ครั้งนี้มีการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตร คือ ข้าวสารจากนครนายก ไข่ไก่ มะพร้าวน้ำหอมจากฉะเชิงเทรา และปลาเค็ม, ปลาสลิดจากสมุทรปราการ เป็นมูลค่ากว่า 2.5 แสนบาท

จะเห็นได้ว่าสินค้าเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่าศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านนั้นสามารถที่จะเป็นครัวอาหารของประเทศได้ ช่วยทำให้เกิดการสร้างงานและสร้างรายได้ระหว่างสมาชิกกองทุนด้วยกันได้จริง และขั้นต่อไปคือการพัฒนาเรื่องช่องทางการตลาด ระบบการขนส่ง โดยมีกองทุนหมู่บ้านแต่ละจังหวัด เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายสินค้าให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน” รักษ์พงษ์ พูดถึงการพัฒนากองทุนหมู่บ้านต่อจากนี้

เมื่อกล่าวถึงเรื่องของระบบขนส่งสินค้า เราจึงได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับ พล.ท.สุรพล ตาปนานนท์ ประธานกรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือด้านความร่วมมือกับกองทุนหมู่บ้าน

“ที่ผ่านมา คนมักจะคิดว่า บขส.ให้บริการเฉาพะรับส่งผู้โดยสารเท่านั้น แต่เราให้บริการขนส่งสินค้าด้วย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งบริษัทขนส่งทั่วไปมักจะไม่รับ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่เน่าเสียง่าย เช่น พวกผักสด ผลไม้ เป็นต้น สินค้าเกษตรเหล่านี้ บขส.พร้อมที่จะขนส่งให้ โดยเส้นทางที่ บขส.เข้าถึงในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเกือบจะทั่วทุกอำเภอ และในทุกจังหวัดของประเทศ ดังนั้นเราจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเหลือคนในชุมชนในระดับฐานรากได้” ประธานบอร์ด บขส.กล่าว

ด้าน สมบูรณ์ ระมาตร์ ประธานคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นตัวแทนของกองทุนหมู่บ้าน 3 จังหวัดที่มีการร่วม MOU บอกกับเราว่า วันนี้สิ่งที่เรานำมาแลกเปลี่ยนกัน ทั้งข้าวสาร มะพร้าวน้ำหอม ไข่ไก่ ปลาเค็ม อาหารทะเลแห้ง ปลาสลิด ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าของสมาชิกกองทุน และบางส่วนเป็นสินค้าภายในท้องถิ่น ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนแล้ว เรายังช่วยให้เกษตรกร และชาวบ้านในพื้นที่ได้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สทบ.” จับมือ “กสอ.” ช่วยธุรกิจชุมชน ติวเข้มสมาชิกกองทุน ค้าขายผ่านออนไลน์

“หมอยง” วิเคราะห์โควิด-19 จะระบาดรอบ 2 หรือไม่?