โดย...กองบรรณาธิการ ThaiQuote

เรื่องวุ่นๆ ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประเด็นร้อนของพรรคเพื่อไทย ดูสับสนอลม่าน ในหมู่เซียนการเมืองได้จิบกาแฟตอนเช้าคุยกันแบบออกรสออกชาติ

เริ่มกันที่พลังประชารัฐ ที่มองกันว่า เสี่ยงพรรคแตกแน่ พร้อมกับเล็ดรอด ดีลสนั่นรุนแรงหลายริกเตอร์ ของการจับขั้วผสมโรง พลังประชารัฐ-เพื่อไทย ที่คอการเมืองเคยได้ยินได้ฟังผ่านหูตั้งแต่ยุคแย่งชิงตั้งรัฐบาล คราวเลือกตั้งพึ่งสะเด็ดน้ำ รอบนี้ความคิดดังกล่าวถูกปล่อยดังๆ อีกครั้ง หลังคาดว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ แคนดิเดต หัวหน้าพรรค พปชร.คนใหม่ ล้างไพ่เอานักการเมืองอาชีพขึ้นมามีอำนาจเหนือนักวิชาการ

ส่วนใครคนไหนจะเป็นซูเปอร์ดีล ก็เรียกได้ว่า แกนนำหลายคนของพลังประชารัฐ สามารถดีลตรงกับกลุ่มเพื่อไทยได้ทุกคน จึงไม่แปลกใจหากจะดีลดังกล่าวขึ้นมาเป็นสีสัน

ข้ามฟากมาที่ “เพื่อไทย” ที่ออกมาสยบข่าวลือโดนพลัน โดย “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ขอเข้าร่วมรัฐบาลที่มี “พลังประชารัฐ” เป็นแกนนำ ด้วยแนวคิดที่เดินคนละทาง

แต่ก็รู้กันอยู่ว่า เพื่อไทย ขณะนี้อาการร่อแร่ไม่ได้ดีไปกว่า “พลังประชารัฐ” ซักเท่าไหร่ ยิ่งกระแสเมิน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค โดยส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรค มันแรงขึ้นทุกวัน เลยทำให้มีข่าวว่า “เจ้หน่อย” จะหอบเอาส.ส.คนสนิทจำนวนหนึ่ง เข้าหลบใต้ปีก พปชร. พร้อมแลกกับตำแหน่ง รมว.สธ.ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

เรื่องราวมันจึงวุ่นวาย เพราะเมื่อคุณหญิงหน่อย อยากได้ เก้าอี้ สธ. ขณะที่เป็นโควตาของภูมิใจไทย งานนี้ มีหรือที่จะยอม ก็พลันให้เกิดเสียงเม้าท์กันเล็กๆในวงกาแฟว่า ไหนๆ พปชร.ก็จะแตก รัฐบาลอาการไม่ดี ยืนโงนเงน คล้ายคนเมาหมัดเพราะมรสุมรุมเร้า ทั้ง โควิด19 ทั้งพิษเศรษฐกิจ จับย้ายฝั่งย้ายฝา ผสมขั้วข้ามสายพันธุ์กันเลยดีมั้ย ทั้ง ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ เพื่อไทยและก้าวไกล เกิดเป็นรัฐบาลพันธุ์ผสมที่เสียงเกิน 200 แน่นอน

ชั่วโมงนี้อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ รัฐบาล “บิ๊กตู่” ที่ไม่ค่อยรอบจัด ช่ำชองทางการเมืองด้วยแล้ว ก็ต้องคิดให้หนัก เพราะนักการเมืองอาชีพเริ่มแผลงฤทธิ์ เหตุพ.ร.ก.กู้เงิน 1.1 ล้านล้านบาทผ่านทั้ง 2 สภาฯเรียบร้อย มีงบ 4 แสนล้านบาทล่อตาล่อใจให้สามารถใช่ในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก กระจายไปยังจังหวัดต่างๆ
การต่อสู้ของ “บิ๊กตู่” เอง จึงไม่ใช่แค่ กลุ่มส.ส.ที่ก่อหวอดอยู่ภายในพรรคเท่านั้น แต่ยังมีพรรคร่วมอย่างภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ที่คอยเป็นหอกข้างแคร่อีก ขณะที่ขั้วตรงข้ามฝ่ายค้านก็พร้อมถลุงซ้ำเติมในจังหวะพลาด

แต่ที่น่าจับมองในขณะนี้อยู่กลุ่มกุนซือของ เพื่อไทย ที่ขึ้นตรงต่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เริ่มขยับเกมใต้น้ำ ทั้ง ภูมิธรรม เวชยชัย พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี ตั้ง "กลุ่มแคร์" ขึ้น โดยมีจุดยืนชัดเจน เรื่องประชาธิปไตย แถม “เสี่ยอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง ก็ออกมารับลูกปลุกกระแส ตั้งพรรคใหม่ สำทับเข้าไปอีกคน

งานนี้ มันจึงมองให้ออกได้เป็นหลายหน้า พลังประชารัฐ- เพื่อไทย หรือ ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์+เพื่อไทย-ก้าวไกล หรือจะออกรูปใหม่จากดีลลับของ “กลุ่มแคร์” ไม่ว่าหน้าไหนๆ ก็หนีไม่พ้นนักการเมืองหน้าเดิม ที่สำคัญหนีไม่พ้น ตัวตั้งตัวชูโรงให้ย้อนมองไปที่ต้นเรื่อง ปลุกผี “ทักษิณ ชินวัตร” อีกเช่นเดิม
ส่วนหน้าอย่างเราประชาชนธรรมดา คนเดินดิน กินข้าวแกง ก็ได้แต่หวังว่า ให้เลิกคิดเลิกเล่นการเมือง อำนาจ ผลประโยชน์ของตนเอง แล้วหันมาดูดำดูดี พวกเราบ้างมันก็เท่านั้นเอง

ข่าวที่น่าสนใจ

ถก 6 ข้อกังวล ‘CPTPP’ เปิดเวที "ออนไลน์" 1 ครั้ง/เดือน รับฟังความเห็นคนทั้งประเทศ

“ทรัมป์” สวมบทผู้นำทหาร เตรียมเอากองทัพปราบอเมริกันชน