เปิดใจ “เอ๋ ปารีณา” คนที่เขาหาว่าเป็น “ตัวตลกปกป้องรัฐบาล”

by ThaiQuote, 6 มิถุนายน 2563

โดย....กองบรรณาธิการ ThaiQuote

 

อาจจะเรียกได้ว่า “ปารีณา ไกรคุปต์” หรือ เอ๋ ส.ส.ดังแห่งราชบุรี สังกัดพรรคพลังประชารัฐ นาทีนี้ เธอน่าจะเป็นบุคคลที่สังคมกำลังให้ความสนใจอย่างมาก

แสงสปอร์ตไลท์พุ่งมาหาเธออีกครั้ง หลังจาก 2-3 วันที่ผ่านมา เธอเปิดศึกวิวาทะนอกสภากับอดีตนางสาวไทย และยังเป็นพิธีกร นักแสดง และนักกฎหมายชื่อดัง “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ในประเด็นเรื่องโทษทัณฑ์ของคดีข่มขืน-คุกคาม

คนละหมัดที่โยนเข้าใส่กันระหว่างสองสาวรุ่นใหญ่ที่มีชื่อโดดเด่นต่างวงการกันในเมืองไทย คนหนึ่งฝั่งสังคม งานบันเทิง อีกคนก็งานการเมือง แต่ทว่าแต่ละถ้อยคำและการโต้แย้งกัน ดูเหมือนว่า “เอ๋ ปารีณา” เธอจะเสียรังวัดไปพอสมควร

 

 

หรือเพราะต้นทุนเดิมของเธอ มันเป็นแง่ลบอยู่แล้ว... เมื่อเกิดเหตุใดขึ้นมา สังคมจึงไม่พลาดที่จะทิ้งน้ำหนักว่าเธอเป็นผู้ร้าย

กระนั้น มองให้ลึกลงไปอีกในประเด็นนี้ เรามักจะได้ยินเสียงของ “เอ๋ ปารีณา” ออกมาบ่อยครั้งเหมือนกันในยามที่ต้องการแย่งความโดดเด่น การเป็นจุดสนใจ ท่ามกลางข่าวเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐบาล ประหนึ่งว่าเธอ กำลังทำหน้าที่ปกป้องรัฐบาลอย่างกรายๆ เพื่อให้สังคมหยุดสนใจความวุ่นวายทางการเมืองที่กระทบต่อรัฐบาล และพรรคสังกัดของเธอ แต่ให้สังคมทั้งหมด มาลงกับที่เธอแทน

ปมนี้มันจริงหรือไม่ วันนี้ เราจะได้ฟังคำตอบจาก “เอ๋ ปารีณา”

 

ศึก “บุ๋ม ปนัดดา” ปลายทางคือศาล อย่างเดียว

ThaiQuote ยกหูหาเธอท่ามกลางอารมณ์เดือดบนโลกออนไลน์ เพราะยามนั้นเสียงกร่นด่าจากประเด็นที่โต้เถียงกับบุ๋ม ปนัดดา ยังคงคุกกรุ่น เอ๋ ปารีณา เปิดฉากบทสนทนากับเราอย่างง่ายๆ บ้านๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอล่าสุด ว่า “ก็แค่ผู้หญิงทะเลาะกัน”

“กับคุณบุ๋ม ปนัดดา มันแค่เรื่องผู้หญิงทะเลาะกัน ทำไมจึงเกิดนักวิเคราะห์ขึ้นมามากมาย เหมือนรู้ดีกันเลยว่าเป็นเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ บ้างก็ว่าเอ๋ใช้สถานการณ์เพื่อกลบประเด็นการเมือง เรางงนะ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโยงกันไปได้ มันก็แค่เรื่องผู้หญิงทะเลาะกัน” ปารีณา เปิดฉากกับเรา เธอเสริมว่า ข่าวออนไลน์ในทุกวันนี้ก็เป็นเช่นนี้ สังคมมันเป็นแบบนี้ คนเขาชอบเสพข่าวแบบนี้กัน

ปารีณา ขยายความอีกว่า คนที่มีชื่อเสียงมาทะเลาะกันคนเสพข่าวก็ชอบ คนติดตามข่าวกันเยอะมากๆ นักข่าวก็ชอบทำข่าวแบบนี้เพราะมันขายได้ แต่หากสมมุติว่าปารีณาลงพื้นที่ ข่าวแบบนี้จะไม่มีเลย ไม่มีนักข่าวมาทำข่าวด้วยซ้ำ แต่เราก็พอเข้าใจว่าสังคมไทยให้ความสนใจกับเรื่องแบบนี้

“อย่างเรื่องที่ทะเลาะกับคุณบุ๋ม มันไม่เกี่ยวกับเรื่องรัฐบาลอะไรเลย เราแค่ไม่ต้องการให้สังคมเข้าใจผิดจากสิ่งที่เขาพูด ‘มั่ว’ ดังนั้นจึงแจงความจริงกลับไป เรื่องข่มขืนไปถามชาวบ้านได้เลย ถูกข่มขืน คุกคาม ข่มขู่ ก็ดำเนินคดีกันเลย มีกฎหมายอาญาเอาผิด ขณะนี้ก็มีการพิจารณาเพิ่มโทษ คุกคามทางเพศก็เพิ่มโทษ เราก็ชี้แจงไปแบบนี้ แต่ฝั่งนั้นเขาก็แถไปเรื่อยๆ

 

 

เรายืนยันได้ว่าไม่มีเรื่องการเมือง หน้าที่เอ๋ก็มีเยอะในฐานะส.ส. จะเอาตัวเองมาเปลืองตัวให้คนด่าทำไม แต่เรื่องคุณบุ๋มเรารับไม่ได้ มองว่ามันไม่ถูกต้องก็เลยออกมาเสนอความจริง แต่เรากลับโดนด่า ถูกเพื่อนดาราเขามาด่าด้วย และเลยเถิดมาแดกดันความเป็นส.ส. แบบนี้ก็ไม่เป็นธรรมกับเราเหมือนกัน อีกอย่างมาบอกว่าเป็นแรงบรรดาลใจที่เขาจะลงสมัครส.ส. คุยว่ามีหลายพรรคติดต่อมา แต่ก็ไม่มี” เอ๋ ปารีณา ร่ายยาวถึงเรื่องที่เกิดกับบุ๋ม ปนัดดา

อย่างไรก็ตาม ปารีณา บอกอีกว่า ทางจบสำหรับเรื่องบุ๋ม ปนัดดา คือต้องปลายทางกันที่ศาลเท่านั้น เพื่อต้องการให้ทุกคนได้เห็นว่าใครกันที่จะทำจริงอย่างที่พูดไว้หรือไม่ หากจะฟ้องเราเพื่อเอาเงินไปเลี้ยงหมาทั้งประเทศ ก็ต้องทำ และฝั่งเราก็จะทำตามที่พูดไว้เหมือนกัน เพราะคนที่ชื่อเอ๋ ปารีณา ทำทุกอย่างตามที่พูดไว้เสมอ ถ้าฟ้องใครก็จะฟ้องคนนั้น ถ้าโพสต์อะไรก็จะทำตามในทันที

 

เสียงด่าโลกออนไลน์ ไม่เคยทำให้ท้อ

เอ๋ ปารีณา นับเป็นอีกคนที่ถูกก่นด่าจากทั้งคอการเมือง สังคมทั่วไปที่ติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวสารออนไลน์ต่างๆ แต่ผลพวงทั้งหมดนั้น เธอไม่ได้สนใจ แม้ว่าใครจะต่อว่าและดูถูกเธออยู่มากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งบ่งบอกสไตล์ว่าสิ่งไหนยอมได้ยอม แต่สิ่งไหนยอมไม่ได้ ก็ต้องเจอกันที่ศาลด้วยข้อกฎหมายอย่างเดียว

ปารีณา บอกเล่าว่า คนราชบุรีรักเธออย่างมาก และรักรัฐบาล รวมถึงรักพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอีกด้วย ดังนั้น เธอเองจึงเลือกสิ่งที่โฟกัสและทำให้ตัวเองสบายใจ เพราะเธอเชื่อว่ามีเพียงแค่สังคมออนไลน์ โลกออนไลน์เท่านั้น ที่รังเกียจและมองเธอในแง่ลบ

“มันแค่โลกเสมือน ไม่ใช่โลกจริง เอ๋หมายถึงโลกออนไลน์ค่ะ ในนั้นก็มีคนด่าว่าเราเลว บางคนว่าเราหัวโบราณ มันก็หลากหลายความคิดเห็นของหลากหลายคนนั้นแหล่ะ แต่ไม่อยากให้ไปเชื่อกันว่าในโลกโซเชี่ยลมันคือเรื่องจริง เพราะในโลกความเป็นจริงมันมีอีกมุมสำหรับคนนั้นๆ อยู่เหมือนกัน” ปารีณา ฉายภาพแนวคิดเกี่ยวกับกระแสแง่ลบของเธอ

 

 

ปารีณา ย้อนความว่า เหตุการณ์ที่ทำให้เธอโดดเด่นในโลกออนไลน์ เพราะแชร์ภาพที่กำลังจะประท้วง ช่อ พรรณิการ์ วานิช โดยขอยกมือขึ้นประท้วงแค่นั้น แต่ก็ไม่โดนใจแฟนคลับของอีกฝ่าย คอมเมนต์ข้อความนับแสนใน “แง่ลบ” จึงเริ่มต้นกระหน่ำเธอเป็นครั้งแรกในทันที

“ตอนนั้นแค่ยกมือนะ ยังไม่ได้ประท้วงหรือพูดอะไรเลย เท่านั้นแหล่ะค่ะ คอมเมนต์มาเป็นแสนคน จากนั้นมันก็มากันเรื่อยๆ ถึงวันนี้เลย” เธอเล่าด้วยเสียงที่ดูเหมือนจะไม่ซีเรียสเท่าใดนัก และเจือด้วยเสียงหัวเราะ พร้อมกับบอกอีกว่า ไม่ได้แคร์เลยด้วย

เธอมองว่าโลกออนไลน์ ก็คือโลกออนไลน์ คนในโลกแห่งนี้สร้างตัวตน สร้างความนิยมชมชอบกันขึ้นมาเอง ยกตัวอย่างว่าธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ คือพระเอกในโลกออนไลน์ แต่ในโลกความเป็นจริงนั้น

“พล.อ.ประยุทธ์คือพระเอกค่ะ โลกความจริงพล.อ.ประยุทธ์คือพระเอกของประชาชน แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ไปอยู่ในโลกออนไลน์ เขาก็คือผู้ร้ายทันที แต่ความเป็นจริงนายกฯไปที่ไหน ชาวบ้านก็จะมาขอกอด มารอกรี๊ด มาให้กำลังใจ นี่คือความจริง” ปารีณา กล่าวทิ้งท้าย

 

 

In facts ชีวิตการเมืองของเอ๋ ปารีณา

- ลงสมัครส.ส.ครั้งแรกในปี 2548 สังกัดไทยรักไทย และได้เป็นส.ส.ในทันทีขณะที่อายุยังไม่ถึง 30 ปี ซึ่งเป็นยุคที่ทักษิณ ชินวัตร ได้รับความนิยมอย่างสูง ถึงขนาดมีวลีว่า “ส่งเสาไฟฟ้าลง ก็ชนะ” แต่เป็นส.ส.ได้เพียงแค่กว่าขวบปี รัฐบาลทักษิณถูกรัฐประหาร

- ลงสมัครส.ส.อีกครั้งในปี 2550 สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคชาติไทยเดิม ก่อนได้รับเลืกตั้งอีกครั้ง

- ลงสมัครส.ส.อีกครั้งในปี 2562 ปารีณาอกหักจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ส่งเธอลงสมัครส.ส. แต่แล้วก็ได้พรรคพลังประชารัฐที่เข้ามาสนับสนุนและสมหวังเป็นส.ส.อีกสมัย

 

ข่าวที่น่าสนใจ