วัคซีนโควิด-19 อัปเดต! จีนเผยชนิด “ลูกผสม” พร้อมทดลองคลินิกระยะ 3 “อิสราเอล” เริ่มทดลองในมนุษย์ ด้าน “เวียดนาม” ไม่น้อยหน้า เดินหน้าทดสอบในลิงแสม

นับถึงวันนี้ (3 พ.ย.63) โควิด-19 อยู่ร่วมกับมนุษย์มาเกือบจะครบ 1 ปี หลังจากเริ่มระบาดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1.2 ล้านราย ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุด รวมทั้งมีหลายประเทศในยุโรป อเมริกาใต้ และเอเชีย ที่ควบคุมสถานการณ์การระบาดไม่ได้

จากการระบาดที่ควบคุมไม่ได้ ความหวังทั้งหมดจึงมาอยู่ที่การยกระดับการรักษา ทั่วโลกเร่งพัฒนา “วัคซีนโควิด-19” ที่มีการลัดขั้นตอนวิจัยโดยหวังว่าจะพร้อมสำหรับการรักษาโดยเร็วที่สุด ซึ่งนอกจากทางออกซฟอร์ด รัสเซีย และจีน ที่มีโอกาสสำเร็จภายในสิ้นปีนี้ ล่าสุดก็มีความคืบหน้าในการพัฒนาอีกหลายแห่ง

ฝีมือจีนอีกตัว “วัคซีนโควิด-19 ลูกผสม” พร้อมทดลองทางคลินิกระยะ 3

เริ่มจากประเทศจีน ที่ได้เปิดเผยว่ามี “วัคซีนโควิด-19” อีกตัวที่พัฒนาโดยสถาบันจุลชีววิทยา สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) พบว่าวัคซีนมีความปลอดภัยในการทดลองขั้นต้น ซึ่งบ่งชี้ความเป็นไปได้ของการทดลองทางคลินิกระยะต่อไป

สถาบันฯ แถลงว่าผลทดลองระยะที่ 1 และระยะที่ 2 พบว่าวัคซีนหน่วยย่อยแบบลูกผสม (recombinant subunit vaccine) ตัวนี้ มีความปลอดภัยและความสร้างภูมิคุ้มกันในผู้เข้าร่วมทดลองที่มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจนถึงขณะนี้

วัคซีนดังกล่าว ซึ่งถูกพัฒนาร่วมกันโดยสถาบันฯ และบริษัท ยาชีววัตถุฉงชิ่ง จื้อเฟย จำกัด (Chongqing Zhifei Biological Products) ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการวิจัยทางคลินิกจากสำนักงานบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติ (NMPA) เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา

คณะนักวิจัยเริ่มการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. เพื่อตรวจสอบว่าวัคซีนปลอดภัยสำหรับการใช้งานในมนุษย์หรือไม่ โดยอาสาสมัครอายุระหว่าง 18-59 ปี จากปักกิ่ง ฉงชิ่ง และหูหนาน ได้รับวัคซีนจากโรงพยาบาลในฉงชิ่งและปักกิ่ง ขณะการทดลองระยะที่ 2 เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ค. เพื่อประเมินความสามารถสร้างภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยของวัคซีนเพิ่มเติม โดยใช้วิธีการทดลองแบบสุ่ม แบบปกปิดข้อมูลทั้งสองทาง (Double-blind) และแบบควบคุมด้วยยาหลอก

ขณะเดียวกันวัคซีนตัวนี้ได้รับอนุมัติการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว และกลุ่มผู้พัฒนากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการทดลองระยะที่ 3 ขนานใหญ่ เพื่อตัดสินประสิทธิภาพของวัคซีน โดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนแถลงเมื่อเดือนตุลาคมว่าวัคซีนโรคโควิด-19 ของจีน จำนวน 4 รายการ ได้เข้าสู่การทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 แล้ว

อิสราเอลเริ่มทดลองในมนุษย์

ขณะที่ประเทศอิสราเอล ก็มีความคืบหน้าในเรื่องนี้เช่นกัน โดยศูนย์การแพทย์ฮาดัสซาห์และศูนย์การแพทย์ชีบาของอิสราเอล เปิดเผยว่า การเริ่มทดลองวัคซีนโควิด-19 ในมนุษย์ โดยนักศึกษาสาขาธุรกิจ อายุ 26 ปี ถูกฉีดวัคซีนตัวใหม่ที่ชื่อ “บรีไลฟ์” (BriLife) ซึ่งพัฒนาโดยสถาบันวิจัยทางชีววิทยาอิสราเอล (IIBR) ณ โรงพยาบาลชีบาทางตอนกลางของประเทศ และอาสาสมัครอีกคน อายุ 34 ปี ที่ได้รับวัคซีนตัวเดียวกัน ณ โรงพยาบาลฮาดัสซาห์ในนครเยรูซาเล็ม

นอกจากนี้ยังมีอาสาสมัครอีกราว 80 คน ได้รับวัคซีนตัวนี้ที่โรงพยาบาลสองแห่งข้างต้นภายในเดือนพฤศจิกายน โดยครึ่งหนึ่งจะได้รับวัคซีนจริงและอีกครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีนหลอก หลังจากนั้น 3 อาทิตย์ คณะนักวิจัยจะทำการทดสอบว่าร่างกายของอาสาสมัครที่รับวัคซีนได้สร้างแอนติบอดีขึ้นมาหรือไม่

การทดลองระยะที่ 2 ซึ่งถูกกำหนดไว้ในเดือนธันวาคม จะรวมการทดสอบความปลอดภัยในอาสาสมัคร 960 คน ส่วนการทดลองระยะที่ 3 และระยะสุดท้าย ซึ่งใช้เวลาราว 6 เดือน จะทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนในอาสาสมัครกว่า 30,000 คน

โดย “เบนจามิน เนทันยาฮู” นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวระหว่างเยือนโรงพยาบาลชีบาเมื่อวันอาทิตย์ (1 พ.ย.63) ระบุว่าการพัฒนาวัคซีนคือทางออกจากวิกฤติที่แท้จริง วันนี้จึงเป็นวันสำคัญมากที่ช่วยให้มีความหวัง

“เวียดนาม” ไม่น้อยหน้า เดินหน้าทดสอบ “วัคซีนโควิด-19” ในลิงแสม

สำหรับภูมิภาคอาเซียน นอกจากประเทศไทยแล้ว “เวียดนาม” ก็เดินหน้าวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 เช่นกัน ล่าสุด บริษัทวัคซีนและยาชีววัตถุ (Vabiotech) สังกัดกระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม รายงานว่าเวียดนามได้เริ่มดำเนินการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในลิงแล้ว

โดยได้เริ่มการทดสอบวัคซีนในลิงแสม 12 ตัว ซึ่งเป็นลิงชนิดหนึ่งในตระกูลลิงวอก (Macaca mulatta) เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยผลการทดลองครั้งนี้จะเป็นรากฐานสำหรับการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ในขั้นต่อไป

โด๋ ตวน ดัด ผู้อำนวยการบริษัทฯ เผยว่าการทดสอบวัคซีนจัดขึ้นบนเกาะแห่งหนึ่งนอกจังหวัดกว๋างนิญทางตอนเหนือของประเทศ โดยลิงที่เข้าร่วมทดลองมีอายุระหว่าง 3-5 ปี ซึ่งแต่ละตัวมีน้ำหนักมากกว่า 3 กิโลกรัม และถูกจัดแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว ลิงเหล่านี้จะถูกเฝ้าติดตามเป็นเวลา 3 เดือนก่อนจะนำตัวอย่างเลือดไปตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติม

การทดสอบครั้งนี้เป็นไปตามแบบจำลองที่คล้ายกันซึ่งอาจถูกนำไปใช้กับการทดสอบในมนุษย์ในภายหลัง โดยลิงแสมได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ห่างกัน 18-21 วัน และหลังการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลา 1 เดือน คณะวิจัยจะประเมินการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของลิงเหล่านี้ เพื่อดูความแตกต่างระหว่างกลุ่มที่ได้รับและไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน บริษัทฯ ได้ดำเนินการทดสอบวัคซีนในหนู โดยได้รวบรวมข้อมูลจากการทดสอบในหนูเรียบร้อยแล้ว

ข้อมูลจาก : สำนักข่าวซินหัว

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

วัคซีนโควิด-19 จีน! ไร้ผลข้างเคียงรุนแรง คาด สิ้นปีผลิตได้ 610 ล้านโดส

“ออกซฟอร์ด” ลงนาม ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19