สรุปคดี เงินใต้โต๊ะ 20 ล้าน โยง “สกุลธร” น้องชาย “ธนาธร”

by ThaiQuote, 3 ธันวาคม 2563

วันที่ 27 พ.ย.63 ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาคดีหมายเลขดําที่ อท 76 /2562 และ คดีหมายเลขแดงที่ อท 228/2562 โดยมีรายละเอียด คือ สำนักงานพนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 4 เป็นโจทย์ยื่นฟ้องอาญา นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และ นายสุรกิจ ตั้งวิทวนิช เรื่อง ความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

คดีดังกล่าว เริ่มต้นขึ้น ในระหว่างเดือน มี.ค.- 16 พ.ย. 60 จำเลยที่ 1 นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ และจำเลยที่ 2 นายสุรกิจ ตั้งวิทวนิช ร่วมกันนําข้อมูลของสํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) ไปแจ้งต่อนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์จํากัด ว่า ที่ดินของสํานักงานทรัพย์สินฯ บริเวณที่ตั้งขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) กําลังจะหมดสัญญาเช่าและจะเปิดให้ผู้สนใจมาลงทุนพัฒนาที่ดินดังกล่าวโดยจะมีการทําสัญญาเช่าระยะยาว

เมื่อนายสกุลธร หลงเชื่อว่ามีที่ดินแปลงดังกล่าวให้เช่าจริงจึงให้จำเลยที่ 2 นายสุรกิจ ดําเนินการติดต่อประสานงานและอํานวยความสะดวกเพื่อให้ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์จํากัด ได้สิทธิการเช่าที่ดินแปลงดังกล่าว โดยมีค่าตอบแทน จํานวน 5 ร้อยล้านบาท

จําเลยที่ 1 นายประสิทธิ์ ได้แนะนําให้นายสกุลธร ยื่นหนังสือแสดงความจํานง ขอเช่าที่ดินต่อสํานักงานทรัพย์สินฯ ตามช่องทางปกติ แล้วจําเลยทั้งสองร่วมกันเรียกรับเงินงวดแรกจํานวน 5,000,000 บาท

จากนั้น จําเลยทั้ง 2 ได้ร่วมกันปลอมเอกสารราชการของสํานักงานทรัพย์สินฯ 2 ฉบับ คือ 1. หนังสือเรื่อง การพัฒนาที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ที่ ฝบอ.2000/0024 ลงวันที่ 18 ก.ย.60 ระบุว่า “บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์จํากัด ได้ผ่านการพิจารณา คุณสมบัติของผู้ลงทุนในเบื้องต้นแล้ว สํานักงานทรัพย์สินฯ จึงใคร่ขอให้ท่านยื่นแผนการพัฒนาพื้นที่ และการลงทุนของท่านภายใน 90 วัน” ต่อมา นายสุรกิจ ตั้งวิทวนิช ได้นําหนังสือดังกล่าวไปแสดงต่อ นายสกุลธร เพื่อให้หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารจริง ของสํานักงานทรัพย์สินฯ ที่แจ้งว่า บริษัทของนายสกุลธร ได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ของผู้ลงทุนในเบื้องต้นแล้ว

2.หนังสือเรื่อง การพัฒนาที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ที่ ฝบอ.2000/002 ลงวันที่ 16 พ.ย.60 ระบุว่า สํานักงานทรัพย์สินฯ ขอเรียนเชิญเจ้าหน้าที่ของบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์จํากัด เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับแผนการพัฒนาที่ดิน บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560

เมื่อนายสกุลธร ได้รับหนังสือทั้ง 2 ฉบับแล้ว จึงได้จ่ายเงินงวดที่ 2 จำนวน 5,000,000 บาท และงวดที่ 3 อีกจํานวน 10,000,000 บาท รวม 3 งวด เป็นจํานวนเงินทั้งหมด 20,000,000 บาท ให้แก่จําเลยทั้ง 2 เพื่อเป็นการตอบแทนในการดําเนินการติดต่อประสานงานและนําเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้กับรองผู้อํานวยการสํานักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพื่อจูงใจให้จัดสรรที่ดินดังกล่าวให้บริษัทตนเองได้เช่าในระยะยาว โดยไม่ต้องผ่านวิธีการประมูลตามปกติ

ทั้งนี้คดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ สำนักงานทรัพย์สิน ตรวจสอบพบความผิดปกติมีการใช้เอกสารของสำนักงานฯปลอม และแจ้งความดำเนินคดีต่อจําเลยทั้ง 2

ท้ายที่สุดจำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ ศาลได้พิพากษาว่า จําเลยทั้ง 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 143, 264, 265, 268 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/4

และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 41 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม รวม 2 กระทง ลงโทษจําเลยทั้ง 2 ฐานร่วมกัน ใช้เอกสารราชการปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 จําคุกกระทงละ 2 ปี ฐานร่วมกันเป็นตัวกลางในการเรียกรับสินบน ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 จําคุกคนละ 2 ปี รวมจําคุกคนละ 5 ปี จําเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง เหลือจําคุกคนละ 3 ปี

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ศาล รธน.อ่านคำวินิจฉัย คดี นายกฯใช้บ้านพักหลวง ไม่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ