กรมราชทัณฑ์ชี้แจงรายละเอียด กรณีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเพิ่มเติม นักโทษประหารที่ได้รับอภัยโทษแล้ว สามารถได้รับอีก ยกเว้นนักโทษเด็ดขาดในคดีข่มขืน นำเข้าขายยาเสพติด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.63 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยลงนามรับสนองพระบรมราชโองการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ท้ายประกาศ หมายเหตุถึงการออกฉบับที่ 2 โดยระบุว่า เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๓ กำหนดให้นักโทษเด็ดขาดซึ่งมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษประหารชีวิตที่เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้วไม่อยู่ในข่าย ได้รับพระราชทานอภัยโทษอีก

สมควรให้โอกาสนักโทษเด็ดขาดกลุ่มดังกล่าวได้รับพระราชทานอภัยโทษ เพื่อให้โอกาสกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

สำหรับรายละเอียดนั้น นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงว่า พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษฯ ที่ประกาศเพิ่มเติมนั้น. เป็นการยกเลิกใน มาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกา ที่ประกาศไปก่อนหน้า ซึ่งนักโทษเด็ดขาด ที่ต้องโทษประหารชีวิตและเคยได้รับพระราชอภัยโทษแล้ว จะไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกา ในมาตรา 13 (1)

ทั้งนี้พระราชพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษฯ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมนั้น จะยกเลิกใน มาตรา 13 (1) ทำให้นักโทษเด็ดขาด ที่ต้องโทษประหารชีวิต และเคยได้รับพระราชทานอภัยโทษ มาแล้วก็จะได้รับสิทธิการลดวันต้องโทษตามสัดส่วน เช่นเดียวกันนักโทษเด็ดขาดทั่วไป

อย่างไรก็ตาม นักโทษเด็ดขาด ในส่วนของคดีที่เป็นความผิดเกี่ยวกับเพศ ข่มขืนคดีนำเข้าขายยาเสพติด ก็ยังคงไม่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษตามเดิม

ข่าวที่น่าสนใจ

หนุนแต่งชุดนักเรียน ชี้เป็นระเบียบ มองข้อเสนอ “นักเรียนเลว” เป็นสิทธิส่วนบุคคล