ดราม่าหวยไทย! เมื่อ “กองสลากฯ” แก้ “ยี่ปั๊ว” โก่งราคาไม่ได้

by ThaiQuote, 8 กุมภาพันธ์ 2564

เมื่อผู้ค้าเลี่ยงบาลี! ขายหวยราคาเดิม เพิ่มเติมค่าบริการ ผลพวง “กองสลากฯ” แก้ “ยี่ปั๊ว” โก่งราคาไม่ได้ อีกด้านของปัญหา “ผู้ค้าปลีก” มีมากเกินโควตา เอื้อขายส่ง ทำราคาพุ่งหนัก ถึงผู้บริโภคไม่ต่ำกว่า 100 บาท!

ปัญหาสลากกินแบ่งฯ ขายเกินราคา ถือเป็นเรื่องเรื้อรังที่รัฐบาลและกองสลากฯ เพียรพยายามแก้ไขอยู่ตลอด และกับมาตรการล่าสุดที่สร้างความฮือฮาทั้งต่อผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงประชาชนทั่วไป ด้วยการไฟเขียวให้ “พลเมืองดี” แจ้งจับ ผู้ที่จำหน่ายหวยเกินราคา

โดยผู้นำแจ้งจับจะได้รับเงินรางวัลคดีละ 1,000 บาท ส่วนเจ้าหน้าที่จับกุมได้รับเงินรางวัลคดีละเท่ากับจำนวนเงินที่เปรียบเทียบปรับ แต่ไม่เกิน 2,000 บาท/คดี ซึ่งจะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งฯ พ.ศ.2517 เพิ่มโทษการขายเกินราคา เป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาท จากเดิมปรับไม่เกิน 2,000 บาท

 

เลี่ยงบาลี! ขายหวยราคาเดิม เพิ่มเติมค่าบริการ

จากมาตรการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทันทีในตลาดซื้อขาย ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ลอตเตอรี่ใบละ 80 บาท แต่มี “ค่าบริการ” อีก 20 บาท ซึ่งโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความของแผงสลากกินแบ่งรัฐบาลแห่งหนึ่ง ที่เขียนใส่กระดาษไว้ว่า

 

"อ่านก่อนซื้อ สลากใบละ 80 บาท ค่าบริการ 20/ต่อใบ = 100"

 

 

จากภาพดังกล่าว ร้อนไปถึง พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งได้ออกมาชี้แจงกรณีนี้ทันทีว่าไม่ถูกต้องและทำไม่ได้ เป็นการผิดเงื่อนไข ไม่มีบริการอะไรที่เพิ่มขึ้น เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งในการขายเกินราคาด้วยกลอุบายเท่านั้น ถือเป็นการขายเกินราคา ผู้ซื้อแจ้งความเอาผิดได้ สรุปก็คือ ผู้ค้าพยายามลบเลี่ยงการเอาผิดที่ต้องขายลอตเตอรี่เกินราคาเนื่องจากมาตรการการแก้ไขล่าสุดที่ออกมา



กองสลากฯ แก้ปัญหายี่ปั๊วโก่งราคาไม่ได้

สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนได้ว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลด้วยวิธีนี้อาจไม่ดีพอ เช่นเดียวกับเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่ได้เปิดขึ้นทะเบียนโควตาผู้รับสลากฯ เพิ่มอีก 1 แสนราย และพิมพ์สลากเพิ่มเป็น 100 ล้านฉบับ แต่ก็ยังไม่เป็นผล ราคายังอยู่ที่ 90-100 บาทต่อใบ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าสาเหตุที่ผู้ค้าขายสลากฯ เกินราคานั้นมาจากที่ตัวแทน หรือยี่ปั๊วที่บวกราคาก่อนส่งต่อให้ขายปลีก ซึ่งพบว่าบางเจ้ารับมาเริ่มต้นก็ 85-90 บาทเข้าไปแล้ว ดังนั้นเป็นไปได้ยากอย่างยิ่งที่ราคาสลากจะอยู่ที่ 80 บาทตามจริง

ขณะที่กองสลากฯ ได้หาวิธีแก้ไขเพิ่มเติมด้วยการกำหนดสัดส่วนจัดสรรเงินส่วนลด ให้ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยมีรายได้จากการจำหน่ายสลากมากขึ้น เป็นร้อยละ 12 (จากเดิมส่วนลดร้อยละ 7) เพื่อเป็นแรงจูงใจให้มีการขายสลากฯ ในราคา 80 บาท พร้อมเล็งใช้มาตรการแก้ไขในระยะยาว ด้วยการออก “สลากฯ แบบดิจิทัล” ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างวางแผนกำหนดกรอบการดำเนินโครงการ

 

ผู้ค้าปลีกเกินจำนวนโควตา

อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น สาเหตุหลักเกิดดูเหมือนว่าจะมาจากคนกลางที่กินส่วนต่างจนสลากฯ มีราคาแพง แต่มีอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญเช่นกันคือจำนวนผู้ค้าปลีกที่ต้องการขายมีจำนวนมาก เกินกว่าโควตาการลงทะเบียนไปไกล ทำให้เกิดกรณีขายต่อ “หวยเสรี” ที่ผู้ได้โควตาจองซื้อสลากจากโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า นำสลากฯ ที่ได้ไปขายส่งให้ผู้ค้าปลีก ซึ่งลักษณะนี้นอกจากจะทำให้ราคาลอตเตอรี่ราคาเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการละเมิดเกณฑ์ของสำนักงานกองสลากฯ ที่ได้กำหนดไว้ว่า ผู้ได้โควตาจองซื้อสลากฯ ต้องนำไปจำหน่ายด้วยตนเองทุกงวดให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงเท่านั้น

 

In fact

-ปัจจุบันกองสลากฯ จัดพิมพ์และจำหน่ายสลากงวดละไม่ต่ำกว่า 50 ชุด โดยชุดที่ 01–50 เป็นสลากธรรมดา ชุดที่ 51–100 เป็นสลากการกุศล มีตัวเลข 000000–999999 เหมือนกันทุกชุด

-ต้นทุนสลากอยู่ที่ 70.40 บาทต่อใบ

-หวยกล่องหรือหวยเสรี (สลากฯ โควตาและซื้อจอง) ซื้อตรงได้ เริ่มต้นที่ 35,210 บาท (5 ชุด ชุดละ 100 ใบ)

-สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นำเงินส่งรายได้แผ่นดินร้อยละ 23 จากรายได้การขาย

-หวยออนไลน์ยังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

 

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

เจ็บมาก็เยอะ!! แต่ทำไม? คนไทยยังรัก "หวยใต้ดิน"