ในช่วงเทศกาลกินเจ วัตถุดิบที่หาได้ง่าย และเป็นที่นิยม แน่นอนว่า “ไชโป๊” เป็นสิ่งที่ต้องนึกถึง รู้หรือไม่ว่า ในแต่ละปี ไชโป๊ ได้สร้างมูลค่าการตลาดให้กับผู้ประกอบการที่ผลิตได้ไม่น้อยกว่า 300-400 ล้านบาท เลยทีเดียว

เมื่อนึกถึง ไชโป๊ หลายคนยกย่องให้ ไชโป๊เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เป็นหนึ่งในไชโป๊รสชาติดีที่สุดของประเทศไทย ว่ากันว่าที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวม ไชโป๊คุณภาพดี แหล่งใหญ่ที่สุดซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 50% ของไชโป๊ที่จำหน่ายในตลาดทั่วไป ซึ่งมีผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 10 ราย

สาเหตุสำคัญที่ทำให้พื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นแหล่งผลิตใหญ่ของไชโป๊ เนื่องจากในอดีตกว่า 30 ปีที่แล้ว พื้นที่บริเวณนี้ เป็นแหล่งเพาะปลูก หัวไชเท้า วัตถุดิบที่สำคัญ ซึ่งนำมาผลิตเป็นไชโป๊นั่นเอง

แม้วันนี้แหล่งเพราะปลูกดังกล่าว จะไม่มีแล้วก็ตาม แต่โรงงานผลิตไชโป๊ ก็ยังคงตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ไม่ต่างจากในอดีต โดยรับผลผลิตหัวไชเท้ามาจากแหล่งอื่นๆ เช่น นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร กาญจนบุรี หรือ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

ความเป็นตำนานของ ไชโป๊เจ็ดเสมียน คือการสืบทอดภูมิปัญญา ที่ส่งต่อกรรมวิธีการถนอมอาหารจากรุ่นสู่รุ่น ไม่น้อยกว่า 2-4 รุ่น

สำหรับกระบวนการผลิตไชโป๊ ใน 1 ปี จะมีช่วงเวลาที่คึกคักมากที่สุดประมาณช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตหัวไชเท้ามีคุณภาพดีที่สุด ว่ากันว่าในอดีต โรงงานหนึ่งๆ จะมีรถบรรทุกหัวไชเท้าสด รวมทั้งรถบรรทุกเกลือ เข้าออกโรงงานเป็น 100 คัน โดยโรงงานหนึ่งจะสามารถรับหัวไชเท้าได้มากถึง 2,000 ตันเลยทีเดียว เช่นเดียวกับที่ใช้เกลือในการหมักปริมาณเท่าๆกัน

เมื่อมีวัตถุดิบเข้าสู่โรงงานแล้วแน่นอนว่า ก็ต้องมีแรงงาน ที่ทยอยเข้าสู่โรงงานเช่นกัน ทั้งการล้าง ตาก จนเสร็จสิ้นขั้นตอนเข้าโกดังหมัก

นอกจากนี้ยังมีขั้นตอน การนำไชโป๊ที่หมักเกลือแล้ว มาดองหวาน แปรรูป บรรจุในแพ็คเกจ และส่งลูกค้า ซึ่งรายได้จากการผลิตไชโป้เหล่านี้จะสะพัดหลั่งไหลไปสู่ชุมชนโดยรอบ

ไชโป๊ จึงไม่เพียงแต่เป็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวคนในชุมชนโดยรอบอีกหลายสิบหลายร้อยชีวิต รวมไปถึงคนในส่วนต่างๆ ทั้งระบบขนส่ง เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า เรียกได้ว่า ไชโป๊ ช่วยสร้างรายได้แบบครบวงจรในกับคนไทยส่วนหนึ่งเลยทีเดียว

ที่มา : กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม