แปรรูปยางพารา จากนวัตกรรม สร้างมูลค่าเพิ่ม เสริมแกร่งชุมชน

by ThaiQuote, 8 ธันวาคม 2564

ยางพารา เป็นพืชที่มีอายุมากกว่า 20 ปี มีพื้นที่ปลูกทั่วประเทศมากกว่า 12.3 ล้านไร่ กระจายอยู่ทุกจังหวัด โดยเฉพาะในภาคใต้ ยางพาราจึงเป็นพืชทดแทนป่าไม้ที่มีจำนวนลดลง และเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศให้มีมากขึ้น

 

อีกทั้งภายในสวนยางพารายังมีพืชชนิดอื่นๆ ที่สามารถปลูกร่วมได้ จึงทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพมากขึ้น รวมทั้งเป็นที่อาศัยของสัตว์ต่างๆ ตามธรรมชาติ

 

จากจำนวนการปลูกยางพาราที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ปริมาณผลผลิตยางพาราล้นตลาด ส่งผลให้ราคาจำหน่ายตกต่ำ จำเป็นยิ่งที่ต้องนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปเพิ่มมูลค่าช่วยตอบโจทย์และแก้ไขปัญหานี้

 

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ จึงพัฒนาการแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งผลงานดังกล่าวสามารถนำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์สำหรับผลิตจำหน่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ ดังนี้

 

โดยการแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยางพารา แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

 

1.ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

ที่นอนและหมอนยางพาราเพื่อการสุคนธบำบัด ใช้เทคโนโลยีด้านนวัตกรรมวัสดุร่วมกับการใช้กลิ่นที่สกัดจากพืชชนิดต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้นอนหลับง่าย ปรับอารมณ์ให้สมดุลและสงบ ช่วยผ่อนคลาย อาทิ กลิ่นหญ้าแฝก กลิ่นมะลิ เป็นต้น ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางพาราได้ 3-5 เท่า

 

 

เข็มขัดกายภาพเคลือบยางพารา ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ทดแทนการใช้วัตถุดิบจากปิโตรเลียม ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังและป้องกันการบาดเจ็บหลัง
อุปกรณ์กายภาพบำบัดช่วยประคองหลัง กระดูกสันหลังและลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ผลิตภัณฑ์กระชับกับสรีระ ไม่ลื่น ไม่กระด้าง คงทนต่อการใช้งานที่ยาวนาน

 

 

แผ่นกันลื่นจากยางพาราสำหรับพรมอเนกประสงค์ ใช้เทคโนโลยีเคลือบยางบนผ้าเพื่อผลิตแผ่นกันลื่น ซึ่งช่วยให้แผ่นพรมอเนกประสงค์สามารถยึดเกาะกับพื้นได้ดี ไม่ก่อให้เกิดการลื่นล้มได้ง่าย สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางพาราได้มากกว่า 10 เท่า ช่วยลดการนำเข้าแผ่นกันลื่นจากต่างประเทศและเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจได้ดีอีกด้วย

 



เครื่องขึ้นรูปแผ่นเสริมรองเท้าเพื่อสุขภาพ สำหรับใช้พิมพ์รูปเท้าเฉพาะของแต่ละบุคคล โดยนำน้ำยางพาราพัฒนาเป็นถุงแบบพิมพ์รอยเท้า เพื่อใช้ในการทำแผ่นเสริมรองเท้าให้เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีลักษณะเท้าไม่เข้ากับมาตรฐานหรือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูแลสุขภาพและเล่นกีฬา ช่วยส่งเสริมให้เกิดมูลค่าของน้ำยางพาราได้ถึง 10 เท่า มีต้นทุนการผลิตเครื่องถูกกว่าท้องตลาด 75% ทดแทนการนำเข้าที่มีราคาหลายแสนบาท

 

 

แผ่นยางปูพื้น ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติเป็นไปตาม มอก.2377-2551 ช่วยลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์แผ่นยางปูพื้น ปัจจุบันนำผลิตภัณฑ์ไปใช้งานจริงที่โรงพยาบาลวังจันทร์ จ.ระยอง เพื่อใช้ฝึกกายภาพสำหรับหัดเดินของผู้ป่วยและพัฒนาการเด็ก สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับยางพาราได้ 4 เท่า

 

2.ผลิตภัณฑ์เพื่อเกษตรกรรม

ถุงมือผ้าเคลือบยาง น้ำยางจะช่วยเพิ่มความทนทานให้แก่ถุงมือ ทำให้ถุงมือผ้าเคลือบยางมีคุณสมบัติป้องกันการบาดคม บาดเฉือน ลดแรงกระแทก กันลื่น นำไปใช้ในงานด้านเกษตรกรรม ประมง ก่อสร้างและอุตสาหกรรม สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางพาราได้มากกว่า 10 เท่า และน้ำยาง 1 กิโลกรัม นำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงมือผ้าเคลือบยางได้ถึง 30 คู่

 

 

ชุดวัสดุป้องกันการกัดเซาะตลิ่งจากธรรมชาติ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1.ชั้นป้องกันการกัดเซาะจากบล็อกประสานรูปแบบใหม่ที่ปรับปรุงคุณสมบัติด้วยน้ำยางพารา 2.ชั้นกรองจากผ้าเคลือบน้ำยางพารา ส่งเสริมให้เกิดการสะสมและสร้างชั้นตะกอนดินบนแผ่นวัสดุ ซึ่งพืชสามารถเจริญเติบโดโดยมีรากช่วยยึดโยงเสริมความแข็งแรงให้กับแนวตลิ่งได้ และสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางพาราได้ 2-3 เท่า

 

 

สิ่งประดิษฐ์/เครื่องจักร เครื่องชุบเคลือบถุงมือผ้าด้วยยางพาราแบบกึ่งอัตโนมัติ การทำงานของเครื่องมีการเคลื่อนที่แบบวงกลมเป็นจังหวะ โดยจังหวะหยุดการเคลื่อนที่เป็นจังหวะที่ใช้ในการจุ่มสารเคลือบและขั้นตอนการจุ่มน้ำยาง ซึ่งใช้ระยะเวลา 15-20 วินาทีต่อคู่ มีกำลังการผลิต 300 คู่/8 ชั่วโมง

 

ด้านการจราจร/ก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์ยางกันกระแทก ผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างของยางพาราพร้อมการเสริมแรง ทำให้ผลิตภัณฑ์มีสมบัติเชิงกลและความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อสภาพอากาศในสภาวะเร่งการเสื่อมอายุ ป้องกันการขูดขีด และอันตรายจากอุบัติเหตุต่างๆ จากยานพาหนะ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ประมาณ 3-4 เท่าจากยางพารา ช่วยลดปริมาณการใช้สารปิโตรเคมีซึ่งมีปัญหาด้านการกำจัด/ทำลาย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

โดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยี เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน/OTOP และผู้ประกอบการ SME มากกว่า 5 เรื่อง จำนวนเกษตรกร/ผู้ประกอบการได้รับการอบรมมากกว่า 500 คน ทำให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่มากกว่า 10 รายครอบคลุมทุกภาคในประเทศ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับบริการจาก ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ วว. ติดต่อได้ที่ โทร. 0 2577-9000 ,0 2577 9427 โทรสาร 0 2577 9426 E-mail : [email protected] เว็บไซต์ www.tistr.or.th

ยางพารา เกษตรกร นวัตกรรม เทคโนโลยี Thaiquote