ยาสตรีบำรุงเลือด และยาสตรีขับเลือด คือยาแผนโบราณชนิดน้ำที่ทำมาจากสมุนไพร ผสมกับแอลกอฮอล์ แต่ปัจจุบันมีการผลิตแบบเม็ดออกมาจำหน่ายตามท้องตลาด การรับประทานยาสตรีบำรุงเลือดนั้นให้ดีต่อสุขภาพนั้น ต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ หรือเภสัชกรก่อน

สิ่งที่ต้องระวังคือไม่ควรใช้เองโดยพลการตามโฆษณาชวนเชื่อ เพราะอาจได้รับผลกระทบจากการใช้ยาสตรีที่ผิดวิธี เป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งทารกในครรภ์มารดาสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์

ส่วนประกอบยาสตรี

• ใช้แอลกอฮอล์จากสุรามาผสมกับสมุนไพรต่างๆ
• ขิง
• ดีปลี
• พริกไทย
• น้ำมันสะระแหน่
• ดอกคำฝอย
• ชะเอม
• โกฐเชียง
• โกฐหัวบัว
• กิ่งอบเชย
• ว่านชักมดลูก
• กวาวเครือขาว

สรรพคุณของยาสตรี

• บำรุงโลหิต กระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนดีขึ้น
• บำรุงร่างกาย ให้รับประทานได้มากขึ้น
• ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส
• ปรับฮอร์โมนเพศหญิง และฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุลกัน
• แก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ
• ช่วยบรรเทาอาการตกขาว
• ช่วยให้มดลูกของผู้หญิงหลังคลอดบุตรกลับสู่สภาพเดิม
• ขับน้ำคาวปลา

ผลกระทบจากการใช้ยาสตรี

• หากใช้ยาสตรียาสตรีบำรุงเลือด และยาสตรีขับเลือดเป็นเวลานาน 3-6 เดือน มีความเสี่ยงจะเกิดอาการติดสุราขึ้น เพราะในส่วนผสมของยาสตรีมีแอลกอฮอล์อยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตับได้
• ในส่วนของผู้หญิงตั้งครรภ์นั้น หากรับประทานยาสตรีที่มีส่วนผสมของรากเจตมูลเพลิงแดง ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ สามารถถึงขั้นพิการได้

นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางนรีเวชต่างๆ หากใช้ยาสตรีโดยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

• การเกิดถุงน้ำ หรือซีสต์ที่เต้านม และรังไข่
• การเกิดก้อนเนื้องอกที่เต้านม หรืออวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง
• มะเร็งเต้านม รวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง
• โรคช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่
• เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาสตรี

• ผู้ที่ตั้งครรภ์
• ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือลิ่มเลือดอุดตัน
• ผู้ที่มีก้อนซีสต์ที่เต้านม และรังไข่
• ผู้ป่วยมดลูกอักเสบ
• ผู้ที่ติดเชื้อในช่องคลอด
• ผู้ที่เยื่อบุโพรงมดลูกเกิดการหนาตัวผิดปกติ
• หากบุคคลเหล่านี้รับประทานยาสตรีเข้าไป อาจทำให้ระบบในร่างกายทำงานผิดปกติ อาการของโรคเดิมที่มีอยู่แล้วนั้นอาจกำเริบอย่างรุนแรง หรือสะสมพิษที่อวัยวะภายในได้

การเลือกใช้ยาสตรีขับเลือดสำหรับผู้ที่ต้องการยุติการตั้งครรภ์นั้น ไม่สามารถทำให้เกิดการแท้งได้ เพราะ ยานี้จะไปขับเลือดประจำเดือน ไม่ใช่ขับตัวอ่อนของทารกในครรภ์ ถึงแม้ว่าจะรับประทานยาสตรีที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ แต่ก็ไม่สามารถขับทารกออกมาได้ สามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของมารดาได้ ทั้งนี้ผู้ที่เข้ารับคำปรึกษาก่อนใช้ยาสตรีกับแพทย์ หรือเภสัชกร ควรบอกรายละเอียดอาการที่ผิดปกติให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการใช้ยาที่ไม่ตรงกับอาการ หรือปริมาณที่ไม่พอดี ทำให้ยาสตรีลดประสิทธิภาพในการรักษาลง

ที่มา: โรงพยาบาลเพชรเวช

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ออกกำลังกาย แต่ทำไม?.. น้ำหนักถึงไม่ลด
https://www.thaiquote.org/content/248438

“วิตามินดี” ดีอย่างไร?
https://www.thaiquote.org/content/248414

อาหารเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดซ้ำของมะเร็งเต้านม และอาหารยังสนับสนุนการรักษามะเร็ง
https://www.thaiquote.org/content/248397