ท่องเที่ยวฉายแววสดใส! สภาพัฒน์ เล็งปรับ GDP ปี 66 ใหม่ ด้านนักท่องเที่ยววันแรกทัวร์จีนแห่เข้าไทยกว่า 3 พันคน

by ThaiQuote, 9 มกราคม 2566

“GDP ปี 66 สภาพัฒน์คาดการณ์ไว้ที่ 3-4% โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 23 ล้านคน คิดเป็นรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมการท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมมองว่าปีนี้สัดส่วน GDP ต่อการท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มขึ้น”-ดนุชา พิชยนันท์-

 

 

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวว่า การท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญของทั้งปีนี้ และปีหน้า ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยเริ่มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี หลายคนอาจเป็นห่วงเรื่องที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก โดยสภาพัฒน์มองว่า การที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาตรการเพื่อใช้กับนักท่องเที่ยวทุกประเทศ และมีการสอดรับกับมาตรการของประเทศต้นทาง ประกอบกับคนไทยมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปกว่า 70% แล้วนั้น เชื่อว่าสามารถคลายกังวลเรื่องนักท่องเที่ยวได้ ขณะเดียวกัน ประชาชนยังต้องดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังด้วย

ทั้งนี้ ในปี 66 สภาพัฒน์ คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศปี 66 ไว้ที่ 23 ล้านคน แต่ทั้งนี้ เป็นการคาดการณ์ก่อนที่ประเทศจีนจะประกาศเปิดประเทศ ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้าไทยประมาณครึ่งปีหลังเป็นต้นไป แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ไทยเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.นั้น จะต้องมีการติดตามสถานการณ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้อีกครั้ง

"เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามา ห่วงโซ่ที่เชื่อมโยง ทั้งเรื่องร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายของ ก็มีโอกาสที่จะทำธุรกิจ และมีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี อยากฝากว่าเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว ก็ต้องทำให้การท่องเที่ยวของเรามีมาตรฐานสูงขึ้นเหมือนกัน อยากให้ทุกคนดูแลในแง่ความปลอดภัย และทำธุรกิจด้วยความตรงไปตรงมา" นายดนุชา กล่าวว่า

สำหรับ GDP ปี 66 สภาพัฒน์คาดการณ์ไว้ที่ 3-4% โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 23 ล้านคน คิดเป็นรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมการท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมมองว่าปีนี้สัดส่วน GDP ต่อการท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี โครงสร้างของไทย การส่งออกมีสัดส่วนค่อนข้างมาก ในปีนี้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ดังนั้น การส่งออกอาจชะลอลงในบางสินค้าที่เกี่ยวกับกำลังซื้อของต่างประเทศ แต่ภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหาร การเกษตรน่าจะไปต่อได้

นายดนุชา กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) โดยมองว่า อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นทั่วโลก (global recession) แต่น่าจะเกิดในบางพื้นที่ หรือบางประเทศเท่านั้น ทั้งนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละประเทศต่างมีวิธีแก้ปัญหาของตนเอง อย่างไรก็ดี เป็นโอกาสของไทยในการเจาะตลาดอื่นๆ เนื่องจากยังมีตลาดที่ได้รับประโยชน์จากราคาพลังงานสูงในปีก่อน ควรเจาะตลาดเหล่านั้นเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการส่งออกของประเทศ

"เรื่องตัวเลขการท่องเที่ยว ถ้าจะเห็นตัวเลขชัดๆ ต้องรอการแถลงข่าวช่วงเดือนก.พ. 66 เพราะสถานการณ์ปรับเปลี่ยนตลอด ต้องรอดูข้อมูลให้ชัดก่อน" นายดนุชา กล่าว

วันแรก! ทัวร์จีนแห่เข้าไทยกว่า 3 พันคน คาดทั้งปีแตะ 7-10 ล้านคน

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมผู้บริหารที่เกี่ยวข้องของทั้ง 3 กระทรวง ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมายังประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายหลังจีน ประกาศเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน โดยสายการบิน Xiamen Airlines เที่ยวบิน MF833 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 12.19 น. มีผู้โดยสาร จำนวน 269 คน

โดยในวันนี้ (9 มกราคม 2566) มีเที่ยวบินขาเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 15 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 3,465 คน

ทั้งนี้ ข้อมูลจำนวนผู้โดยสารของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของทอท. ประมาณ 7 - 10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีกว่า 20.5 ล้านคน

ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในทุกท่าอากาศยาน โดยมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดอำนวยความสะดวกและการให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางในทุกมิติ ตั้งแต่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยได้เน้นย้ำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็วและความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ

สำหรับปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า และการให้บริการรถสาธารณะที่พบก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนปัจจุบันพบว่า ค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที ซึ่งมีความรวดเร็วขึ้น

ส่วนการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนการให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และจัดระเบียบ ขยายพื้นที่ เพื่อลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งผู้โดยสารใช้เวลารอคิวใช้บริการประมาณ 10 นาทีต่อคน ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยั่งยืน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย และการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน อันส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19.

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

จีนเปิดพรมแดนอีกครั้งเพื่ออำลา “โควิดเป็นศูนย์” ครั้งสุดท้าย
https://www.thaiquote.org/content/249197

ประเทศไทยกระหึ่มในขณะที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รอคอยความมั่งคั่งของนักท่องเที่ยว
https://www.thaiquote.org/content/249196

Panasonic เตรียมลงทุนกว่า 375 ล้านดอลลาร์ในจีน จับตาการเติบโตหลังโควิด
https://www.thaiquote.org/content/249179