รองผู้ว่ากรุงเทพมหานครชี้ความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นหนทางสู่การสร้างกิจกรรมด้านความยั่งยืนอื่น ๆ ตามมา

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฉายแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองให้เกิดความยั่งยืนว่า การร่วมมือกันเป็นหัวใจสำคัญไปสู่กิจกรรมด้านความยั่งยืนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกิจกรรมที่ผ่านมาจะเห็นถึงการเปิดพื้นที่สีเขียว ปรับปรุงจุดจอดรถ ซึ่งจะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่ตามหลักของการพัฒนายั่งยืน (SDGs) ของ UN

องค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อน การสร้างเมืองให้น่าอยู่ของ กทม.คือการนำเครื่องมือที่หลากหลาย เพื่อช่องทางการสื่อสาร ในการเชื่อมต่อ รับฟัง ดึงให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมจัดกิจกรรมผ่านแพลตฟอร์ม อาทิ แพลตฟอร์ม Traffy Fondue (LINE : @traffyfondue) เป็นช่งอทางรับแจ้งทุกปัญหาของคนกรุงเทพฯผ่าน LINE และสภาเมืองคนรุ่นใหม่ ที่เป็นเวทีเปิดรับความคิดเห็นประชาชนจัดขึ้นในทุก 3 เดือน

นอกจากนี้ สิ่งที่จะดำเนินการขั้นต่อไปที่จะทำให้เมืองน่าอยู่ คือ การแก้กฎหมายเพื่อให้เกิดการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างยั่งยืน เช่น ควบคุมการเข้าออกของรถบรรทุกเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในบางโซน ปรับผังเมืองเพื่อให้เกิดการขยายเมือง และสร้างตึกสูงอย่างปลอดภัย พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัย การตั้งราคาขยะเพื่อกระตุ้นให้คนแยกขยะมากขึ้น ปรับพื้นที่ใต้ทางด่วนให้เกิดประโยชน์ และย้ายท่าเรือคลองเตยเพื่อลดมลภาวะในชุมชนโดยรอบ ไม่นับรวมโครงการปรับพื้นที่ทางกายภาพ ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะและลดใช้รถยนต์เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน
เป็นต้น

“ความร่วมมือเป็นสิ่งเดียวที่เป็นความยั่งยืนที่สุด ไม่ว่าเมืองจะดีหรือไม่ดี รัฐบาลจะดีหรือไม่ หากขาดความมีส่วนร่วมและไม่ฟังเสียงประชาชนก็ยากที่จะพัฒนาเมืองให้เปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องขยะที่กรุงเทพมหานครรณรงค์ขอความร่วมมือจากภาคประชาชน ซึ่งได้รับความร่วมมือค่อนข้างดี ทำให้ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ลดขยะได้เฉลี่ยวันละ 400 ตันต่อวัน โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมลดไปได้ถึง 700 ตัน ถือว่าเยอะมากที่สุด เป็นผลมาจากความร่วมมือที่ทุกคนช่วยกันแยกขยะ” นายศานนท์กล่าว