เปิด 7 รสนิยม คนรุ่นใหม่ มองหาบ้านสมดุลชีวิต งาน ครอบครัว ในเมือง

by ThaiQuote, 4 ตุลาคม 2566

เมื่อวิถีชีวิตของคนเมืองรุ่นใหม่เน้นบริหารจัดการเวลาอย่างมีคุณค่ามากที่สุด ทำให้รูปแบบการใช้ชีวิต“บ้าน” และ “สถานที่ทำงาน” กลายเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออกในมุมมองของ “สิรวิชญ์ เกิดพุฒ” ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท 304 ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เติบโตมาจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ มองว่า การพัฒนาที่พักอาศัย โครงการบ้านที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตไลฟ์ไสตล์คนรุ่นใหม่ มีความต้องการบ้านคู่กับการมีไลฟ์สไตล์ที่สมดุลและเข้ากันได้กับรูปแบบการดำเนินชีวิตของพวกเขา นี่คือคุณสมบัติที่คนรุ่นใหม่มองหา

 

 

-บ้านอัจฉริยะ

คนรุ่นใหม่ชอบบ้านที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อควบคุมและควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในบ้านได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายด้วยปลายนิ้วบนมือถือ เช่น ระบบสมาร์ทโฮมที่ช่วยในการควบคุมแสงสว่าง อุณหภูมิ ระบบรักษาความปลอดภัย และการบันทึกวิดีโอ

-ความยืดหยุ่นในการทำงาน

คนรุ่นใหม่มักทำงานแบบอิสระหรือทำงานระยะไกล ดังนั้นบ้านจึงต้องออกแบบ่ให้มีพื้นที่ทำงานได้สะดวกสบาย โดยเชื่อมเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานและการเรียนรู้ออนไลน์

-สุขภาพและการออกกำลังกาย

การทำงานไม่ใช่ทุกคำตอบของคนรุ่นใหม่ ชีวิตที่ดีต้องมีสุขภาพที่ดีด้วย Works Life Balance จึงเป็นสิ่งสำคัญของคนยุคนี้ ที่ต้องการพื้นที่ เวลา ในการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง บ้านจึงต้องจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมด้านสุขภาพ

-ความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

คนรุ่นใหม่ใส่ใจและมีความตื่นตัวตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในกิจกรรมที่ทำนั้นทิ้งร่องรอยการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Carbon footprint) ทางสิ่งแวดล้อม บ้านที่มีการใช้พลังงานที่ประหยัดและใช้วัสดุยั่งยืนมีความสำคัญ

-การเชื่อมต่อและสังคม

คนรุ่นใหม่ แม้จะมีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบใช้เวลาอยู่คนเดียว แต่ก็ต้องมีช่วงที่เชื่อมต่อกับสังคมที่มีรสนิยมความชอบ หรือความสนใจคล้ายกัน จึงค้นหาบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่อสังคมที่ดี สภาพแวดล้อมที่สบายๆ และความเข้ากันได้กับเพื่อนบ้าน

-ความสะดวกสบายและการประหยัดเวลา

คนรุ่นใหม่ ไม่ต้องการที่จะใช้เวลาอยู่บนท้องถนนอย่างไม่จำเป็น เพราะความอดทนมีขีดจำกัด จึงใส่ใจในความสะดวกสบายและการประหยัดเวลา เลือกบ้านที่มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยในการทำกิจกรรมแต่ละอย่างอย่างรวดเร็วเป็นที่ต้องการ

-การวางแผนและสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์
คนรุ่นใหม่ มีความเป็นตัวของตัวเอง บ้านจึงต้องออกแบบสะท้อนกับบุคลิกความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจ ในการจัดหาเทคโนโลยีและวัสดุที่ยั่งยืนเพื่อสร้างบ้านที่สมดุลและสร้างคุณค่าให้กับคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันและอนาคตที่ยั่งยืน

POSH จับโจทย์ 6 ไอเดีย
มาปั้นโครงการรับไลฟ์สไตล์ชีวิตสมดุล

จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการ ​"POSH Nakniwas Ekkamai-Ramintra" (พอช นาคนิวาส เอกมัย-รามอินทรา) ทาวน์โฮมหรู 4 ชั้น สไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ โครงการบ้านในมุมมองใหม่ The Balance of Living บ้านที่รวมทุกความสมดุลของการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์เมือง ที่ออกแบบมาให้มีส่วนผสมของฟังก์ชั่นที่หลากหลายและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ทั้งการอยู่อาศัยและประกอบธุรกิจ ภายใต้ไอเดีย Multifunctional Home & Office โดยมี 6 จุดเด่นที่สำคัญ

1.Universal Design โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ออกแบบรองรับทุกการใช้งานของทุกคน เป็นทั้งบ้าน และ ออฟฟิศ พร้อมลิฟท์โดยสารส่วนตัวทุกยูนิต เพื่อความสะดวกในการใช้งานของทุกคน

2.Nature Centered บ้านที่ดึงความเป็นธรรมชาติเข้าสู่ทุกพื้นที่ของบ้าน มี Private Courtyard โอบล้อมกลางบ้าน และแสงธรรมชาติที่เพิ่มความผ่อนคลายทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัย

3.Multifunction Space พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 389 - 548 ตร.ม. บนเนื้อที่ 41- 63 ตร.ว. รองรับพื้นที่จอดรถ 4-6 คัน พื้นที่จัดเต็มพร้อมรองรับทุกไอเดียสร้างสรรค์

4.Place for all Generation บ้านที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยของครอบครัวใหญ่ที่มีคนต่างวัย (Generation) รวมไปถึงเป็นออฟฟิศสำหรับธุรกิจขนาดย่อม-ขนาดกลาง พร้อมรองรับทีมงานได้ 20-30 คน

5.City Life Location ทำเลใจกลางเมือง ถนนนาคนิวาส (ลาดพร้าว 71) และเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา รายล้อมด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกชั้นนำของประเทศมากมาย ทั้ง ห้างสรรพสินค้า ไลฟ์ไสตล์มอลล์ แหล่งนัดพบ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, คริสตัล ปาร์ค, CDC, ชิค รีพับลิค อยู่ใกล้ตลาดหัวมุม Market & More, The Walk ถนนเกษตร-นวมินทร์, ทาวน์อินทาวน์ โรงเรียนชั้นนำ อาทิ โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์, โรงเรียนสาธิตวิทยา, โรงเรียนเลิศหล้า, โรงเรียนอุดมศึกษา, โรงเรียนบดินทร์เดชา โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลนวเวช, โรงพยาบาลพญาไท 2, โรงพยาบาลสัตว์คริสตัลเพ็ท มีฟิตเนส และสวนสาธารณะ เป็นต้น

6.All Area Connected การเดินทางเชื่อมต่อถนน 4 สายหลัก ทั้ง ถนนลาดพร้าว ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย รามอินทรา ถนนเกษตรนวมินทร์ และถนนลาดพร้าว-วังหิน รวมไปถึง แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สายสีเทา และสายสีน้ำตาล ทำให้สามารถเดินทางทะลุได้ทุกเส้นทางในกรุงเทพฯ อย่างสะดวกและง่ายดาย

“หัวใจหลักของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง โดยเน้นในคุณภาพผลิตภัณฑ์และงานบริการที่ดี รวมทั้งการออกแบบที่มีความยืดหยุ่นสำหรับผู้อยู่อาศัย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ การขออนุญาตก่อสร้าง รวมไปถึงงานก่อสร้างและงานตกแต่งจนแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นความตั้งใจของทีมงานที่เติบโตมาในสายงานออกแบบ ก่อสร้าง และพัฒนาที่อยู่อาศัย ทำให้เข้าใจในมิติของความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งานอสังหาริมทรัพย์" นายสิรวิชญ์ กล่าว

สำหรับโครงการแรกที่เปิดตัวออกสู่ตลาด พัฒนาภายใต้ชื่อโครงการ "POSH Nakniwas Ekkamai-Ramintra" (พอช นาคนิวาส เอกมัย-รามอินทรา) รูปแบบทาวน์โฮมหรู 4 ชั้น สไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่เหนือกาลเวลา หรือ Timeless Modern Luxury ด้วยดีไซน์ที่เรียบแต่ยังคงความหรู สวยงามไม่ล้าสมัย พร้อมดึงความเป็นธรรมชาติเข้ามาโอบล้อมบ้าน ทั้งภายในภายนอกได้อย่างลงตัว เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เป็นทั้งบ้านและออฟฟิศ พร้อมออกแบบรองรับการขยายพื้นที่ในอนาคต

ภายในโครงการมีทั้งหมด 6 ยูนิต แบ่งพัฒนาออกเป็น 2 เฟส ประกอบไปด้วย
เฟส A จำนวน 3 ยูนิต มุ่งเน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการทำการธุรกิจหรือการพาณิชย์ต่าง ๆ หรือต้องการโฮมออฟฟิศแบบเต็มรูปแบบ
เฟส B จำนวน 3 ยูนิต รองรับลูกค้ากลุ่มไพรเวทเรสซิเด้นซ์ ที่เน้นการอยู่อาศัยเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์ความหลากหลายและความสมดุลของลูกค้าแต่ละบุคคล

โครงการ "POSH Nakniwas Ekkamai-Ramintra" (พอช นาคนิวาส เอกมัย-รามอินทรา) มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท ในรูปแบบทาวน์โฮม 4 ชั้น โดยมีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 389-548 ตร.ม. บนเนื้อที่ 41-63 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 18.9 ล้านบาท พร้อมฟังก์ชั่น 1 ห้องมาสเตอร์เพ้นท์เฮ้าส์ 2 ห้องนอนใหญ่ 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องครัว และห้องโถงใหญ่ พร้อมลิฟท์ทุกยูนิต และพื้นที่สวนขนาดใหญ่รอบบ้าน รองรับกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาชิกในครอบครัว

โดยแผนงานในปี 2567 บริษัทฯ เตรียมพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว เจาะกลุ่มลูกค้านักธุรกิจที่ต้องการบ้านเดี่ยวหรูทำเลกลางเมือง ภายใต้แนวคิด Multifunction Luxury Home คาดว่าจะมีมูลค่าโครงการ ประมาณ 200 ล้านบาท