เปิดพอร์ตสินเชื่อ 3พันล้าน CIMB หนุน AWC เปลี่ยนผ่านท่องเที่ยวยั่งยืน

by ThaiQuote, 5 ธันวาคม 2566

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้กลุ่ม ทีซีซี (TCC Group) โดยมี 2 กลุ่มธุรกิจ โรงแรมและการบริการ กับ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ต้องการพัฒนาธุรกิจตอบสนองไลฟ์ครบวงจร ควบคู่กับการพัฒนายั่งยืน จึงต้องมีการขยายการลงทุนตอบโจทย์สังคมคาร์บอนต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

โดย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMB Thai หนึ่งในสมาชิกกลุ่มซีไอเอ็มบี (CIMB Group) ธนาคารที่มีเครือข่ายครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน ธุรกิจการเงินที่มีสินทรัพย์ขนาดใหญ่อันดับ 5 ในอาเซียน มีเครือข่ายแข็งแกร่งในภูมิภาค มีสาขา สำนักงานตัวแทน และเครือข่ายธุรกิจในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา บรูไน ฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง และสหราชอาณาจักร
โดยCIMB เห็นโอกาสสานต่อเจตนารมณ์กาารพัฒนาธุรกิจAWC สอดคล้องกับ ทิศทางการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งลดการใช้ทรัพยากร มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสร้างคุณค่าองค์ร่วมแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain)

 


มร. พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารมีวิสัยทัศน์ก้าวสู่การเป็นธนาคารชั้นนำของอาเซียน ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างองค์กรให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและสังคม ด้วยบริการทางการเงินที่่ก้าวทันเทคโนโลยี และมีเครือข่ายอาเซียนที่แข็งแกร่ง พร้อมกับแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจสีเขียว มีอนาคต จึงใช้ศักยภาพของผู้เชี่ยวขาญเครือข่ายในอาเซียนที่มีทั้งองค์ความรู้ มุ่งขับเคลื่อนบนยุทธศาสตร์ความยั่งยืน


โดยจุดแข็งของCIMB มีดังนี้ คือ


CIMB มีจุดแข็งผู้นำตลาดด้านธุรกิจบริหารเงิน Treasury & Markets ดูแลลูกค้าสถาบันด้วยทีม Investment banking ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่าย พาลูกค้าระดมทุนผ่านรูปแบบต่างๆ ออกหุ้นสามัญ ออกตราสารหนี้ ควบรวมกิจการ ดูแลลูกค้า High Net Worth ด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนตอบโจทย์ทุกความต้องการและทันกับสภาวะตลาดทั้งหุ้นกู้ตลาดแรก ตลาดรอง หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง


อีกทั้งยัง ดูแลสมาชิก CIMB Preferred และลูกค้ารายย่อยด้วยทีม Wealth Management บนเป้าหมายที่จะส่งมอบบริการทางการเงินที่ดีที่สุดบนความแตกต่างและลักษณะเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคน ทั้งหุ้นกู้ กองทุน ประกัน เงินฝากดอกเบี้ยสูง และสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรายย่อย สินเชื่อรีไฟแนนซ์ติดอันดับผู้นำตลาด


สำหรับแผนการขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน CIMB เริ่มต้นจากการลดคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในองค์กร ทั้งในกระบวนการทำงานและธุรกิจ (Scope 1-2) ภายในปี 2573 หลังจากลดคาร์บอนไป 22% ในปี 2565 มุ่งที่จะก้าวสู่เป็นคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2593
ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายที่จะสนับสนุนการเงินเพื่อธุรกิจและโครงการที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนมูลค่า 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (1000,000 ล้านริงกิต ราว 7.7 แสนล้านบาท) ในปี 2567 กลยุทธ์ในระยะยาว ต้องการที่จะวางแผนลดคาร์บอน โดยการสนับสนุนทางการเงินให้กับลูกค้า ให้เปลี่ยนผ่านสู่การผลิตสีเขียว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่จะทำให้เกิดโอกาสการเติบโตมหาศาล


ดังนั้น ธนาคารสนับสนุนสินเชื่อรายแรกในไทยให้ AWC ซึ่งถือเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความแข็งแกร่งของประเทศไทย ที่จะนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจด้านความยั่งยืนจึงอนุมัติสินเชื่อ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ให้กับ AWC นำไปปรับปรุงพัฒนากระบวนการจัดการด้านความยั่งยืน ทั้งในกระบวนการผลิต และการบริการ


“ CIMB Group ที่ได้ตั้งเป้าหมายขยายวงเงินสินเชื่อ เชื่อมโยงกับการดำเนินงานโครงการและความคิดริเริ่มที่ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม จึงสนับสนุน AWC เพื่อพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ สร้างโอกาสสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทย ยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวของไทยให้สอดคล้องกับบริบทการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล”

ต่อยอด 2 ธุรกิจอสังหาฯ ค้าปลีก โรงแรมหรู
ชูจุดขาย อนาคตโลก+ ชีวิต ดีกว่าเดิม


ทางด้าน นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า การร่วมมือพัฒนาAWC และ CIMB Thai ถือเป็นกลุ่มการเงินชั้นนำที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งในภูมิภาค ถือเป็นสินเชื่อขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงความยั่งยืนเป็นรายแรก เป็นการนำร่องการพัฒนายั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมาย (Sustainability Performance Targets หรือ SPTs) มีการวางแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศอย่างเป็นรูปธรรม มีการชี้วัดผลตามมาตรฐานดัชนีความยั่งยืน MSCI ESG Rating จึงถือเป็นความร่วมมือระหว่างกับ CIMB Thai
“เป็นการส่งเสริมความร่วมมือและรวมพลังของพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยต่อไป”

ปัจจุบัน AWC ได้รับการจัดวงเงินสินเชื่อระยะยาวที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนจากสถาบันการเงินชั้นนำสัดส่วน 76 % ของสินเชื่อทั้งหมด และตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนวงเงินสินเชื่อระยะยาวเชื่อมโยงความยั่งยืน 100 % เพื่อมุ่งสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศ
สำหรับกลยุทธ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านธุรกิจโรงแรมและการบริการ สถานที่ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ รวมถึงพื้นที่เพื่อการพาณิชน์และสำนักงาน ในAWC มุ่งเน้นตามหลักปรัญญา “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ผ่านโครงการคุณภาพหลากหลาย มีความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

สำหรับธุรกิจในเครือ 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ซึ่งบริหารงานโดยผู้บริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์คุณภาพและมีมาตรฐานในระดับสากล อาทิ แมริออท, เดอะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ,บันยันทรี, ฮิลตัน เชอราตัน และมีเลีย
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail, Wholesale and Commercial) ซึ่งครอบคลุมโครงการในกลุ่ม ประกอบด้วย
1. อสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail and Wholesale) ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ชอปปิงมอลล์ คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต และอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้าส่ง โครงการที่มีชื่อเสียงคือ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการเกทเวย์ แอท บางซื่อ โครงการเออีซี เทรด เซ็นเตอร์ พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ และโครงการตะวันนา บางกะปิ
2. อาคารสำนักงาน (Office) โดยโครงการที่โดดเด่นในเครือ AWC คือ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ และอาคารแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลทางธุรกิจที่มีศักยภาพในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ


เป้าหมายสินเชื่อ AWC จะนำสินไปลงทุนธุรกิจให้สอดคล้องกับกรอบการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น 3 ด้าน ( 3BETTERs) คือ โลกที่ดีกว่า (BETTER PLANET),ชีวิตผู้คนที่ดีกว่า ( BETTER PEOPLE) และ อสังหารมทรัพย์ที่ดีกว่า (BETTER PROSPERITY) โดยเฉพาะมุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม (BETTER PLANET) ในมิติของการพัฒนาอาคารอย่างยั่งยืนที่ AWC จึงต้องลงทุนยกระดับมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่อง
“ในปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 20.6 % เมื่อเทียบกับปี 2562 และยังได้ริเริ่มโครงการร่วมกับพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศ อาทิ โครงการ “AWC Stay to Sustain” เพื่อร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูต้นไม้ในป่าชุมชนทั่วประเทศ เป็นไปตามโรดแมปสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573”


ติด TOP 1% S&P ESG Score


AWC ดำเนินตามแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ในมาตรฐานสากลต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในปี 2566บริษัทได้รับคัดเลือกเป็น “Top 1% S&P Global ESG Score 2022”  รวมถึงได้รับการประเมินจาก MSCI ESG Ratings ในระดับ "AA" นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับ SET ESG Ratings อยู่ที่ระดับ ‘A’ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Property & Construction) และติดอันดับรายชื่อหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงกลุ่มโรงแรมและศูนย์การค้าในเครือ AWC จำนวน 25 แห่งได้รับประกาศนียบัตร “ดาวแห่งความยั่งยืน” หรือ STAR (Sustainable Tourism Acceleration Rating) จากทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สะท้อนความมุ่งมั่นขององค์กรในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการมีธรรมาภิบาลที่ดีตามพันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” (Building a Better Future)