ธนาคารโลกเปิดข้อมูลสัดส่วนป่าไม้โลกแยกตามประเทศ ทั่วโลกมีป่าเหลือเท่าไร

การปกป้องผืนป่าถือเป็นหัวใจสำคัญของการลดโลกร้อน เพราะป่าช่วยสร้างความชุ่มชื้น ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ การรักและหวงแหนทรัพยากรที่มีค่าจึงเกิดขึ้น มีการรณรงค์หยุดรุกล้ำ ทำลายผืนป่า ก่อนจะสายเกินไป มาดูกันว่าประเทศไหนในแผนที่โลกที่ยังมีทรัพยากรป่าไม้เหลือติดอันดับสัดส่วนต้นๆ ของโลก

ข้อมูลจากธนาคารโลก ล่าสุดในปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ.2567) เกี่ยวกับตัวเลขพื้นที่ป่าไม้จากทุกประเทศทั่วโลก ระบุว่า ทั่วโลกมีต้นไม้มากกว่า 3 ล้านล้านต้น แบ่งเป็นต้นไม้ในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน มีสัดส่วนน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของต้นไม้ทั้งหมด (1.3 ล้านล้านต้น) พื้นที่ทางเหนือประมาณหนึ่งในสี่ (0.74 ล้านล้าน) และเขตอบอุ่นประมาณหนึ่งในห้าของป่าไม้ทั่วโลก (0.66 ล้านล้าน)

ในจำนวนพื้นที่ป่าไม้ที่เหลืออยู่นั้น มีประเทศที่ครอบคลุมพื้นที่ป่าไม้สูงที่สุดในโลก 10 อันดับแรก พื้นป่าไม้รวมกันสัดส่วนมากถึง 60% ของพื้นที่ป่าไม้ทั่วโลก

ทั้ง 10 ประเทศที่ครองพื้นที่ป่านไม้จึงถือเป็นผู้ครอบครองทรัพยากรที่มีมูลค่าของโลก ถือเป็นกลุ่มประเทศช่วยพิทักษ์โลกร้อน เพราะพื้นที่ป่าที่กว้างขวางและมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของป่าชนิดต่าง ๆ จะช่วยให้โลกรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสังคมในหลากหลายด้านแตกต่างกันไป

สำหรับอัตราส่วนของป่าไม้ทั่วโลก ได้แยกสัดส่วนตามประเทศ ถือว่าสอดคล้องกับหลักภูมิศาสตร์ เพราะประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า ก็เป็นผู้ครอบครองพื้นที่ป่ามากกว่าด้วยเช่นกัน

1.ประเทศรัสเซีย เป็นชาติที่มีพื้นที่ป่าไม้ธรรมชาติมากที่สุดในโลก (มากกว่า 1 ใน 5 ของป่าโลก) ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 8.7 ล้านตารางกิโลเมตรของป่า หรือมีป่ามากกว่า 60% นิดๆ ของพื้นที่ทั้งหมด แต่ยังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งประเทศ ยังถือว่า เป็นประเทศที่มีพื้นที่ป่ากว้างและมีความหลากหลายทางชีวภาพอันโดดเด่นในโลก การรักษาและการบำรุงรักษาป่าในรัสเซีย เป็นเรื่องสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมในระยะยาว

2.บราซิล ประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 (และมีประชากรมากเป็นอันดับ 6) มีพื้นที่ป่าไม้อยู่ในอันดับที่ 2 สัดส่วนป่าไม้มากกว่า 12% หรือเกือบ 5 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งมากกว่า 60% ของทั้งประเทศ โดยป่าผืนใหญ่ที่สุดคือ อเมซอน

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รณรงคืปกป้องผืนป่าบริเวณป่าดิบชื้นอเมซอน ก็ยังเปิดเผยข้อมูลถึงพื้นที่ป่าที่หายไป 237,000 ตารางกิโลเมตรในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการตัดไม้ทำลายป่า แต่ผืนป่าอเมซอนยังถือว่ามีความกว้างใหญ่กินพื้นที่บางส่วนครอบคลุมพื้นที่ในประเทศเปรู (อันดับที่ 10 ป่าไม้มากที่สุดในโลก ราว 1.8%)

3 และ 4 แคนาดา และสหรัฐ มีพื้นที่ป่า 8% ของโลก ทั้งสองประเทศ จึงร่วมมือกันพัฒนาระบบอุทยานแห่งชาติ เป็นมรดกทรัพยากรของประเทศ ให้เป็นแหล่งสร้างระบบนิเวศ และสร้างความหลากหลายทางชีวภาพตามธรรมชาติของทวีป

5.จีน มีสัดส่วนป่าไม้ 5.5% ของโลก จีนมีความพิเศษแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ตรงที่พื้นที่ป่าปกคลุมลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่จีนสามารถเพิ่มพื้นที่ป่าได้ 511,807 ตารางกิโลเมตรในสองทศวรรษครึ่ง ซึ่งพื้นที่รวมของป่ามีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ทั้งหมดของประเทศไทย จีนยังตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ปกคลุมอีกสัดส่วนถึง 30% ของประเทศภายในปี 2593

นักวิจารณ์ระบุว่า การปลูกป่าขนาดใหญ่นี้อาจต้องแลกมาด้วยต้นทุนในการรักษาพันธุ์ไม้ตามธรรมชาติ และแทนที่จะส่งเสริมการปลูกพืชเชิงเดี่ยวของต้นไม้ที่ไม่ใช่เจ้าของถิ่น

6-7-8 ประเทศออสเตรเลียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ต่างก็แบ่งพื้นที่ป่ากัน 3% ของโลก โดยคองโก ถือเป็นพื้นที่ป่าตั้งอยู่ในเขตร้อนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีส่วนช่วยอย่างมากต่อพื้นที่ป่าในช่วงหลัง และแผ่ขยายออกไปใน 5 ประเทศใกล้เคียง ได้แก่ แคเมอรูน สาธารณรัฐอัฟริกากลาง คองโก อิเควทอเรียลกินี และกาบอง

อินโดนีเซีย อินเดีย และเปรู อยู่ในอันดับรั้งท้าย ด้วยส่วนแบ่ง 2% ต่อ 10 อันดับแรก

ที่มา https://www.visualcapitalist.com/charted-share-of-world-forests-by-country/