โมเดลใหม่แก้หนี้ยั่งยืน ทีทีบี เปิดแคมเปญพิชิตหนี้ 4 สินเชื่อ

by สินนภา ดีเลิศพัฒนา, 14 มีนาคม 2567

ทีทีบี แก้โจทย์หนี้เรื้อรัง ยอดผิดนัดสูง -หนี้เสียพุ่ง เปิดแคมเปญแก้หนี้ 4 ประเภท บ้าน รถ บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล เสนอรีไฟแนนซ์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงวางแผนสุขภาพการเงิน ให้ความรู้ ส่งโค้ชชิ่งปลดหนี้ หวังคนหลุดวงจรหนี้ถาวร พร้อมนำเอไอมาใช้วิเคราะห์แก้หนี้ยั่งยืนตรงเป้า
 

จากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวตั้งแต่ช่วงวิกฤติโควิด 19 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดคนเป็นหนี้ค้างชำระสูง โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ประเมินสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทย ณ สิ้นปี 2567 จะอยู่ที่ 91.4% หรือราว 16.9 ล้านล้านบาท สอดคล้องกันกับ ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทย สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2566 อยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สัดส่วน 90.9% ต่อ GDP


สิ่งที่น่าห่วงและเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจคือ คุณภาพหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มด้อยลง หรือ มีสัดส่วนหนี้เสีย (NPLs) ในระบบธนาคารพาณิชย์สูงถึง 2.79% หรือมีมูลค่าเกือบ 1.52 แสนล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้าถึง 3.6% ขณะที่สัดส่วนหนี้ค้างชำระระหว่าง 1-3 เดือน สัดส่วน6.66% หรือ คิดเป็นมูลค่า 3.62 แสนล้านบาท อัตราส่วนเกือบครึ่งหรือราว 1.7 แสนล้านบาท มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถที่เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังมีหนี้จากผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) อีกกว่า 35% ของทั้งระบบ หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้น โครงสร้างเศรษฐกิจต้องพังไปพร้อมกันกับอัตราหนี้ที่สูงขึ้นของกลุุ่มคนฐานรากของประเทศ


ธนาคารเจ้าหนี้ นอกจากเป็นผู้ปล่อยเช่าหนี้ ทำกำไรจากดอกเบี้ยแล้ว ยังต้องมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลหนี้ให้มีคุณภาพ จึงจะทำให้เป็นการพัฒนาหนี้อย่างมีคุณภาพ และยั่งยืน

หลังจากการควบรวมของสองธนาคาร ระหว่าง ทีเอ็มบี และธนชาติ โดยหลอมรวมนำเอาสองจุดแข็งมาผนวกกันสู่ “ทีเอ็มบีธนชาต” มีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ภายใต้ปรัชญา Make REAL Change หรือ เปลี่ยน… เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น


เป้าหมายการเป็น “ธนาคารเพื่อความยั่งยืน” สร้างการเติบโตและความยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด


ธนาคาร ทีเอ็มบีธนชาติ ได้เปิดเผยถึง ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อ ลงทุน และประกัน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน อีกฝั่งของการเติบโต ก็พบปัจจัยเสี่ยงจากการปล่อยสินเชื่อจำนวนมาก นำไปสู่ปัญหาเรื้อรังของคนไทย จึงทำให้ธนาคารต้องพัฒนาบริการควบคู่กับการเข้าช่วยเหลือด้วยนโยบายทางการเงิน และสินเชื่อต่างๆ เช่น สินเชื่อด้านการกู้ยืมที่ครอบคลุมตั้งแต่ บ้าน บัตรเครดิต ตลอดจนสินเชื่อรถยนต์ และรถยนต์ไฟฟ้า


นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยถึงแนวคิดการพัฒนาการบริการที่ทั้งตอบโจทย์ปัญหาใหญ่ของประเทศ ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าอย่างมีคุณภาพ โดยการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาหนี้เรื้อรังในสังคมไทย ผ่านแคมเปญ “พิชิตหนี้” เพื่อหาทางออกให้กับหนี้ค้างชำระระหว่าง 1-3 เดือนสูงขึ้น และมีการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น โดยการช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ให้ครอบคลุม และยังส่งเสริมให้คนไทยใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกภาระดอกเบี้ยมากจนเกินไป และยังคงแนะนำโซลูชันรวบหนี้ให้กับลูกค้าผ่านสินเชื่อสวัสดิการ ttb welfare loan สำหรับพนักงานบริษัทที่ใช้บัญชีเงินเดือนทีทีบี รวมถึงการบริการสินเชื่อดิจิทัล ผ่าน Digital Lending ด้วย ttb touch

 

เจาะ 4 ประเภทปล่อยสินเชื่อ คู่ดูแลหนี้จบครบยั่งยืน

ทั้งนี้ ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ ในการบริการ 4 ประเภท ลูกค้าสินเชื่อประกอบด้วย

กลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล มุ่งส่งเสริมให้คนไทยใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกภาระดอกเบี้ยมากจนเกินไป มุ่งเน้นแนะนำแนวทาทางออก (โซลูชัน) รวบหนี้ให้กับลูกค้าผ่านสินเชื่อสวัสดิการ ttb welfare loan สำหรับพนักงานบริษัทที่ใช้บัญชีเงินเดือนทีทีบี และการโอนหนี้มายังบัตร ttb flash card รับดอกเบี้ยต่ำกว่า ทั้งยังเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อผ่าน Digital Lending ด้วย ttb touch


· กลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน ทีทีบีต้องการให้คนไทยสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อมีบ้านเป็นของตัวเอง และลดภาระหนี้ ในปีนี้ จึงผนึกกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่ในกลุ่มบ้านเดี่ยวในเมือง และคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า พร้อมเพิ่มสัดส่วนการรีไฟแนนซ์บ้านในกลุ่มลูกค้าพนักงานเงินเดือน และเน้นโครงการรวบหนี้ เพื่อช่วยผ่อนภาระดอกเบี้ยให้กับคนไทย

สินเชื่อรถยนต์ มุ่งเพิ่มสัดส่วนรถ EV พร้อมวางแนวทางการดำเนินธุรกิจ ได้แก่


     1) Dealer 360° กำหนดกลุ่มคู่ค้าเพื่อสร้างและรักษาสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรอย่างยั่งยืน
     2) Portfolio Mix ปรับสัดส่วนประเภทรถยนต์และกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ
     3) บุกตลาดรถมือสองผ่านเว็บไซต์ Roddonjai เน้นกลุ่มลูกค้าคุณภาพ และรถสภาพดี
     4) Risk Cost Management คัดเลือกลูกค้าคุณภาพ ให้ความช่วยเหลือลูกค้า และช่วยปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงติดตามหนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันหนี้เสีย
     5) Cash Your Car ช่วยบรรเทาปัญหาหนี้สินของลูกค้า โดยการรวบหนี้ด้วยสินเชื่อรถแลกเงิน

“โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของธนาคารฯมียอดดาวน์สูง แต่ก็มีข้อกังวลถึงราคารถยนต์ EV มือสอง เนื่องจากในปัจจุบันปีของรถยนต์ยังใหม่ ไมล์ยังน้อย สถาพยังดี ดังนั้นแล้วจึงจำเป็นต้องมีการประสานกันระหว่างพอร์ตรถน้ำมันและรถอีวี จะต้องเติบโตไปพร้อมๆกันทั้งภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภค จึงต้องบริการความเสี่ยงให้มีสินเชื่อคุณภาพ โดยมีการพัฒน Dealer 360° กำหนดกลุ่มคู่ค้าเพื่อสร้างและรักษาสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรอย่างยั่งยืน Portfolio Mix เน้นสินเชื่อรถใหม่ เพิ่มสินเชื่ออีวี ไม่แข่งราคา เน้นบริการ ปรับสัดส่วนประเภทรถยนต์และกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ”

บัตรเครดิต มุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยมุ่งเน้นการสร้างความคุ้มค่าในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสำหรับคนมีรถ คนมีบ้านและพนักงานเงินเดือน ล่าสุดบัตรเครดิต ttb ได้จับมือกับ Google Pay ให้บริการผูกบัตรกับ Google Wallet แตะ จ่าย ไร้สัมผัส ผ่านสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ และ เร็ว ๆ นี้ ลูกค้าจะสามารถใช้บริการ Virtual Credit Card บนแอป ttb touch ใช้จ่ายได้ทันทีหลังบัตรอนุมัติ ไม่ต้องรอบัตรจัดส่ง เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น

“ธนาคารยัง มีความห่วงใยในปัญหาหนี้สินของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานเงินเดือน โดยได้นำร่องเสริมสร้างความรู้ Financial Literacy ผ่านโปรแกรมปลดหนี้เพื่อพนักงานทีทีบี โดยให้พนักงานธนาคารทำแบบทดสอบตรวจสุขภาพทางการเงิน เข้าเรียนคอร์สออนไลน์ และพบโค้ชปลดหนี้ เพื่อการแก้หนี้อย่างยั่งยืน และปีนี้จะมีการขยายโปรแกรมสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยสู่คนไทยทั้งประเทศ”

นอกจากนี้ ธนาคารฯยังมีความห่วงใยในปัญหาหนี้สินของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานเงินเดือน เพิ่มความรู้ด้านการเงิน (Financial Literacy) ผ่านโปรแกรมปลดหนี้ ด้วยการตรวจสุขภาพหนี้บุคลากรภายในบริษัทฯ ตั้งกลุ่มให้คำแนะนำปรึกษาหนี้

ด้วยการเทรนความรู้เพื่อแก้ปัญหาหนี้ที่พบจากกลุ่มคนในบริษัท ออกมาเป็นสินเชื่อพนักงานทีทีบี เพื่อดำเนินการแก้หนี้ สานต่อไปสู่การแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนในประเทศไทย โดยมีความคาดหวังว่าจะยกระดับโปรแกรมนี้สู่ระดับประเทศ เพื่อรับผิดชอบต่อสังคมโดยไม่ใช่แค่เพียงเป็นผู้ให้บริการทางการเงินเท่านั้นแต่ยังรับผิดชอบในการช่วยเหลือแก้หนี้อีกด้วย

โดยมีการขยายโปรแกรมดังกล่าวเพื่อสอดรับกับมาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทยสู่คนไทยทั้งประเทศ คาดว่าใช้เวลาราวๆหนึ่งปีกว่าจะเปิดให้บริการ โดยนายฐากรกล่าวว่า จะยกระดับโครงการนี้ให้เป็นสมบัติของชาติ ไม่ใช่ของ TTB เพียงเจ้าเดียว

 

เปิดแผนปี 2567 ดึงAI วิเคราะห์สินเชื่อ


ทีทีบี เดินหน้าขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์ปี 2567 LEAD the CHANGE for Financial Well-being of Retail Customers มุ่งเป็นผู้นำในการสร้างความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สนับสนุนให้ลูกค้าฉลาดออม ฉลาดใช้ มีความรอบรู้เรื่องกู้ยืม พร้อมลงทุนเพื่ออนาคต และมีความคุ้มครองที่อุ่นใจ จึงมุ่งพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ ตรงใจกลุ่มลูกค้า


สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินเรื้อรังของคนไทยอย่างยั่งยืน โดยการยกระดับการบริการ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมทางการเงิน มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ( Digital & Data Innovation) หรือ เทคโนโลยีปัญหาประดิษฐ์ การใช้ AI (Aritificial Intelligence) เข้าช่วยเหลือในการให้บริการทุกๆกลุ่มธุรกิจ เพื่อส่งมอบการลงทุนและการให้บริการที่ยั่งยืน จะทำให้เข้าใจลูกค้าได้ในระดับบุคคล เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในทุกมิติ

 

ภายใต้แนวคิด เข้าใจระบบนิเวศของลูกค้า ( Ecosystem Play) โดยเฉพาะ 4 กลุ่มลูกค้าหลักที่ธนาคารเชี่ยวชาญ ได้แก่ กลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน และลูกค้าที่มีเงินออม ( Wealth)
อีกทั้งยังมีการบริการผ่านแพลตฟอร์ม Digital-First Experience

 

โดยนำเสนอประสบการณ์การทำธุรกรรมที่สะดวกและครอบคลุม ผ่านแอป ttb touch และการทำ Data Analytics วิเคราะห์ข้อมูลควบคู่ไปกับการใช้ AI Engine เพื่อเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าที่มากขึ้น เช่น Who To Call Anaytics Model หรือการใช้ AI ในการคัดกรองระบบโทรทวงหนี้ รวมไปถึงการจัดประเภทธุรกรรมด้วยAI เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ พร้อมยกระดับความปลอดภัยในการใช้งาน


“ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าในทุกด้าน พร้อมกับนำดิจิทัลโซลูชันตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีมากกว่าเดิม จะส่งผลให้ในปี 2567 ผลิตภัณฑ์ต่างๆ สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมาย เพื่อสร้างความไว้วางใจ ชื่นชอบและบอกต่อ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้น ทั้งในวันนี้และอนาคต”

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา ลงทุนเพื่ออนาคต นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มุ่งรักษาเงินต้นและปิดความเสี่ยง เช่น หุ้นกู้อนุพันธ์แฝงอ้างอิงดัชนี (Index Linked Note) เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น ช่วยต่อยอดความมั่งคั่งทางการเงิน พร้อมคุ้มครองเงินต้น

อีกทั้งธนาคารฯยังได้มีการจัดทีม Private Banking ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนเพื่อยกระดับการให้บริการ พร้อมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อขยายฐานลูกค้าผ่านบัตรเครดิต ttb reserve รวมถึงเดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้า Wealth ที่มีบุตรหลานเรียนต่างประเทศ และมุ่งเน้นการส่งมอบ Wellness Solution เพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน