นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการรับซื้อผลไม้ฤดูการผลิตปี 2561 ระหว่าง กระทรวงพาณิชย์ กับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ผู้ส่งออก และตลาดกลางสินค้าเกษตรในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน ที่กระทรวงพาณิชย์   โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของไทย ที่ต้องการสร้างให้ไทยเป็นมหานครผลไม้ของโลก สิ่งนี้จำเป็นต้องมีตลาดเป็นตัวผลักดันภาคการผลิต การลงนามในวันนี้ไม่เพียงเป็นเพียงข้อตกลงของในฤดูกาลนี้ แต่เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการในระยะยาวจึงเป็นกิจกรรมหัวลากที่สำคัญ   ผลผลิตด้านผลไม้เป็นสิ่งที่ไทยเข้มแข็งที่สุดในภูมิภาคนี้ ถือเป็นสมบัติของประเทศ ภารกิจนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สอดรับกับกระทรวงเกษตรฯที่ต้องการให้ใช้การตลาดเป็นตัวนำ สร้างความมั่นใจให้เกษตรกรมีช่องทางในการขาย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนหลายฝ่าย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพันธมิตรที่ดีของกระทรวงพาณิชย์ตลอดมา นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ผลจากการลงนามในครั้งนี้จะก่อประโยชน์ต่อผู้บริโภคและเกษตรกร และขยายผลไปสู่การสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการด้านผลไม้ในโอกาสต่อไป   การรับซื้อผลไม้ในครั้งนี้เป็นการรับซื้อโดยตรงจากเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร โดยมีรอบการรับซื้อตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เป็นต้นไป มีปริมาณการรับซื้อไม่ต่ำกว่า 3 แสน 3 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยมีผู้รับซื้อประกอบด้วย บริษัท ไชน์โฟร์ท จํากัด บริษัท ไทยแอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด(ตลาดไท) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท เอกชัย ดิสทริบิวชั่น จํากัด (เทสโก้โลตัส) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จํากัด บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จํากัด (ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต) บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จํากัด (มหาชน)   หลังการลงนามนายสนธิรัตน์ได้กล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า กิจกรรมนี้เป็นการเริ่มต้นของการเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรกับผู้จัดจำหน่ายทั้งภายในและส่งออก นับเป็นการเซ็น MOU ที่มีมูลค่าและปริมาณที่ค่อนข้างสูง ซึ่งการมีตลาดที่มั่นคงจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการผลิตที่สำคัญ และนำไปสู่มาตรการการเป็นมหานครผลไม้ของโลก นั่นคือการกำหนดมาตรฐาน สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความเข้มแข็งของภาคการผลิต นำไปสู่การตลาดที่มั่นใจ เป็นการสร้างแบรนด์หรือตราสินค้าต่อไป   “สำหรับปริมาณการผลิตผลไม้ไทยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 5-6 ล้านตัน ซึ่งดูจากสภาพภูมิอากาศแล้วปีนี้น่าจะให้ผลผลิตที่ดี ต่อจากนี้กระทรวงพาณิชย์ก็จะมีการจับคู่เช่นนี้เหมือนกันแต่จะเน้นที่ต่างประเทศ เริ่มต้นที่ชายแดนไทย-มาเลฯและมณฑลกวางสี” นายสนธิรัตน์กล่าวในที่สุด